8 ก.ย.61 - คืนวันศุกร์ที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ในงานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ)เลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชน ที่โรงแรมรอยัลปริ้นเซส หลานหลวง
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ในฐานะประธานกรธ. กล่าวตอนหนึ่งถึงการทำงานช่วงแรกของกรธ. ว่า ทราบว่ากรธ.ทุกคนเคยได้ยินชื่อของตน แต่ทุกคนมีความรู้สึกแตกต่างกัน บางคนคิดว่าตนเป็นฝ่ายทหาร เพราะไม่ว่าจะปฏิวัติกี่ครั้งจะมีชื่อไปยุ่งด้วยทุกที บางคนคิดว่าตนตามใจผู้มีอำนาจสั่งให้ทำอะไรก็ทำแบบนั้น แต่เชื่อหรือไม่ว่าตนรู้จักทหารน้อยที่สุด และไม่เคยสนิทสนมกับคนที่เป็นทหารในราชการ ยกเว้น 2-3คนที่กินข้าวด้วยกัน ซึ่งเกษียณราชการไปนานแล้ว แต่คนที่เป็นทหารมีอำนาจในบ้านเมือง ยืนยันว่าไม่รู้จัก
นายมีชัย เล่าว่า สมัยปฏิวัติของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลินนั้น เขานำทหารมาล็อกตัวไปจากบ้าน แล้วพาไปที่กองบัญชาการ ถนนราชดำเนิน เป็นครั้งแรกที่เข้าไป ซึ่งเขาบอกว่ากำลังปฏิวัติกัน เชื่อหรือไม่ว่าตนไม่รู้จักว่าใครเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ มีมา 3 คน มารู้ทีหลังว่าคนหนึ่งคือพล.อ.สนธิ คนหนึ่งคือพล.วินัย ภัทธิยะกุล และคนหนึ่งคือพล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.) ในตอนนั้นเรียกว่าไม่รู้จักจริงๆ พอเขาเล่าให้ฟังว่าจะปฏิวัติก็รู้สึกตกใจจริงๆ คิดว่าไปเอาตัวเรามายังไม่ได้ปฏิวัติเลย ยังไม่ได้แถลงการณ์ฉบับที่หนึ่งเลย เราไม่ตายไปกับเขาด้วยหรือเ
"ผมเจอเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวมา 2-3 ครั้ง โดยการปฏิวัติรอบล่าสุดของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผมก็ไม่รู้ว่าพล.อ.ประยุทธ์หน้าตาเป็นอย่างไร"นายมีชัย กล่าวและว่าเมื่อเขาส่งร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวให้คณะกรรมการกฤษฏีกาทำ โดยตั้งเป็นคณะพิเศษขึ้น 1 ชุด และหัวหน้าคณะปฏิวัติก็ส่งพล.ต.วิระ โรจนวาศ กรธ. เข้าไปนั่งฟังด้วย ซึ่งเมื่อฟังไปฟังมาแทนที่ตนจะกลัวพล.ต.วิระ กลับกลายว่าพล.ต.วิระกลัว ก็เลยไม่มีปัญหาอะไร
ประธานกรธ. กล่าวว่าตนไม่เคยสนิทสนมกับทหาร และรู้จักทหารน้อยที่สุด เชื่อว่านายอมร วาณิชวิวัฒน์ กรธ. รู้จักทหารมากกว่าหลายเท่า
นายมีชัย เล่าด้วยว่า "วันหนึ่งผมไปกินข้าวที่ห้างสรรพสินค้า ก็ได้เจอกับผู้ชายตัวใหญ่ๆ เขาคนนั้นก็ยกมือไหว้ และแนะนำตัวว่าเป็นพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผมก็ทำหน้างงว่าอภิรัชต์ไหน เขาจึงขยายว่าอภิรัชต์ ลูกบิ๊กจ๊อด (พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์) ผมจึงคลายสงสัย เพราะบิ๊กจ๊อดผมรู้จัก"
"บิ๊กจ๊อดนี่ถ้ารักใครมากวิธีแสดงความรักคือจะตบหลังแรงที่สุด ซึ่งสมัยผมเป็นประธานวุฒิสภาเคยโดนตบหลังแรงที่สุด เพราะบิ๊กจ๊อดไปรวบรวมรายชื่อเพื่อเปิดประชุมวิสามัญ แล้วผมในฐานะประธานวุฒิสภา ก็ออกมาบอกว่าสมาชิกวุฒิสภาไม่ควรเข้าชื่อ เพราะเราเป็นกลาง ไม่ควรยุ่งกับการเมือง บิ๊กจ๊อดโกรธ เพราะสว.ไปถอนชื่อออกหมด จนเปิดสมัยประชุมไม่ได้ มีคนลือว่าผมหักหลังบิ๊กจ๊อด ซึ่งความจริงไม่ใช่ แต่ไม่เคยมีใครบอกผมเลยว่าจะมีการเข้าชื่อกัน พอผมลงจากรถ สื่อมวลชนมาถามว่าสว.ไปเข้าชื่อกันเพื่อเปิดสมัยประชุมรู้สึกอย่างไร ผมก็ตอบว่าไม่ถูก เพราะเป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฏร ปล่อยให้เขาเดินกันไป เมื่อสมาชิกได้ยินจึงถอนชื่อ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเข้าชื่อกันไปแล้ว จริงๆถ้ารู้ว่าเข้าชื่อ อาจไม่ตอบแบบนั้นก็ได้
วันหนึ่งผมเจอบิ๊กจ๊อด ผมก็บอกว่าพี่ผมไม่รู้จริงๆว่าพี่สั่งเขาอย่างไร ทำไมไม่มาบอกผมก่อน บิ๊กจ๊อดก็ตบหลังพร้อมกับบอกว่า เออ แล้วไป ผมถือว่าบิ๊กจ๊อดเป็นนักเลง น่านับถือ ไม่เครียดแค้นไม่อาฆาต”
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |