โลกมีไว้ให้เหยียบ...ปัญหามีเอาไว้ให้แก้


เพิ่มเพื่อน    

 

คงอีกไม่กี่วัน กี่สัปดาห์ นับจากนี้...หรือนับจาก คลายล็อก เรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว คงพอได้รู้หมู่ รู้จ่า อย่างน้อยก็ 2 เรื่อง ไปพร้อมๆ กัน คือได้รู้ว่าหัวหน้า และเลขาธิการของพรรค เผาไทย จะเป็นญาติข้างลูก ข้างเมีย หรือข้างไหนของ นายใหญ่ กันแน่ ส่วนอีกเรื่อง ก็คงได้รู้ว่า ตกลงท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา จะเอาไง มาไง เข้าตามตรอกออกตามประตู จะนั่งเสลี่ยงคานหาม หรือจะหันหน้าเข้าวัดกันแน่!!!

                                                         -------------------------------------------------------

สำหรับเรื่องของหัวหน้า และเลขาธิการพรรค เผาไทย นั้น...คงไม่ต้องเสียเวลาลุ้นมากมายซักเท่าไหร่ เพราะยังไงๆ คงต้องผ่านมือ นายใหญ่ ผ่านการประแป้ง อาบน้ำ ใส่ตะกร้าล้างน้ำ อยู่แล้วแน่ๆ ไม่ว่าจะมีการจัดฉาก สร้างกระบวนการคัดสรรในแบบไหน ต่อแบบไหน ด้วยเหตุเพราะ ประชาธิปไตย ที่ว่ากินได้ รับประทานได้นั้น ยังไงๆ...หนีไม่พ้นต้องมี เงิน เอาไว้หาซื้ออะไรต่อมิอะไรมากิน มารับประทาน อย่างมิอาจปฏิเสธ ดังนั้น...บรรดานักประชาธิปไตยในพรรคเผาไทยทั้งหลาย ที่หวังๆ กะๆ จะ ก้าวข้ามทักษิณ คงไม่มีใครที่คิดจะเอาแต่เท่ แต่ไม่มีจะ แ-ก โดยเด็ดขาด...

                                                         -------------------------------------------------------

      ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าจะเป็นลูกเขย น้องเขย น้องเมีย ลูกแม่ยาย ลูกพี่ลูกน้องพ่อตา ฯลฯ หรือใครต่อใครก็แล้วแต่ โดยสเปก โดยมาตรฐาน คงหนีไม่พ้นต้องออกมาในแนว สุวรรณภูมิ 2 นั่นแหละ คือผู้ที่ชนะที่ 1 ในการออกแบบ อาจต้องตกสำรวจเพราะลืมกรอกแบบ กรอกข้อมูล ไปอย่างน่าเสียดาย ส่วนผู้ที่โดดมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ เลขาธิการพรรคคนใหม่ จะนำพาพรรคเผาไทยไปสู่การแลนด์สไลด์ แอฝะลานช์ ได้มากน้อยเพียงใด สามารถจับมือกับคนรุ่นใหม่แห่งพรรค อนาคตใหม่ จนอาจผลักดันคนรุ่นใหม่อย่าง ลูกกู หรือ ลูกวัน ให้ผงาดขึ้นเป็นรัฐมนตรีแบบเปิดถ้วยแทงไฮโล ได้หรือไม่ เพียงใด อันนั้น...คงไม่ต้องเสียเวลาคิดมาก คิดเล็ก คิดน้อย ให้เปลืองสมอง เพราะสิ่งที่น่าคิดยิ่งกว่า...ก็คือจะเกิดรายการ เผาไทย รอบใหม่กันอีกหรือไม่ อย่างไร และตอนไหน อันนี้นี่แหละ...ที่คงต้องคิดๆ เอาไว้ซะแต่เนิ่นๆ...

                                                             -----------------------------------------------------

      ส่วนเรื่องของนายกฯ บิ๊กตู่ นั้น...ถ้าดูกันตามฟอร์ม ตามรูปมวย ยังไงๆ...ไม่น่าจะ หันหน้าเข้าวัด อยู่แล้วแน่ๆ อีกทั้งคงไม่ต้อง กลับไปเลี้ยงหลาน ที่น่าจะโตพอสมควรแล้ว แต่เรื่องจะให้โดดลงมาคลุกวงนอก วงใน เข้าตามตรอกออกตามประตู แบบที่ใครต่อใคร ผู้รักและปรารถนาดีอย่างสุดแสนจะลึกซึ้ง ดื่มด่ำ ส่งเสียงเชียร์ให้เตะซ้าย-ต่อยซ้าย เตะขวา-อัปเปอร์คัตขวานั้น คงต้อง ทำใจ เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ว่า นักมวย รายนี้...โดยปกติก็มักจะไม่ค่อย ต่อยตามใบสั่ง ของใครๆ มาโดยตลอด เกือบ 4 ปี 5 ปีเข้าไปแล้ว คือบอกให้ต่อยซ้าย...ก็เด้งเชือกตัดเวทีแฉลบออกไปทางด้านขวา บอกให้ต่อยขวา...ก็หันไปเคี้ยวฟันยางเล่นๆ ไปซะนี่ ส่งผลให้ กองหนุน ปลดประจำการ หันไปเป็น กองเกิน กันไปแถบๆ...

                                                              -------------------------------------------------------

      แต่ก็อย่างที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละว่า...จะไปโทษ นักมวย เพียงลำพัง ก็คงมิได้ เพราะนี่มันคือ สไตล์ คือความถนัด เชี่ยวชาญในแบบเฉพาะตัว แบบประเภท ไฟเตอร์ กับ บ็อกเซอร์ อะไรประมาณนั้น แต่อาจต้องหันไปโทษผู้ที่รักและปรารถนาดีทั้งหลายเองนั่นแหละ ไม่ว่าจะรักแบบดูดๆ ดื่มๆ ลึกซึ้งไปถึงริดสีดวงทวาร หรือรักน้อยๆ แต่รักนานๆ แบบ สายัณห์ สัญญา ก็แล้วแต่ ที่อาจ ตั้งความหวัง กับนักมวยรายนี้ สูงเกินไปหน่อย ทั้งๆ ที่เป็นแค่มนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา มีหลุด มีหลวม มีวี้ดๆ แว้ดๆ ชนิดแก้ไม่หาย รักษาไม่หาย ไปเป็นระยะๆ ไม่ใช่วีรบุรุษในตำนาน อย่าง นายขนมต้ม ซักกะหน่อย ไม่ได้สุขุม ลุ่มลึก ระดับได้รับชื่อ ฉายา ประเภท นักฆ่าแห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา อย่าง ป๋าเปรม ที่หนึ่งศตวรรษอาจมีเหลืออยู่แค่ 1 คน...

                                                             --------------------------------------------------------

      ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านจะตัดสินใจอย่างไร สิ่งที่เป็นปัญหา และยังคงเป็นปัญหาในอนาคตข้างหน้า มันก็คงไม่ถึงกับเปลี่ยนแปรไปซักเท่าไหร่ แถมเผลอๆ...อาจจะหนักหน่วง รุนแรง กว่าช่วง 4 ปี 5 ปีที่ผ่านมา อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ ด้วยเหตุเพราะ นักมวย รายนี้ ไม่ได้มี หมัดน็อก ไม่ได้มีขวาตาย ซ้ายสลบ อยู่ในมือเหมือนแต่ก่อนๆ หรือไม่ได้มี มาตราฉี่ฉิบฉี่ เอาไว้ไล่ทุบ ไล่บี้ ใครต่อใคร เหลือแต่ สากกะเบือ ที่ถูกประดิษฐ์ คิดสร้าง จากบรรดาพวก นักดูด และผู้ที่ถูกดูดทั้งหลายนั่นแหละ เป็นอาวุธป้องกันตัวไปตามสภาพ...

                                                          -------------------------------------------------------------

      ดังนั้น...ไม่ว่าท่านจะออกลูกไหน แนวไหน สภาพปัญหาโดยทั่วไป มันคงไม่ได้ผิดแผก แตกต่าง ไปจากเดิมมากมายซักเท่าไหร่ แถมยังอาจหนักหน่วง รุนแรง เพิ่มขึ้นๆ อย่างมิอาจปฏิเสธได้ โดยเฉพาะเมื่อ ฝ่ายตรงข้าม พร้อมที่จะเล่นกันแบบเจ็บๆ แรงๆ พร้อมที่จะลุยเข้าหา ระดับไม่เจ็บนอนไม่หลับ แต่ก็นั่นแหละ...ในเมื่อโลกนี้มีเอาไว้ให้เหยียบ ปัญหาต่างๆ มีเอาไว้แก้ ภายใต้สภาพบรรยากาศเช่นนี้...บรรดาปวงชนชาวไทยทั้งหลาย อย่างเราๆ-ทั่นๆ นี่เอง คงต้องเร่งหา ภูมิคุ้มกัน เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ต้องหันไปสร้าง มาตรฐาน เอาไว้แทนที่ ตัวบุคคล  ชนิดไม่ว่านายกรัฐมนตรี หรือนักมวย จะเป็นใคร มาจากค่ายไหน ต่อค่ายไหน ถ้าหากไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม คุณธรรม ในธรรมาภิบาลแล้วล่ะก็ คงต้องอาศัยช่องโหว่ ช่องว่าง ตามระบอบประชาธิปไตยแบบไฮบริด หาทาง น็อก ให้หมดสภาพกันไปเป็นรายๆ...

                                                         --------------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Chinese proverb... You cannot prevent the birds of sorrow from flying your head, but you can prevent them from building nets in your hair.- แม้ว่าท่านไม่สามารถป้องกันนกแห่งความทุกข์ที่บินข้ามศีรษะของท่านได้ แต่ท่านอาจป้องกันไม่ให้มันทำรังบนหัวกบาลของท่านได้...

                                                      --------------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"