7 ก.ย.61 - ผลชันสูตรศพสองนักศึกษาไทยที่เสียชีวิต ในอะพาร์ตเม้นต์ ย่านซีแอตเทิล ปรากฏว่าน.ส.กรกมล หลีนวรัตน์หรือ น้องแอ๋ม ถูกเพื่อนที่เป็นรูมเมท น.ส.ฐิฏิอร โชติช่วงทรัพย์ หรือ อร ซึ่งถูกระบุ ใช้มีดแทงหลายบาดแผล ก่อนที่เพื่อนจะฆ่าตัวตายตาม ไม่มีบุคคลอื่นทำให้เสียชีวิต

โดยสำนักงานชันสูตรของ คิง เคาน์ตี้ (King County Medical Examiner’s Office) เปิดเผยผลชันสูตรการเสียชีวิตของ น.ส.กรกมล หลีนวรัตน์ หรือ น้องแอ๋ม อายุ 25 ปี และ น.ส.ฐิฏิอร โชติช่วงทรัพย์ หรือ อร อายุ 32 ปี ที่พบศพในอะพาร์ตเม้นต์ ย่านซีแอตเทิล รัฐวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ

ผลชันสูตร ระบุว่า น้องแอ๋ม น.ส.กรกมล ถูกเพื่อนที่เป็นรูมเมท คือ อร น.ส.ฐิฏิอร แทงด้วยมีดหลายแผลอาการสาหัสและเสียชีวิต ส่วนตัวของ น.ส.ฐิฏิอร ได้ใช้มีดแทงตัวเองตายตามที่บริเวณหน้าอก สอดคล้องกับความเห็นของพนักงานสืบสวนว่า การเสียชีวิตครั้งนี้ไม่พบร่องรอยของผู้กระทำผิดที่เป็นบุคคลที่สาม แต่เป็นการฆาตกรรมและฆ่าตัวตายตาม สำหรับรายงานผลชันสูตรอย่างเป็นทางการ จะเปิดเผยใช้อีกประมาณ 8 สัปดาห์ หรือ 2 เดือน

ทั้งนี้ ครอบครัวน้องแอ๋มอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อรับศพของ น้องแอ๋ม โดยน้องแอ๋ม มีญาติอยู่ในสหรัฐฯ จึงอยู่ในขั้นตอนขอการเตรียมรับศพ เพื่อเดินทางไปนำศพกลับประเทศไทย

นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี เป็นอาของ น.ส.กรกมล กล่าวว่า วันนี้ได้ข้อสรุปและระบุว่า สาเหตุของการเสียชีวิตของหลานสาวนั้นคือ น.ส.ฐิฏิอร หรืออร ได้ใช้มีดแทงน้องแอ๋มหลายแผลจนเสียชีวิติคาประตูห้องพักและได้ใช้อาวุธมีดแทงตัวเองบริเวณหน้าอก 1 แผล ตายตามซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของพนักงานสืบสวนว่าการเสียชีวิตครั้งนี้ไม่พบร่องรอยของผู้กระทำผิดที่เป็นบุคคลที่สาม แต่เป็นการฆาตกรรมและฆ่าตัวเองตายตาม ซึ่งตรงกับที่ตนเองได้คิดไว้ตั้งแต่ทราบข่าวการเสียชีวิตของน้องแอ๋มโดยครอบครัวเตรียมประสานสถานทูตไทย ประจำประเทศสหรัฐฯ ให้ช่วยตรวจสอบและช่วยเหลือในคดีนี้และจะนำศพน.ส.กรกมล หรือน้องแอ๋มกลับมาบำเพ็ญกุศลที่ประเทศไทยอย่างแน่นอน

นายกฤษฎา กล่าวอีกว่าเมื่อช่วงวันแม่ที่ผ่านมา น้องแอ๋มได้เดินทางกลับบ้านมาพบคุณพ่อและพี่ๆ ก่อนเดินทางกลับไปเรียนต่อเมื่อประมาณ 10 วันก่อน กระทั่งติดต่อไม่ได้ โดยหลานสาวไม่เคยเกเรหรือติดต่อไม่ได้ ทำให้ครอบครัวกังวลใจมาก จนมหาวิทยาลัยแจ้งมาว่าไม่ได้ไปเรียนหนังสือ จึงประสานไปที่ญาติอีกคนที่อยู่ซีแอตเทิลให้ช่วยไปดูที่ห้องพัก ก็ไม่พบว่าน้องอยู่ที่ห้อง และไม่ทราบว่าหายไปไหน กระทั่งเจ้าของอพาร์ตเมนต์แจ้งตำรวจว่าพบน้องแอ๋มเสียชีวิตในห้องพักพร้อมเพื่อนรูมเมตที่เป็นสาวทอม เมื่อเข้าไปตรวจสอบในห้องและพบเป็นศพเสียชีวิตแล้ว

นายกฤษฎา กล่าวว่าน้องแอ๋มเรียนจบนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เกียรตินิยมอันดับสอง ก่อนไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในบอสตัน จนจบปริญญาโทด้านกฎหมาย จากนั้นไปเรียนต่อปริญญาอีกใบที่มหาวิทยาลัยในซีแอตเทิล  น้องแอ๋มเป็นคนเก่ง และมีอนาคตไกล แต่ต้องมาเสียชีวิตแบบไม่คาดคิดแบบนี้ ซึ่งตนเองเสียใจการจากไปของหลานสาวในครั้งนี้มาก.

น.ส.กรกมล หลีนวรัตน์