นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2561 ( ต.ค.-ธ.ค.2560) ว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 5.51 แสนล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 1.65 พันล้านบาท คิดเป็น 0.3 % ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการชำระค่าประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อกิจการโทรคมนาคมย่าน 1800 MHz (ใบอนุญาต 4G)

ขณะที่รายจ่ายรัฐบาล ส่วนราชการสามารถเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ทั้งสิ้น 9.67 แสนล้านบาท รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลทั้งสิ้น 1.61 แสนล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ธ.ค.2560 อยู่ที่ 1.8 แสนล้านบาท

“ภาพรวมการเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2561 เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป”

สำหรับ ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2561 ( ต.ค.-ธ.ค.2560)  รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิกว่า 5.47 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 2.37 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ การจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น และกรมสรรพสามิต สูงกว่าประมาณการ โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีรถยนต์ สูงกว่าประมาณการ 2.4 พันล้านบาท ภาษีเบียร์ สูงกว่าประมาณการ  483 ล้านบาท.