รองเลขาฯ อสส.ชี้หมู่บ้านเจ้าของอุโมงค์ที่มีคนจมน้ำส่อผิดฐานละเมิด เผยช่วงหัวค่ำมีเก๋งบีเอ็มดับเบิลยูลงไปเสียมาแล้ว แต่กลับไม่มีการแจ้งเตือนลูกบ้านหรือการป้องกันที่ดีพอ ระบุการแจ้งทางไลน์ คนขับรถจะอ่านได้อย่างไรในเมื่อมี กม.ห้ามใช้มือถือขณะขับรถ ตำรวจเตรียมเรียกผู้ก่อสร้างอุโมงค์สอบหลังพบจุดบกพร่องน้ำซึมเข้าตลอดเวลา กทม.ล้อมคอกสั่ง 50 เขตเร่งสำรวจพร้อมวางมาตรการป้องกันภัย

    นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองเลขานุการอัยการสูงสุด และรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด   กล่าวเมื่อวันศุกร์ กรณีมีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำภายในอุโมงค์ทางลอดเข้า-ออกหมู่บ้านโกลเด้นนครา เขตประเวศ ว่าจากการติดตามข่าว ทราบข้อมูลว่ากรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่ครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้ในวันดังกล่าวมีรถวิ่งเข้าอุโมงค์และจมน้ำมาก่อนแล้ว แต่สามารถช่วยไว้ได้ทัน ก่อนจะเกิดเหตุซ้ำในช่วงเที่ยงคืนและผู้เสียหายจมน้ำเสียชีวิต 
    "ในทางกฎหมายต้องมาตรวจสอบว่าพื้นที่อุโมงค์ใครเป็นผู้ครอบครองดูแล ถ้าหากเป็นของหมู่บ้าน ถือเป็นที่ของเอกชน ซึ่งหมู่บ้านก็ดูแลโดยนิติบุคล และมีการเก็บค่าส่วนกลางเพื่อนำไปใช้จ่ายดูแลความเรียบร้อยในหมู่บ้าน เปรียบให้เห็นภาพชัดเจนคือ หากเป็นที่ทาง ถนนหนทาง หรือในกรณีที่มีอุโมงค์เข้าหมู่บ้าน หากเกิดความเสียหาย อันตรายใดๆ ขึ้นแล้วไม่มีการดูแล ก็เข้าข่ายความผิด ละเมิดต่อบุคคลอื่น" 
    นายโกศลวัฒน์กล่าวว่า กรณีนี้ยังไม่มีการฟ้องร้อง แต่จากข่าวที่ออกมา หลังเกิดเหตุครั้งแรก ก็ยังไม่ได้มีการใช้ไม้กั้น เครื่องกั้น หรือสัญลักษณ์ป้องกันแสดงให้ลูกบ้านที่สัญจรผ่านทางนี้ทราบว่ามีน้ำท่วมในอุโมงค์ แม้ทางหมู่บ้านจะอ้างว่ามีการส่งข้อความแจ้งลูกบ้านผ่านแอปพลิเคชันไลน์แล้ว แต่ในกรณีนี้หากลูกบ้านกำลังขับรถ ไม่ได้อ่านไลน์ เพราะตามกฎหมายจราจรห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ตรงนี้หมู่บ้านจะต้องคิดว่าจะป้องกันอันตรายจากเหตุที่เกิดได้อย่างไร ซึ่งตามข้อมูลที่ปรากฏ หลังเกิดเหตุครั้งแรก แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการป้องกัน ก็ถือเข้าข่ายผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เรื่องการละเมิด โดยในมาตรา 420 บัญญัติว่า ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น ผู้เสียหายสามารถฟ้องร้องค่าเสียหายจากหมู่บ้านได้ ส่วนหมู่บ้านที่ออกมาอ้างว่าได้ส่งข้อความแจ้งเตือนทางไลน์แล้ว หลักฐานข้ออ้างตรงนี้จะมีน้ำหนักเพียงพอหรือไม่ ก็ต้องไปต่อสู้ในชั้นศาล ให้ศาลตัดสินว่ามีน้ำหนักมากพอหรือไม่
    เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา น.ส.ภานุมาศ แซ่แต้ อายุ 41 ปี ผู้จัดการบริษัท ออพติโม (ประเทศไทย) จำกัด พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านโกลเด้นนครา เขตประเวศ ขับรถกระบะออกจากบ้านลงอุโมงค์เพื่อจะไปออกถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ปรากฏน้ำท่วมอุโมงค์สูงมาก ทำให้เครื่องยนต์ดับ น.ส.ภานุมาศว่ายน้ำไม่เป็นจึงโทรศัพท์เรียกคนมาช่วย แต่ไม่ทันการณ์ ตัวเองจมน้ำเสียชีวิตคารถ
    พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง โดยได้สอบปากคำไปแล้ว 7 ปาก ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน 4 ปาก, นิติบุคคลของหมู่บ้าน 2 ปาก และเพื่อนของผู้เสียชีวิตที่ น.ส.ภาณุมาศโทร.ไปขอความช่วยเหลือ 1 ปาก ส่วนญาติยังไม่ได้สอบปากคำ เนื่องจากทางครอบครัวขอดำเนินการเรื่องศพก่อน ซึ่งตำรวจเตรียมเรียกช่างทำระบบเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยอยู่ระหว่างประสานกับนิติบุคคลตรวจสอบว่าใครเป็นผู้สร้างอุโมงค์ดังกล่าว 
เบื้องต้นพบว่าระบบของอุโมงค์มีความบกพร่อง คือมีน้ำรั่วซึมเข้ามาโดยไม่ได้เกิดจากน้ำฝนที่ไหลมาตามธรรมชาติ 
    ด้านนายธนะสิทธิ์ เมธพันธุ์เมือง ผอ.เขตประเวศ ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอุโมงค์ทางลอดเข้าหมู่บ้านโกลเด้นนครา ก่อนกล่าวว่า แม้จะเร่งสูบน้ำออกต่อเนื่อง แต่ในอุโมงค์ยังมีน้ำเจิ่งนองอยู่ สันนิษฐานว่าในอุโมงค์อาจมีรอยรั่วจุดใดจุดหนึ่ง จึงได้ระดมเครื่องสูบน้ำเร่งสูบน้ำออก เพื่อให้ทราบสาเหตุที่แท้จริง พร้อมเรียกตัวแทนนิติบุคคล ตรวจสอบระบบการระบายน้ำ ส่วนใครเป็นผู้อนุญาตก่อสร้างอุโมงค์ทางลอด ขอเวลาตรวจสอบก่อน เพราะอุโมงค์แห่งนี้เปิดใช้งานมานานกว่า 20 ปี
    นายธนะสิทธิ์กล่าวด้วยว่า เมื่อเวลาประมาณ 21 น. วันที่ 5 ก.ย. รถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สีขาว ลงไปเสียในอุโมงค์ พบว่าน้ำอยู่ระดับกันชนหน้า ความสูงประมาณ 60 เซนติเมตร ดังนั้นจะมีระดับน้ำอยู่เกือบ 400 ลูกบาศก์เมตร กระทั่งเวลาประมาณ 00.27 น.วันที่ 6 ก.ย. รถยนต์ของ น.ส.ภานุมาศมาจม ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที มีน้ำเพิ่มมาอีก 1,613.5 ลบ.ม.น้ำจำนวนนี้มาได้อย่างไร ยังอยู่ระหว่างการหาสาเหตุ ในส่วนของการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทางเขตได้นัดนิติบุคคลหรือผู้แทนของหมู่บ้านในเขตพื้นที่มาประชุมวางแนวป้องป้องกัน เช่น การติดตั้งกล้องซีซีทีวี จัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือกรณีรถจมน้ำ การแจ้งเตือนเมื่อน้ำมีระดับสูง ในส่วนของหมู่บ้านโกลเด้นนครา จากการตรวจสอบต่อทราบพว่าเครื่องสูบน้ำของหมู่บ้านไม่ได้เสีย และท่อสูบน้ำออกก็ไม่ได้แตก 
    ขณะที่นายสมศักดิ์ มีอุดมศักดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กล่าวว่า อุโมงค์ทางลอดที่ใช้สัญจร เฉพาะในความดูแลของ กทม.มีด้วยกัน 19 แห่ง แต่ละแห่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำถาวร และตรวจเช็กสภาพตลอด ส่วนในพื้นที่เอกชน เจ้าของพื้นที่จะติดตั้งเอง แต่หากจำเป็น สามารถขอเครื่องสูบน้ำสนับสนุนจากสำนักการระบายน้ำได้เช่นกัน
    สำหรับเหตุการณ์หญิงจมน้ำเสียชีวิต ตำรวจ สน.ประเวศ เร่งสอบเพิ่มประเด็นการเปิด-ปิดเครื่องสูบน้ำ ความยาวเส้นทางอุโมงค์ และเหตุดังกล่าวเกิดจากความประมาทหรือไม่ เพราะผู้อาศัยในหมู่บ้านนาน 20 ปี บอกว่าไม่เคยมีเหตุน้ำท่วมขังอุโมงค์สูงขนาดนี้มาก่อน ส่วนเหตุที่เกิดขึ้น คาดว่าผู้เสียชีวิตขับรถลงทางลอด เพื่อข้ามมาถนนฝั่งมอเตอร์เวย์ แม้จะเห็นอุโมงค์มีน้ำท่วมขัง แต่คิดว่าขับลุยน้ำผ่านไปได้ ซึ่งผิดคาด รถเกิดดับกลางอุโมงค์ และน้ำกลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้เสียชีวิตจึงพยายามโทร.เรียกคนที่บ้านให้มาช่วย เนื่องจากหนีออกมาจากรถไม่ทัน ประกอบกับว่ายน้ำไม่เป็น สุดท้ายน้ำท่วมมิดคันรถ นักธุรกิจสาวเสียชีวิตร่างลอยติดอยู่เพดานรถ
    นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทั้ง 50 เขต และสำนักการโยธา แจ้งเจ้าของพื้นที่ที่เป็นของเอกชน และมีการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอด ให้ช่วยตรวจสอบและหมั่นดูแลบำรุงรักษาระบบป้องกันน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอาจจะเกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ ขณะเดียวกัน ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบระบบไฟฟ้าส่องสว่าง ระบบไฟฟ้าในอุโมงค์ ระบบเครื่องสูบน้ำ เพื่อไม่ให้ขัดข้องระหว่างปฏิบัติงาน ตลอดจนให้คำแนะนำแนวทางและซักซ้อมในการรับมือเพิ่มเติม รวมทั้งจัดเตรียมเจ้าหน้าปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมง กรณีมีเหตุฉุกเฉิน
    ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ นายรุ่งสิทธิ์ เตชะวงศ์สกุล น้องชาย น.ส.ภานุมาศ แซ่แต้ พร้อมครอบครัว เดินทางไปรับศพ น.ส.ภานุมาศ เพื่อนำไปตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดกระทุ่มเสือปลา แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม. จากนั้นจะนำไปฝังที่สุสานบริษัท เนอร์วาน่า เมมโมเรียล ปาร์ค จำกัด อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี โดยทั้งหมดปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ บอกเพียงว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว
     มีรายงานว่า แพทย์นิติเวชได้ชันสูตรศพแล้ว ระบุว่า น.ส.ภานุมาศเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ เนื่องจากสำลักน้ำและของเหลว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังรับศพ น.ส.ภานุมาศจาก รพ.ตำรวจ ญาติได้นำร่าง น.ส.ภานุมาศเดินทางไปยังอุโมงค์จุดเกิดเหตุ ทำพิธีเชิญวิญญาณออกจากสถานที่ดังกล่าว.