"เชบี" พายุไต้ฝุ่นที่มีกำลังแรงที่สุดในรอบ 25 ปีเข้าถล่มญี่ปุ่นเมื่อวันอังคาร สร้างความเสียหายต่อสนามบินคันไซทำให้ใช้การไม่ได้ เส้นทางหลักมุ่งสู่สนามบินถูกปิดเนื่องจากสะพานโดนเรือบรรทุกน้ำมันกระแทกจนชำรุด เจ้าหน้าที่ต้องวุ่นวายกับการอพยพผู้โดยสารที่ตกค้าง ขณะยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 11 ราย
ภาพมุมสูงถ่ายจากเฮลิคอปเตอร์เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2561 เผยสภาพน้ำท่วมที่สนามบินคันไซ ในจังหวัดโอซากา / JIJI PRESS / AFP
รายงานเอเอฟพีเมื่อวันพุธที่ 5 กันยายน 2561 กล่าวว่าพายุไต้ฝุ่นลูกนี้ขึ้นฝั่งญี่ปุ่นเมื่อวันอังคารที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา ด้วยความเร็วลมสูงสุด 216 กิโลเมตร/ชั่วโมง กระแสลมแรงพัดทำลายหลังคาอาคารหลายแห่งปลิดปลิว รถบรรทุกและรถยนต์โดนลมหอบกระเด็นพังเสียหายจำนวนมาก และเรือบรรทุกน้ำมันขนาด 2,500 ตันโดนคลื่นลมซัดไปกระแทกกับสะพานที่เป็นเส้นทางไปยังท่าอากาศยานระหว่างประเทศคันไซ ซึ่งเป็นสนามบินหลักของภูมิภาคนี้ที่รองรับการเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ความเสียหายของสะพานแห่งนี้ทำให้เส้นทางเดียวที่เชื่อมแผ่นดินกับเกาะเทียมอันเป็นที่ตั้งของสนามบินถูกตัดขาด ผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ 3,000 คนตกค้างและต้องค้างแรมที่นั่นเมื่อวันอังคาร คลื่นสูงยังหอบน้ำทะเลเข้าท่วมรันเวย์และอาคารบางหลังและทำให้ไฟฟ้าดับ
ผู้โดยสารที่ตกค้างตั้งแต่วันอังคารรอขึ้นรถบัสออกจากสนามบินในวันพุธ / JIJI PRESS / AFP
ในวันพุธ เรือเฟอร์รีหลายลำเริ่มอพยพคนออกจากสนามบิน และภายหลังสะพานฝั่งหนึ่งได้รับการตรวจสภาพแล้วว่าปลอดภัย รถบัสก็สามารถวิ่งเข้าไปรับคนออกมา เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกระทรวงคมนาคมบอกกับเอเอฟพีว่ามีคนตกค้างอยู่ที่สนามบินราว 3,000 คน แต่เชื่อว่าราว 2,000-2,500 คนได้รับการอพยพออกมาแล้ว และยังเหลือคนตกค้างอีกไม่มากนัก
ยูริโนะ ซานาดะ โฆษกของสนามบินคันไซ ยอมรับว่าไม่รู้จะต้องใช้เวลากี่ชั่วโมงจึงจะอพยพคนออกมาได้ทั้งหมด แต่ทุกคนกำลังทำหน้าที่อย่างดีที่สุดเพื่อให้เสร็จภายในวันพุธ
ยังไม่มีวี่แววว่าสนามบินแห่งนี้ซึ่งปรกติมีเที่ยวบินใช้บริการวันละกว่า 400 เที่ยวจะสามารถเปิดทำการได้เมื่อใด แต่สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นกล่าวว่าอาจต้องใช้เวลา 1 สัปดาห์
ภาพมุมสูงถ่ายจากเฮลิคอปเตอร์ของจิจิเพรส เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2561 เผยสภาพสะพานมุ่งสู่สนามบินคันไซ ที่เสียหายเพราะโดนเรือชน / JIJI PRESS / AFP
ผู้โดยสารที่ได้รับการอพยพต่างเล่าสภาพภายในสนามบินหลังไต้ฝุ่นถล่มว่า อุณหภูมิในอาคารร้อนระอุราว 30 องศาเซลเซียส เครื่องปรับอากาศไม่ทำงานเพราะไฟฟ้าดับ ผู้โดยสารอีกรายบอกว่าเธอนอนไม่หลับเลย แต่ตอนนี้โล่งใจแล้วเพราะตอนแรกคิดว่าคงกลับออกมาไม่ได้
พายุลูกนี้สร้างความเสียหายตลอดเส้นทางที่เคลื่อนผ่าน จากฝั่งตะวันตกผ่านตอนกลางของญี่ปุ่น นับแต่ขึ้นฝั่งเมื่อช่วงเที่ยงของวันอังคาร และเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วผ่านแผ่นดินพร้อมกับลมกระโชกแรงและฝนตกหนัก พื้นที่ที่โดนพายุกระหน่ำรุนแรงรวมถึงเขตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่รอบนครโอซากา เมืองใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่น โรงงานอุตสาหกรรมและบ้านเรือนพังเสียหายจำนวนมาก
โยชิฮิเดะ ซูกะ โฆษกรัฐบาล แถลงเมื่อวันพุธว่ามีคนสังเวยชีวิต 11 คน บาดเจ็บ 470 คน ข้อมูลของบริษัทการไฟฟ้าคันไซระบุด้วยว่า บ้านเรือนมากกว่า 400,000 ครัวเรือนยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ในวันพุธ
รถยนต์โดนลมพายุพัดกองสุมกันเป็นกองพะเนินที่เมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโงะ / JIJI PRESS / AFP
ที่นครเกียวโต ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมโดยเฉพาะวัดและศาลเจ้าโบราณ หลังคาของสถานีรถไฟหลักของเมืองโดนพายุถล่มเสียหายบางส่วน พายุยังสร้างความโกลาหลวุ่นวายต่อการคมนาคมทั่วญี่ปุ่น เที่ยวบินต้องยกเลิกนับพันเที่ยว บริการเรือโดยสารและรถไฟหัวกระสุนบางขบวนต้องยกเลิก ธุรกิจห้างร้าน โรงงานและโรงเรียนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบปิดทำการ
สื่อของญี่ปุ่นรายงานก่อนหน้านี้ว่า ทางการได้แนะนำให้ประชาชนมากกว่า 1.2 ล้านคนอพยพออกจากบ้านเรือนก่อนที่เชบีจะขึ้นฝั่งในเขตคันไซ แต่ไม่มีรายงานชัดเจนว่ามีประชาชนเชื่อฟังคำแนะนำนี้มากน้อยเท่าใด แต่มีประชาชนราว 16,000 คนค้างคืนภายในศูนย์พักพิงเมื่อคืนวันอังคาร.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |