บิ๊กจิน" มอบนโยบายกระทรวงยุติธรรม เร่งสะสางงานด่วน ทั้งคดีวัดธรรมกาย สหกรณ์คลองจั่น ทุจริตปล่อยกู้ ธ.กรุงไทย การค้ามนุษย์ รวมทั้งการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นมาพิจารณาใหม่ และการตรวจพิสูจน์การเสียชีวิตของน้องเมย พร้อมปฏิรูป "ดีเอสไอ" ปรับระบบงานไม่ให้ซ้อนกับหน่วยงานอื่น
ที่กระทรวงยุติธรรม วันที่ 4 ธันวาคม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจกระทรวงยุติธรรม โดยมีนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม, นายธวัชชัย ไทยเขียว พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ นายวิทยา สุริยะวงค์ นางกรรณิการ์ แสงทอง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วม
พล.อ.อ.ประจินเปิดเผยหลังการประชุมว่า กระทรวงยุติธรรมมีแนวทางการดำเนินงานที่ตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ชาติและกระบวนทัศน์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างครอบคลุม ด้วยการน้อมนำ "ศาสตร์พระราชา" ซึ่งเป็นแนวทางหลักในการกำหนด นโยบาย ดังนี้ 1.เทิดทูนและธำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยใช้มาตรการทางกฎหมาย ควบคู่กับการเผยแพร่ความเข้าใจที่ถูกต้องเพื่อให้ประชาชนมีความตระหนักและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมทั้งน้อมนำศาสตร์พระราชา ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้กับการพัฒนากระบวนการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดให้เกิดผลสำเร็จ และสามารถนำไปขยายผลในการปฏิบัติงานอื่นๆ
2.พัฒนากระบวนการยุติธรรมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเท่าเทียมในสังคม โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ผ่านทางสำนักงานยุติธรรม จังหวัดและศูนย์ยุติธรรมชุมชน 3.นำแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติไปสู่การปฏิบัติ เพื่อสร้างการรับรู้เรื่องสิทธิให้ประชาชนได้รับทราบ 4.เน้นบทบาทและมาตรการเชิงรุกเพื่อให้สังคมมีความเข้าใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐภายใต้กรอบของกฎหมายที่กำหนด และ 5.การพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ เด็กและเยาวชน และผู้ถูกคุมความประพฤติ โดยการยกระดับทักษะความรู้ ทักษะการทำงานให้เท่าทันต่อความต้องการของตลาดแรงงานสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้ภายหลังพ้นโทษ เพื่อสร้างการยอมรับและความเชื่อมั่นให้สังคม
รมว.ยุติธรรมกล่าวต่อว่า ได้กำหนดยุทธศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรมในการขับเคลื่อนงานที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ 6 ด้าน ประกอบด้วย 1.การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด 2.การสร้างความปลอดภัยและความสงบสุขในสังคม เพื่อแก้ไขการกระทำความผิดซ้ำ 3.การอำนวยความยุติธรรม โดยการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “สิทธิมนุษยชนร่วมขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” 4.การพัฒนากฎหมายและกระบวนการยุติธรรม 5.การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมด้านความมั่นคง 6.การเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์
พล.อ.อ.ประจินกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับงานเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ ประกอบด้วย 1.การติดตามคดีสำคัญที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงยุติธรรม เช่น คดีวัดพระธรรมกาย คดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ คดีการทุจริตเงินกู้ธนาคารกรุงไทย รวมถึงการจัดการปัญหาการค้ามนุษย์ โดยการเร่งรัดติดตามให้ได้ข้อเท็จจริง จะมีการประชุมความคืบหน้าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง คือในวันอังคาร เวลา 15.00 น. และ วันศุกร์ เวลา 07.30 น. ตลอดจนคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสังคม เช่น กรณีการรื้อฟื้นคดี อาญาขึ้นมาพิจารณาใหม่ และการตรวจพิสูจน์การเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหารของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ 2.การขับเคลื่อนคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมระดับจังหวัด (กพยจ.) โดยให้ยุติธรรมจังหวัดเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงการ ดำเนินงานจากส่วนกลางไปสู่ภูมิภาค ตลอดจนบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อมุ่งสู่ผลสัมฤทธิ์ให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง
3.ให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือพี่น้อง ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยดำเนินการเชิงรุกในรูปแบบ “หมอยุติธรรม” เพื่อเป็นสื่อกลางในการสร้างการรับรู้ด้านกฎหมาย สิทธิและหน้าที่ของประชาชน การให้คำปรึกษาเบื้องต้นด้านคดีความเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และ เป็นธรรมอีกด้วย 4.เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาการให้บริการประชาชนให้สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยเฉพาะการติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ เน้นความสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส การเชื่อมโยงฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงานและภายในกระทรวงยุติธรรม
นอกจากนี้ ในส่วนการปฏิรูปกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นั้น อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลและจำเป็นต้องมีหน่วยงานดังกล่าว แต่ต้องปรับระบบงานไม่ให้ซับซ้อนกับการทำงานของหน่วยงานอื่น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |