DSIเด้งรองอธิบดีล้างขั้วตร. จักรทิพย์เลิกนรต.หญิงถาวร


เพิ่มเพื่อน    

    เตะโด่งสีกากีพ้น "ดีเอสไอ" อีกราย ย้าย "พ.ต.ท.ประวุธ" นั่งกรมคุก หลังก่อนหน้าเพิ่งโยก "พ.ต.ต.สุริยา" ไปอยู่ ป.ป.ส. "ปลัดยุติธรรม" ยันไม่ใช่การล้างบาง ชี้ผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษต้องไปเพิ่มศักยภาพงานอื่นได้หมด "จักรทิพย์" ย้ำชัดยกเลิก "นรต.หญิง" ถาวร อ้างยึดตามแผนโรงเรียนเหล่าทัพ "อดีต ส.ส.ปชป." โวย สตช.ถอยหลังเข้าคลอง 
    เมื่อวันที่ 5 ก.ย. มีรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ลงนามคำสั่งโอนข้าราชการพลเรือน ที่ 255/2561 กระทรวงยุติธรรม 2 ตำแหน่ง คือ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์นิล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และให้นายมณฑล แก้วก่า รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ ดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2561 เป็นต้นไป
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังคำสั่งดังกล่าวเผยแพร่ออกมา ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ภายในดีเอสไอ    เนื่องจากเป็นการย้ายรองอธิบดีดีเอสไอที่เป็นอดีตตำรวจ 2 ราย ออกจากตำแหน่งรองอธิบดีดีเอสไอเพียง 1 สัปดาห์ และแต่งตั้งข้าราชพลเรือนมาดำรงตำแหน่ง ซึ่ง พ.ต.ท.ประวุธนั้น รับผิดชอบคดีบุกรุกที่สำคัญหลายคดี และล่าสุดตรวจเข้าค้นรังเย็นรีสอร์ต จ.เลย อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ปลัดกระทรวงยุติธรรมเพิ่งลงนามคำสั่งโอนย้าย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ ไปรับราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และโอนย้าย นพ.ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รอง ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ไปดำรงตำแหน่งรองอธิบดีดีเอสไอ 
    ขณะที่นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ยืนยันการย้ายตำรวจออกจากดีเอสไอว่าไม่ใช่เป็นการสลายขั้วตำรวจในดีเอสไอ แต่การย้ายรองอธิบดีดีเอสไอไปรับราชการที่ ป.ป.ส. เพราะเป็นหน่วยงานหลักของประเทศ มีภารกิจปราบปรามยาเสพติด ซึ่งดีเอสไอสามารถเข้าไปทำงานเสริมให้กับ ป.ป.ส.ได้ และดีเอสไอควรจะเป็นสหวิชาการที่มีความรู้หลากหลายเพื่อเพิ่มศักยภาพการทำงาน จึงย้ายรองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์มาทำแทนตำแหน่งในดีเอสไอ ซึ่งในระดับบริหาร การโยกย้ายถือเป็นเรื่องปกติ การย้ายอธิบดีก็เป็นเรื่องธรรมดาเช่นกัน 
    "การโยกย้ายในช่วงนี้ถือเป็นการโยกย้ายปกติ ซึ่งในระดับผู้บริหารไม่สามารถสังกัดอยู่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งได้ตลอด และการโยกย้ายเพราะต้องการผู้มีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านนั้นๆ มาเสริมการทำงาน" ปลัดกระทรวงยุติธรรมกล่าว 
    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการยกเลิกจัดสรรอัตราในการรับสมัครและสอบคัดเลือกบุคคลภายนอก (หญิง) เข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) ว่า เราต้องดูภาพรวมว่า นรต.ส่วนใหญ่มาจากนักเรียนเตรียมทหาร (นตท.) ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นต้องปรับตามกระทรวงกลาโหม ที่เขาให้รับแต่ผู้ชายเป็นหลัก ปรับแผนตามโรงเรียนเหล่าทัพประจำปีการศึกษา 2562 เป็นต้นไป รับจากเตรียมทหารอย่างเดียว 
    "ขณะนี้ยกเลิกถาวร ส่วนกรณีพนักงานสอบสวนหญิงที่ต้องทำคดีเกี่ยวกับคดีทางเพศ ยังมีการรับบุคคลภายนอกเป็นพนักงานสอบสวนหญิงอยู่ตามเดิม" พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าว
    ถามว่า กรณีองค์กรสิทธิสตรีมีการวิพากษ์วิจารณ์ลิดรอนสิทธิสตรี ผบ.ตร.กล่าวว่า ทำไมไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์ที่ภาคใต้บ้าง ระเบิดทุกวัน ทำไมจ้องแต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วยบอกเขาทีละเมิดสิทธิหรือเปล่า อย่าเอามาพันกันแยกแยะด้วย อย่างนี้ควรจะไปอยู่ทางใต้เยอะๆ กรรมการสิทธิฯ นี้ควรจะไปดูเยอะๆ 
    วันเดียวกัน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่องการปฏิรูปตำรวจว่า การปฏิรูปตำรวจไม่ทราบว่าไปถึงไหนแล้ว แต่ที่เห็นอยู่คือความถอยหลังของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่องการส่งเสริมบทบาทผู้หญิงในงานด้านความมั่นคงปลอดภัย ล่าสุดยกเลิกการรับนักเรียนนายร้อยตำรวจหญิง ซึ่งเปิดรับมาสิบรุ่น ในสังคมที่มีผู้หญิงมากกว่าครึ่งหนึ่ง ปัญหาสังคมและอาชญากรรมมีทั้งผู้หญิงเป็นผู้กระทำผิดและเป็นเหยื่อ แต่ด้วยเหตุใดสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงไม่ให้ความใส่ใจที่จะมีบุคลากรหญิงเพื่อทำหน้าที่ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม
    น.ส.รัชดากล่าวว่า ก่อนหน้านี้ก็ประกาศไม่รับสมัครพนักงานสอบสวนหญิง แปลว่าแค่สิทธิที่จะสมัครยังไม่ได้เลย สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เหตุผลว่างานสอบสวนเป็นงานหนัก เกรงผู้หญิงจะทำไม่ไหวแล้วลาออกเยอะ ซึ่งในความเป็นจริง มีพนักงานสอบสวนหญิงลาออกเป็นอัตราที่น้อยมากๆ ในขณะที่คำสั่งไม่รับสมัครพนักงานสอบสวนหญิงนั้นขัดต่อ 1) รัฐธรรมนูญ 2) พ.ร.บ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศ 3) ข้อตกลงระหว่างประเทศเรื่องการขจัดการกีดกันด้วยเหตุแห่งเพศ และ 4) เป้าหมายความพัฒนาอย่างยั่งยืน
    "นายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศก็ควรเข้ามาดูแลด้วย ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างไม่มีผู้รับผิดชอบได้อย่างไร เพราะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่กำหนดนโยบาย มาตรการ และแผนปฏิบัติงานเพื่อให้มีการส่งเสริมความเท่าเทียม ระหว่างเพศในทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น  สำนักงานตำรวจแห่งชาติและคณะทำงานด้านการปฏิรูปตำรวจควรไปศึกษาทิศทางที่นานาชาติเขาส่งเสริม เช่น การตั้งเป้าหมายจำนวนตำรวจหญิง การมีพนักงานสอบสวนหญิงดูแลคดีทางเพศ และที่สำคัญ เมื่อมีคนเก่ง คนที่อาสาทำงานเพื่อประชาชน ก็ช่วยจัดสรรตำแหน่งงานและให้โอกาสในการเติบโตสมศักดิ์ศรีด้วย ไม่ใช่เอาแต่ไปไว้หน้าห้องนาย ทำแต่งานเอกสารทั้งๆ ที่ผู้หญิงมีคุณสมบัติทำงานมวลชนได้ไม่ได้ด้อยกว่าผู้ชายเลย" อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"