กลับชาติจาก "ยุคกรุงแตก"


เพิ่มเพื่อน    

       "นายนคร มาฉิม"

       ด้วยความขยะแขยงส่วนตัวที่ผลักดันให้ผมต้องพูดถึง

        คงเป็นเกียรติตระกูล "มาฉิม" และตัวเองมากสินะ.....

        ที่ "ดร.โคลิน สไตน์บัค" ที่ปรึกษาเอกหัวหน้าฝ่ายการเมืองและข้อมูลข่าวสาร

        และ "คัคนางค์ ไกท์" เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมือง สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย

        ได้เข้าพบในถิ่นเลือกตั้งของท่านที่พิษณุโลก เมื่อวาน (๖ ก.ย.๖๑) ด้วยจุดประสงค์

        "ขอทราบสถานการณ์ในประเทศไทย"!

        อื้อฮือ.......

        แสดงว่าคุณนครเป็น "เพชร" ที่คนไทยตาบอด มองเป็น "กรวดใต้ตีน" มานาน

        สู้พวกฝรั่งอียูไม่ได้ ตาแหลม-ตาถึง

        มองพรวดเดียว "ทะลุกรวด" ใต้ตีน เห็น "เพชรน้ำวาว" ที่ฝังอยู่ข้างใน ในความเป็น "นคร มาฉิม"

        ที่พวกอียูต้องเข้าคารวะ ขอความรู้สถานการณ์ประเทศไทย

        พูดกันตรงๆ.........

        ผู้จะบอกได้ถึงสถานการณ์ประเทศไทยตรงตามเป็นจริงนั้น "ในบ้านเมือง" มีเป็นแสน-เป็นล้านคน

        ไม่มีชื่อ "นคร มาฉิม" หรอก

        แต่อียูแก๊งนี้ ทำให้ทึ่ง ทึ่งทั้งความเป็นกูรูในตัวนายนครและทั้งบทบาทชาติศิวิไลซ์ฝรั่งอียู?

        ทำไมอียูจึงเจาะจงไปขอความรู้จากนายนครที่พิษณุโลก?

        ทราบจากที่นายนครโพสต์ fb เองว่า

        เขาทำหนังสือยื่นถึง "สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย"

        ยื่นผ่าน "ดร.โคลิน สไตน์บัค" ที่ปรึกษาเอกหัวหน้าฝ่ายการเมืองและข้อมูลข่าวสาร

        หนังสือที่ยื่นนั้น ผมอ่านแล้ว พูดได้คำเดียว

        เหมือนคนไทย "ขายบ้าน-ขายเมือง" ตัวเอง ให้ต่างชาติ อย่างนั้นชัดๆ!

        คือนายนคร ทำหนังสือฟ้องร้องประเทศไทยและรัฐบาล คสช.ต่อสหภาพยุโรป

        ใจความว่าไงบ้าง เดี๋ยวจะเอาให้อ่าน

        เมื่อตัวแทนอียูที่อยู่ในไทยรับหนังสือ ก็ยกคณะเดินทางไปพบนายนครผู้ "ชักน้ำเข้าลึก-ชักศึกเข้าบ้าน" ทันที

        อียูไว หรือเตี๊ยมกับแก๊งเปิดประตูเมืองกันไว้แล้ว นั่นไม่ทราบได้

        จำได้เพียงว่า...........

        อียูคณะนี้ คุ้นๆ บทบาทที่เคยคลุกกับแก๊งอยากเลือกตั้งมาก่อน!

        นายนครกำลังเปลี่ยนจากพรรคหนึ่ง ไปสังกัดอีกพรรคหนึ่ง ในเลือกตั้งที่จะถึง

        นายนครจะเล่นบทใดเพื่อการสร้างตัว-สร้างราคาทางการเมือง นั่นเป็นสิทธิของนายนคร

        "ชอบ-ไม่ชอบ" เป็นสิทธิของผม เท่ากับขยะแขยงที่จะแตะ

        แต่การสร้างราคาของนายนครครั้งนี้ ผม..ในฐานะ "ถือหุ้นประเทศ" ด้วยคนหนึ่ง

        อ่านหนังสือที่คุณลากไส้ประเทศของผมออกมาให้แร้งกานอกชาติรุมทึ้งแล้ว

        ผมทนเฉยในการกระทำของคุณไม่ได้ จึงต้องพูด

        อียู เป็นใคร.......

        ส่วนคุณเป็นคนไทย บ้านเมืองที่อยู่วันนี้ ก็เป็นบ้านเมืองไทยของคุณด้วย พื้นที่ที่คุณเคยเป็น ส.ส. ก็เป็นพื้นที่ประเทศไทย

        ร้อยวัน-พันปี-หมื่นเหตุแปรผัน คุณก็อยู่ได้ รับสภาพมันได้ ทำมาหากินเป็น ส.ส.ได้ มีเหรียญตราประดับอก-ประดับบ่าได้

        แต่ ถึงวันนี้ พอเปลี่ยนอีกขั้ว ไปอีกขั้ว........

        อะไรๆ ในความเป็นประเทศที่ไม่ใช่ระบอบทักษิณขยุ้มกำ มันเลวไปทั้งหมด

        "ประเทศไทย" แก้ไขปัญหา "ด้วยคนไทย" ด้วยกันไม่ได้แล้ว

        ต้องไป "ชักน้ำเข้าลึก-ชักศึกเข้าบ้าน"

        พยายามสร้างผลงานประหนึ่ง คอยเปิดประตูเมืองให้พม่าเข้ายึดพระนครและเผาเมือง

        ในเจตนาคุณคืออะไร........

        ตอนยังไม่คิดเปลี่ยนพรรค เมื่อ ๒๒ พ.ค.๕๗ คณะ คสช.เข้าควบคุมอำนาจปกครองประเทศ

        จึงไม่เห็นคุณรักประชาธิปไตย แสดงบทต่อต้าน คสช. และไม่เคยกล่าวหารัฐบาล คสช.ด้วย ๔ ข้อหา อย่างที่กล่าวหาตอนนี้เลย?

        นายนคร........

        คุณเป็นคนเยี่ยงใดกันแน่?

        ที่เรียกร้องให้อียู ซึ่งเป็นคนนอกชาติ ให้เข้ามาควบคุม-บังคับประเทศไทย ให้ปล่อย "นักโทษการเมือง" ทั้งหมด

        พฤติกรรมเยี่ยงนี้ วจีก่อนยุคพ่อขุนราม ว่า

        "อ้าปากก็เห็นส้นตีนโผล่"!

        ผมงงมาก..........

        คุณบอกว่า ทำหนังสือร้องเรียนไป ทางคณะอียูก็เดินทางมาพบ เมื่อวาน (๖ ก.ย.)

        แต่หนังสือร้องเรียนตามที่โพสต์ ตลอดถึงข้อความบ่งถึงคณะอียูเข้าพบแล้ว

        บ่งว่า "เกิดในวัน-เวลาเดียวกัน" คือ วันที่ ๖ ก.ย.ทั้งหมด

        ซึ่งขัดแย้ง "ธรรมชาติเป็นจริง"

        จดหมายเรียกร้องให้ชาติอียูเข้ามาแทรกแซงไทยของนายนครยาวมาก สรุปย่อก็ประมาณนี้

        นายนครระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และแม่ทัพบก-เรือ-อากาศ และตำรวจ

        รวมถึงข้าราชการระดับสูงหลายคน องค์กรอิสระหลายองค์กร เจ้าหน้าที่ด้านยุติธรรมบางส่วน และนักการเมืองบางกลุ่ม

        ได้สมคบคิดวางแผนสร้างสถานการณ์

        แล้วอ้างเป็นเหตุในการยึดอำนาจของประชาชนไปได้สำเร็จ เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗

        การใช้อำนาจสร้างความเดือดร้อนและความทุกข์ยากลำบาก ใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามที่มีความเห็นต่างทางการเมืองอย่างไม่ยุติธรรม

        ทำให้ประชาชนหวาดกลัวไม่กล้าทวงถามและเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ มีการยกร่างรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจไม่ต่ำกว่า ๒๐ ปี ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ และผ่านการแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา ๒๕๐ คน

        ประชาชนโดยเฉพาะฝ่ายประชาธิปไตยได้ถูกกระทำมาอย่างต่อเนื่องหลายปี

        รวมทั้งการได้รับผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน ด้านการเมืองการปกครอง ด้านเศรษฐกิจและสังคม และด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ  

        โดยเฉพาะด้านการดำเนินคดีกับอดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่อยู่ฝ่ายประชาธิปไตยอย่างรวบรัดและเลือกปฏิบัติ

        ส่วนนักการเมืองและพรรคการเมืองฝ่ายตนจะได้รับการยกเว้นและหาช่องทางช่วยเหลือ

        ท้ายจดหมาย นายนครเรียกร้องคณะผู้แทนสหภาพยุโรป ๕ ข้อ

        ๑.ติดตามและประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทุกรูปแบบในประเทศไทย

        ๒.กดดันให้รัฐบาลเผด็จการทหารไทย เร่งจัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด

        ๓.ส่งตัวแทนร่วมสังเกตการณ์และตรวสอบกระบวนการเลือกตั้งและนับผลการเลือกตั้งในประเทศไทยเป็นไปโดยเสรีและเป็นธรรม เพื่อให้ผลการเลือกตั้งสะท้อนเสียงที่แท้จริงของปวงชนชาวไทย

        ๔.ระงับการให้ความร่วมมือและการเจรจาใดๆ กับรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

        และรอจนกว่าจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมก่อนเท่านั้น

        ๕.กดดันให้มีการปล่อยนักโทษการเมืองทั้งหมดโดยเร็ว และหามาตรการใหม่ ที่ทำให้กระบวนการยุติธรรมเป็นที่พึ่งของคนไทยทุกหมู่เหล่าได้อย่างแท้จริง

        ครับ...นี่ย่อมาก อยากให้ท่านไปหาฉบับประจานตัวนายนครเอง "ฉบับเต็ม" มาอ่าน

        อ่านไป ความรู้สึก "เกลียดสุดเกลียด" จะเกิดอัตโนมัติ!

        การดำเนินคดีไผ่ ดาวดิน, ยิ่งลักษณ์กับรัฐมนตรีกินข้าว นายนครฟ้องอียูว่า

        "รวบรัดและเลือกปฏิบัติ"!

        และยังเบี่ยงเบนข้อเท็จจริง บอกกับอียูว่า...

        "การสังหารหมู่ประชาชนมือเปล่าโดยใช้อาวุธสงครามเช่นที่เกิดขึ้นในปี ๒๕๕๓ ที่มีผู้เสียชีวิตนับร้อยราย บาดเจ็บเกินสองพันราย และพิการนับครึ่งร้อย

       กลับไม่ต้องได้รับโทษทัณฑ์ใดๆ เพราะมีอิทธิพลพิเศษคอยปัดเป่าให้ไม่ต้องได้รับโทษหรือแม้แต่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม"

        คดียังอยู่ในศาล ข้อเท็จจริง ที่ตายนั้น ใครฆ่า กระบวนการพิสูจน์มีอยู่ แต่ที่เห็นคาตา พวกไหนฆ่า พวกไหนจลาจลเผาบ้าน-เผาเมือง นำสู่การเสียชีวิต

        นายนครกลับไม่บอกอียูเขา ตัดตอนถึงคนตายป้ายโทษไปเลย

        ผมจึงขอบอกว่า "รังเกียจคุณมาก" นายนคร!

        ความรู้สึกรักประชาธิปไตย รักยิ่งลักษณ์ของคุณ ทำไมเพิ่งมาตอนนี้

        และอียูเป็นใคร มีอำนาจอะไร ที่คุณต้องไปให้เขามาจัดการบ้านเมืองไทย

        คุณไม่บัดซบ........

        แต่ความคิดคุณ "ไม่แน่"

        ยังไงก็ขอชม เก่งฉิบหะ...เขียนภาษาฝรั่งฟ้องไทยไปถึงอียูได้เป็นสิบๆ หน้า

        เข้าตาอย่างนี้ เก้าอี้รัฐมนตรีต่างประเทศเลยเป็นไง?.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"