กลับมา “ฟิต” อีกครั้งในรอบเกือบ 4 เดือนสำหรับ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการออกกำลังกาย โดยครั้งนี้เป็นการปั่นจักรยานรอบบ้านพิษณุโลก สงสัยหัวหน้าคณะคืนความสุขคงได้กำลังใจดีจากบรรดา “ดารา-นักแสดง” ที่เข้ามาเยือนทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันอังคาร ในการพีอาร์กิจกรรม “ร่วมใจสร้างไทยไปด้วยกัน” เพราะงานนี้เล่นเอาบรรดา “โอตะ” ต่างอิจฉาลุงตู่กันอย่างมาก เพราะ ได้เจอ “น้องเฌอปราง” กัปตันทีม BNK48 ครั้งที่ 2 แล้ว หลังจากที่ได้เจอครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 เมษายน ...๐ แหม! ปกติ “ลุงตู่” มักชีพจรลงเท้าใช้ช่วงกลางสัปดาห์ แต่ล่าสุดได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นลงพื้นที่ในวันศุกร์ที่ 7 ก.ย. ซึ่ง “คณะบิ๊กตู่” จะลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัด “ลพบุรี” และเชื่อหัวไอ้เรืองได้อีกเช่นกันว่า การลงพื้นที่จะมีตามมาอีกพะเรอเกวียนจนไปถึงช่วงหลังปลดล็อกในเดือน ธ.ค.นั่นแล ...๐ โดยเดือนธันวาคมนั้น ก็มาจากการชี้แจงของ “เนติบริกร” วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่ออกมาระบุไทม์ไลน์นั่นเอง ซึ่งเจ้าตัวระบุแบบไม่กั๊กครั้งแรกๆ เลยว่าจะมีเวลาหาเสียงกันเต็มๆ กว่า 60 วัน รวมทั้งยังบอกปฏิทินของการเลือกตั้งท้องถิ่นหลังจากที่ ครม.ได้มีมติเห็นชอบ ร่างกฎหมายท้องถิ่น 6 ฉบับไปเมื่อวันอังคารที่ 4 ก.ย.ว่าน่าจะหย่อนบัตรได้ในราวเดือน พ.ค.2562 เสียด้วย ...๐ และเพื่อไม่ให้เสียเชิง “มือกฎหมาย” ระดับต้นๆ ของประเทศ “อาจารย์วิษณุ” ก็บอกชัดๆ ถึงช่องทางของบรรดารัฐมนตรีในรัฐบาล คสช.ถึงอนาคตที่จะไปลง “สนามการเมือง” ที่ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ ว่า ต้องไปในช่องที่ “รัฐธรรมนูญ” เปิดไว้ คือ ไปอยู่ในบัญชีที่พรรคการเมืองเสนอให้เป็นนายกฯ และผ่านการโหวตของสภาเมื่อถึงทางตัน??? ...๐ หันมาดูข่าวงานเลี้ยงทีมช่วยหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย 13 ชีวิตกันบ้าง โดย “เพจ ThaiNavySEAL” ได้โพสต์ย้ำว่า “หลังจากร่วมสมรภูมิเดียวกันที่ถ้ำหลวงขุนน้ำ-นางนอน เราจะได้มาพบกันเป็นครั้งแรกกับผู้คนที่ร่วมกันเขียนประวัติศาสตร์ให้โลก ต้องจดจำ 6 กันยายนนี้นะครับ” ...๐ แต่ขำไม่ออกจริงๆ สำหรับ “ขสมก.” ที่ “ประยูร ช่วยแก้ว” รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ ขสมก.ที่ออกมาระบุว่าจะจัดรถให้บริการฟรี 2 เส้นทาง อำนวยความสะดวกประชาชนไปร่วมงาน “รวมใจเป็นหนึ่งเดียว United as One” ไม่รู้ว่า “ขสมก.” มึนหรืออย่างไร เพราะคนที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงนั้นต้องมีบัตรเชิญนะจ๊ะ ไม่ใช่ชาวบ้านร้านถิ่นที่ไม่รู้ใครที่ไหนจะไปร่วมได้ การจะ “เอาใจ” อะไรก็ควรดูตาม้าตาเรือกันบ้าง เรื่องที่ควรทำอย่างเพิ่มการเดินรถ และปรับรถร้อนมาเป็นรถแอร์ในเส้นทางการก่อสร้างรถไฟฟ้า ซึ่งต้องเร่งทำกลับทำหลงทำลืม ...๐ หันมาส่องเรื่องคดีความกันบ้าง เมื่อ “อัยการ” เลื่อนสั่งคดี “พานทองแท้ ชินวัตร” กับพวกร่วมฟอกเงินธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ปล่อยกู้ให้กับบริษัทเครือกฤษดามหานครออกไปเป็นวันที่ 10 ต.ค.นี้ ซึ่งน่าลุ้นอย่างยิ่งเพราะบิดาอย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ เองก็มีคดีแม้ว่าด้วยการทุจริตการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กลุ่มกฤษดามหานครอยู่ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอยู่ ก็ ไม่รู้ว่าเมื่อคดีของพ่อหรือของลูก ใครจะรอดหรือร่วง หรือรอดทั้งคู่ หรือร่วงทั้งคู่ เชื่อว่าอีกไม่นานคงรู้ ...๐ ยังมีคดีความที่น่าสนใจอีกคดี เมื่อ “ศาลปกครองกลาง” มีคำพิพากษาให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชดใช้เงินให้ “ประภัสร์ จงสงวน” กรณีการเลิกจ้างเป็นผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.ก่อนครบกำหนด ในสัญญาจ้าง เพราะนายประภัสร์นั้นถูกคำสั่ง คสช.ให้พ้นจากเก้าอี้ แต่เมื่อศาลปกครองกลางตัดสินอย่างนี้ออกมาก็น่าจะทำให้ใครต่อใคร หลายคนที่ถูกพิษคำสั่ง คสช.อาจมีการลอกเลียนแบบ “ประภัสร์” ก็เป็นได้ ใครจะรู้ ...๐ เอ่ยถึงโรงถึงศาลไม่ไปแตะต้องการโยกย้ายที่กระทรวงยุติธรรมคงไม่ได้ เพราะช่างคึกคักและน่าเจาะเบื้องลึกเบื้องหลังเสียจริงๆ หลังจาก “วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ” ปลัด ยธ. มีคำสั่ง โอนย้าย “นพ.ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์” รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ไปดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แทน “พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล” ที่โอนตัวไปรับราชการที่รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ล่าสุดได้มีคำสั่งย้าย “พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล” รองอธิบดีดีเอสไอไปเป็นรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ทั้งที่ “พ.ต.ท.ประวุธ” ยังอยู่ระหว่างการปฏิบัติการตรวจค้นรังเย็น รีสอร์ท พร้อมกับให้ “มณฑล แก้วเก่า” รองอธิบดีกรมคุมประพฤติมานั่งเก้าอี้รองอธิบดีดีเอสไอแทน งานนี้ เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าด้วยการล้างบางสีกากีในดีเอสไอจึงกระหึ่ม ขึ้นมาอีกรอบ ...๐