แหม! ต้องบอกว่า “ปีจอ” ปีนี้เป็น ปีหมาดุระดับ “พิทบูล” หรือ “ร็อตไวเลอร์” กันเลยทีเดียว ไม่ใช่เป็นหมาน่ารักน่ากอดอย่าง “ชิวาวา” หรือ “พูเดิล” เพราะยังไม่พ้นเดือนแรกของปี 2561 ดี ไม่ว่าแวดวงใดก็มีแต่เรื่องร้อน เรื่องฮอตออกมาอย่างต่อเนื่อง ดูง่ายๆ ขนาดแวดวงบันเทิงยังมีเรื่อง “รักร้าง-รักล่ม” ออกมาเป็นระลอกกันทีเดียว ...๐ ในขณะที่แวดวงการบ้านการเมืองเองก็ใช่ย่อย สารพัดสารเพเรื่องประดังเข้ามาแบบเรียก “เหงื่อ” ตกซิกๆ กันเลยทีเดียว โดยเฉพาะใน การประชุมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ครั้งที่ 4/2561 วันที่ 25 ม.ค.นี้ ที่มีวาระเรื่องด่วนพิจารณา “ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พ.ศ. ....” ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งมีการแก้ไขในหลายมาตรา แต่ที่สังคมทุกฝักฝ่ายต่าง “โฟกัส” คือ มาตรา 2 ว่าด้วยการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวภายหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา ...๐ งานนี้ กมธ.ที่มี “วิทยา ผิวผ่อง” เป็นประธานนั้น มีทางเลือก 3 แนว คือ 1.ตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญของอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ให้ใช้บังคับถัดจากวันประกาศ 2.ให้ใช้หลังประกาศเมื่อพ้นกำหนด 90 วันตามที่  กมธ.เสียงส่วนมากมีมติ และ 3.ให้ใช้หลังประกาศเมื่อพ้นกำหนด 120 วัน ที่ “ทวีศักดิ์ สูทกวาทิน” และ “ธานี อ่อนละเอียด” สงวนความเห็นไว้ ...๐ ไม่รู้ว่า “หวย” จะออกแบบไหน แต่ที่แน่ๆ ทำให้ “พรรคเพื่อไทย” ออกแถลงการณ์แบบ “ตีปลาหน้าไซ” คัดค้านการเลื่อนระยะเวลาการบังคับใช้กฎหมายลูกมาแล้ว แต่ที่น่าสนใจเฉกเช่นกัน คือ สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป (อียู) ต่างพร้อมใจกันแบบมิได้นัดหมาย (หรือเปล่า) ในการออกมาย้ำเตือนคำสัญญาของ “ลุงตู่” ที่ประกาศต่อโลกว่าจะจัดเลือกตั้งในเดือน พ.ย.2561!!! ...๐ หลังระเบิดลูกแรกว่าด้วยการยืดเวลาจะจบลงในวันที่ 25 ม.ค. ออกมาหน้าไหน ในวันที่ 26 ม.ค. ก็จะมีระเบิดลูกสองตามมาอีก ใน “ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พ.ศ. .... โดยเฉพาะการแก้ไข “มาตรา 11” ว่าด้วยกลุ่มอาชีพของสภาสูงที่ กรธ.ได้ชงมา 20 กลุ่ม ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ของ กมธ.หั่นมาเหลือ 15 กลุ่ม และยังสงวนคำแปรญัตติไว้หลากหลายมาก เรียกว่า “สะเก็ดบึ้ม” ได้ลุกลามบานตะไทกันแน่ ...๐ นี่ยังไม่นับรวม การขอตีความ “คำสั่ง คสช.ที่ 53/2560” เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่ยังคาราคาซังอยู่อีก เรียกว่าสารพัดเรื่องรุมเร้ากันเลยทีเดียว ...๐ ไม่ต่างจากกรณี “แหวนเพชรแยงตา นาฬิกายืมเพื่อน” ของ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่นับวันมีแต่จะโกโซบิ๊กขึ้นเรื่อยๆ แม้ล่าสุด “ป.ป.ช.” ภายใต้บังเหียนของ “พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ” ประธาน ป.ป.ช. จะขอถอนตัวในการพิจารณาคดีนี้แล้วก็ตาม แต่ใช่ว่าเรื่องดังกล่าวจะสร่างซาลง และไม่ใช่เรื่อง “เซอร์ไพรส์” แต่ประการใด เพราะหาก “บิ๊กกุ้ย” ไม่ถอนตัววันนี้ วันหน้าเมื่อเรื่องใกล้ไคลแมกซ์ก็ถูกสังคมบีบให้ถอนตัวนั่นเอง ที่สำคัญ “สายล่อฟ้า” อย่างพี่ป้อมใครเขาจะปล่อยให้เรื่องเงียบง่ายๆ ได้เล่า …๐ หันมาเรื่อง “คาวโลกีย์” กันบ้าง ว่าด้วยผลพวงจาก “วิคตอเรีย ซีเครท” ที่เริ่มลุกลามไปเรื่อยๆ โดนนอกจาก ทำให้ “โรงอาบ อบ นวด (นาบ)” หลากยี่ห้อหนาวๆ ร้อนๆ แล้ว ยังสะเทือนไปยัง “กระทรวงวายุภักษ์” ว่าด้วยการครอบครอง “หุ้นเครือเดวิส” ด้วย ซึ่งล่าสุดต้องรีบออกมาปัดสวะให้พ้นตัวว่าได้รับมาหลัง ปปง.ยึดทรัพย์ตามกฎหมายตั้งแต่ปี 2555 พระเจ้าจอร์จ! นี่ถ้าประชาชนคนธรรมดามีคนเอากระเป๋ามาให้ ข้างในยัด “ยาบ้า-ยาอี” แล้วตำรวจมาตรวจพบจะผิดไหมเนี่ย ถามหน่อยเถอะทั่นขุนคลัง ...๐ พูดถึงเรื่องคดีไม่เอ่ยอ้างถึง “กปปส.” คงไม่ได้ เพราะเริ่มนับหนึ่งในคดีกบฏกันแล้ว หลังอัยการสูงสูงมีคำสั่งฟ้อง งานนี้ “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศลั่นว่าจะไม่ประวิงเวลา ที่สำคัญยังยืดอกให้ดำเนินคดีเฉพาะ 9 แกนนำ อย่าโยงไปอีก 34 คน ช่างต่างกับอีกซีกหนึ่งเสียนี่กระไร จึงไม่แปลกที่ “สกลธี ภัททิยกุล” แกนนำ กปปส.ถึงกับโพสต์เย้ยไปถึงเรื่อง 2 มาตรฐานที่ใครต่อใครมักยกมาอ้าง รวมถึงการหนีคดีและให้คนติดคุกแทนได้อายม้วนกันเลยทีเดียว ...๐ ทิ้งท้ายด้วยข่าวให้จับตา เพราะดูเหมือน “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. จะเอาจริงเอาจังเรื่อง “ไทยนิยม” จริงๆ เพราะได้ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 21/2561 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมยั่งยืนแล้ว งานนี้ในอนาคตเราอาจได้เห็น “พรรคไทยนิยม” ออกมาก็เป็นได้ ใครจะรู้ ...๐