"บิ๊กเจี๊ยบ" ประชุมหน่วยขึ้นตรงก่อนอำลาตำแหน่ง พอใจผลงาน 2 ปี ปิดประตูเล่นการเมือง แต่ไม่ปิดโอกาสกลับมาช่วยชาติ เชื่อมั่น “อภิรัชต์” สานงานต่อได้ "บิ๊กแดง” ประเดิมงานตามนายกฯ ลงพื้นที่ เปรยต้องฟิตขึ้น 

    เมื่อวันที่ 7 ก.ย. พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.) ครั้งสุดท้ายก่อนเกษียณอายุในเดือน ก.ย.ว่า ได้สรุปผลงานการทำงานในห้วงปีที่ผ่านมาในแต่ละด้าน โดยให้ฝ่ายเสนาธิการสรุปแนวนโยบายที่ดำเนินการให้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ในฐานะว่าที่ ผบ.ทบ.คนใหม่พิจารณา โครงการหรือแนวทางใดที่สามารถดำเนินการต่อได้ก็ดำเนินการ แนวทางใดจะเปลี่ยนแปลงก็ดำเนินการได้เช่นกัน 
“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่มีสิ่งใดที่ไม่สำเร็จ รู้สึกพอใจในสิ่งที่กำหนดเป็นนโยบายและผู้ใต้บังคับบัญชาสามารถปฏิบัติได้ มีผลสัมฤทธิ์ที่ดี ได้ทำในสิ่งที่ตั้งเป้าหมายไว้ บางเรื่องก็ดำเนินการตามที่อดีตผู้บังคับบัญชาได้ให้แนวทางไว้ สำหรับชีวิตหลังเกษียณนั้น ไม่อยากลงเล่นการเมือง เมื่อถึงเวลาที่เราเกษียณคงจะโล่ง มีเวลาทำอะไรที่เป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น ส่วนจะกลับมารับใช้ชาติอีกครั้งหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ เป็นเรื่องอนาคต เพราะสถานการณ์ข้างหน้าเป็นอย่างไร มีอะไรที่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมเราก็ทำ” พล.อ.เฉลิมชัยกล่าว
    พล.อ.เฉลิมชัยยังกล่าวว่า ในส่วนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และได้เน้นในแต่ละประเด็นที่ดำเนินการตามภารกิจของ กกล.รส.ทุกอย่าง ไม่มีประเด็นไหนที่น่าห่วงใย และเมื่อมีการปลดล็อกให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง เชื่อว่าทุกภาคส่วนต้องมีการเตรียมการเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง การเคลื่อนไหวของมวลชนอาจน้อยลง อาจจะมีประเด็นเรื่องที่เคยห่วงใยเรื่องการเคลื่อนไหวด้านโซเชียลมีเดีย แต่ก็มีกลไกที่เข้ามาดูแล ดูแล้วบทบาทของ กกล.รส.ดำเนินการไปตามกรอบ 
“หลังคลายล็อกทางการเมือง ไม่จำเป็นว่าต้องดูแลให้มีความเข้มงวด ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในสภาวะที่เหมาะสม โดยปกติใช้กำลังตำรวจเป็นหลัก เรื่องของการดูแลสถานการณ์ ยกเว้นมีความจำเป็นที่ต้องใช้ กกล.รส.ในแต่ละภารกิจ" พล.อ.เฉลิมชัยกล่าว
    พล.อ.เฉลิมชัยยังชี้แจงประเด็น พล.อ.อภิรัชต์ถูกโจมตี หลังมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางการเมืองในอดีต ว่าเมื่อสถานการณ์ผ่านไป ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เราพิจารณาตามความเหมาะสม ซึ่งเชื่อว่า พล.อ.อภิรัชต์สามารถนำพากองทัพไปข้างหน้าได้ แต่ละสถานการณ์ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลา เมื่อท่านมาทำหน้าที่ ผบ.ทบ. ก็จะมีกรอบในการดำเนินการสิ่งเหล่านี้ ไม่ควรมองย้อนไปในอดีต รวมถึง พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 ถือว่าทุกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ทุกคนผ่านการกลั่นกรอง โดย พล.ท.พรศักดิ์อยู่ในพื้นที่มีความรู้ความเข้าใจสถานการณ์ คนที่รับราชการมากว่า 30 ปี มีขีดความสามารถทุกคน
    สำหรับกรณีการย้ายหน่วยทหารออกนอกพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ตั้งคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการดำเนินงานกองทัพบก เพื่อรองรับยุทธศาสตร์ชาติ โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เสนาธิการทหารบก เป็นประธาน มีคณะทำงานในการดำเนินการ 3 เรื่อง 1.การจัดทำโครงสร้างของกองทัพให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในอนาคต หน่วยใดที่จำเป็นน้อยลงจะยุบหน่วย หรือปรับเปลี่ยน และหน่วยใดจำเป็นที่ต้องเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ หรือมียุทโธปกรณ์สมัยใหม่เข้ามา ก็พิจารณาดำเนินการ 2.กำลังพลของกองทัพบก ซึ่งสถานภาพของกำลังพลในปัจจุบันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นสอดรับกันหรือไม่ ทำอย่างไรถึงจะลดกำลังพลได้ เพราะขณะนี้ต้องใช้งบประมาณด้านกำลังพลเกือบ 50% และ 3.การจัดระเบียบที่ตั้งหน่วยทหารให้สอดคล้องกับภารกิจที่ได้รับในกลุ่มเดียวกัน และจะมีการย้ายหน่วยบางหน่วยไปภายนอก เพื่อลดความคับคั่งในพื้นที่  
“การทำงานที่ผ่านมา มีหน่วยที่มีรถยานเกราะ รถถังประจำการอยู่ เมื่อจะฝึกก็ต้องขนย้ายออกไปข้างนอกในพื้นที่ต่างจังหวัด เช่น สระบุรี ซึ่งไม่สะดวก ตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นถือเป็นแผนระยะยาว ทั้งหมดขึ้นอยู่การอนุมัติให้ดำเนินการได้ รวมถึงงบประมาณที่จะใช้ ซึ่งเรามีการแบ่งเป็นเฟสทั้ง 3 เรื่อง” พล.อ.เฉลิมชัยกล่าว
    ผบ.ทบ.ระบุอีกว่า ที่สำคัญเราเป็นข้าราชการ จะมาอยู่ติดพื้นที่ไม่ได้ จะคิดว่าจะลงหลักปักฐาน ครอบครัวต้องอยู่ตรงนี้คงไม่ได้ รวมถึงเมื่อหน่วยต้องย้าย เราก็ต้องย้าย แต่ถ้าเกิดความเดือดร้อน ผู้บังคับบัญชาก็จะดูตามความเหมาะสม มันมีกระบวนการอยู่ อย่าไปบอกว่าย้ายหน่วยแล้วจะเดือดร้อน จะมีห้วงเวลา มีขั้นตอนของแต่ละเรื่อง โดยตนเองเป็นทหารรับราชการอยู่ลพบุรี 24 ปี ย้ายบ้าน 15 ครั้ง เป็นการย้ายตามตำแหน่ง 
    “เราเป็นข้าราชการทหาร ซ้ายก็คือซ้าย ขวาก็คือขวา ปีนี้ต้องไปรับราชการสนาม หน้าที่คุณก็ต้องไป ไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธ ถ้าติดปัญหา ผู้บังคับบัญชาก็มีความเมตตา อาจขยายเวลาในการไป จะพิจารณาเป็นรายบุคคล แต่ในภาพรวมต้องเป็นไปตามนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำแผน ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระยะ ถ้าหน่วยได้รับการอนุมัติฯ จะมีกรอบเวลา ทุกคนมีโอกาสได้เตรียมตัว อย่าวิตกกังวล ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบ มีมาตรการดูแล” ผบ.ทบ.ระบุ 
    วันเดียวกัน คณะ พล.อ.ประยุทธ์ได้ลงพื้นที่ จ.ลพบุรี ทั้งนี้ พล.อ.อภิรัชต์ได้ร่วมคณะในครั้งนี้ด้วย ช่วงหนึ่งที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ พล.อ.ประยุทธ์ได้แนะนำรัฐมนตรีที่ร่วมเดินทางมาด้วย และแนะนำ พล.อ.อภิรัชต์กับประชาชนด้วยว่า "คนนี้ พล.อ.อภิรัชต์ ยังไม่ได้เป็น ผบ.ทบ. แต่สื่อเขียนไปเรื่อย เขียนไปจนจะเป็นนายกฯ อยู่แล้ว"
    ทั้งนี้ เมื่อถาม พล.อ.อภิรัชต์ว่าช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง พล.อ.อภิรัชต์ตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า "ช่วงนี้ก็ต้องฟิตหน่อย".