แม้จะเพิ่งเริ่มต้น โครงการเพื่อสังคม ภายใต้ "คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย" ได้เพียงปีเศษๆ แต่ต้องยอมรับว่า โครงการที่ทาง บริษัท คิง เพาเวอร์ ผลักดันออกมาเพื่อตอบแทนสังคมนั้นมีมากจริงๆ นับเฉพาะที่ทำอยู่ในปัจจุบันมีถึง  17 โครงการ  ซึ่งครอบคลุมถึง 4 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านกีฬา , ดนตรี  , ชุมชน , การศึกษา และสุขภาพ และกระจายไปสู่ชุมชนทั่วทุกภูมิภาคกว่า 500 ชุมชน

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า " โครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์  เกิดขึ้นหลังจากผลงานของสโมสรเลสเตอร์ ขยับขึ้นจากแชมป์เปียนชิป ขึ้นสู่ชั้นพรีเมียร์ลีก และสามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จ  ซึ่งได้เป็นการสร้างปรากฏการณ์ในวงการกีฬาระดับโลก ทำให้คนทั้งโลกหันมาจับตามองประเทศไทยในมุมมองใหม่ หากตั้งใจทำอะไรอย่างจริงจัง ก็สามารถที่จะประสบความสำเร็จได้ ทำให้เกิดความเชื่อว่า คนไทยสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้คนทั้งโลกเห็นได้ด้วยเช่นกัน

ดังนั้นทางกลุ่มบริษัท จึงพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนคนไทย ประเทศไทย ให้สามารถแสดงความสามารถในเวทีระดับโลก รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ต่อมุมมองของชาวต่างชาติอีกด้วย

สำหรับภารกิจของ  "คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย"  ซึ่งดำเนินการอย่างเข้มข้น ในช่วงที่ผ่านมาประกอบไปด้วย ภารกิจด้านกีฬา (SPORT POWER) เน้นคอนเซ็ปต์ ‘ปั้นนักกีฬาไทยสู้ลีกยุโรป’ โดยมุ่งพัฒนาส่งเสริม ศักยภาพเยาวชนไทยซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศให้มีความสามารถด้านกีฬาฟุตบอลในทุกมิติตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ บริษัทฯ จึงได้จัดโครงการ ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย มอบลูกฟุตบอล จำนวน 1 ล้านลูกให้กับเยาวชน ไทยและชุมชนเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านกีฬา โดยเมื่อปีที่ผ่านมา (กรกฎาคม 2560-กรกฎาคม 2561) ได้มอบลูกฟุตบอลให้กับเด็กไทยทั่วประเทศแล้วเป็นจำนวนกว่า  200,000 ลูก โดยตั้งเป้าแจกให้ครบ1 ล้านลูกภายในปี 2565

นอกจากนี้ ยังมี โครงการ 100 สนามพลังเยาวชนไทย ที่สร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม จำนวน 100 สนามทั่วประเทศภายใน 5 ปี หวังให้เยาวชนมีพื้นที่ออกกำลังกาย ห่างไกลจากยาเสพติด

แต่สิ่งที่คิง เพาเวอร์มองไปไกลกว่านั้น คือ การมอบโอกาสให้กับเด็กๆ ที่รักกีฬาได้สานฝันของตัวเองให้เป็นจริงต่อไป โดย คิง เพาเวอร์ ได้ขยายผลโครงการไปสู่กิจกรรมที่เสริมสร้างพัฒนาการด้านกีฬาฟุตบอลให้กับเยาวชนไทยอย่างครบวงจร อาทิ ‘โครงการ FOX HUNT ตามล่าจิ้งจอกสายพันธุ์สยาม’ โดยมอบทุนการศึกษาและโอกาสสำคัญในชีวิตที่เงินไม่สามารถซื้อได้ ด้วยการไป ฝึกทักษะกีฬาฟุตบอลที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ และสโมสร OH Leuven ของประเทศเบลเยียม เพื่อต่อยอดอนาคตของนักเตะเยาวชนไทยได้มีช่องทางเข้าไปเล่นในลีกฟุตบอลระดับยุโรป

“สำหรับ FOX HUNT ปีนี้เป็นรุ่นที่ 3 แล้ว มีนักเรียนรุ่นแรกประสบความสำเร็จกลับมา 12 คน ได้ไปเล่นในไทยลีก อีก 4 คนไปเล่นที่ OH Leuven ผมหวังว่าวันหนึ่ง เราจะได้เห็นคนไทยเตะฟุตบอลในลีกยุโรป และเชื่อว่า ภายใน 3-5 ปีนี้จะได้เห็นเด็กๆจากโครงการ FOX HUNT จะได้ติดทีมชาติในอนาคต" 

โครงการนี้ต้องทำต่อเนื่อง และจะมีเปิด  FOX HUNT  รุ่นที่ 4 ในเร็วๆนี้

ด้าน MUSIC POWER ‘หนุนดนตรีไทยสู่โชว์ระดับนานาชาติ’ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์ได้จัดโครงการแข่งขันวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทยขึ้น เพื่อให้เวทีการแข่งขันที่คนไทย จะต้องแข่งกับนานาชาติ เราใช้โรงละครอักษรา เป็นเวที ที่จะสร้างศิลปิน นักดนตรี เยาวชนรุ่นใหม่ ให้แจ้งเกิด และจุดประการทางดนตรี ให้โลกได้รู้พลังด้านดนตรีของคนไทยก็พร้อมอวดโฉมในระดับสากล

ด้านการส่งเสริมชุมชน ทาง คิวเพาเวอร์ให้ความสำคัญมาก จึงได้จัดกิจกรรมด้านชุมชน หรือ COMMUNITY POWER ‘บอกให้โลกรู้ว่าของไทยนี้ดี’ เวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้สินค้าไทย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหัตถกรรม อาหาร ขนม และ ของที่ระลึกได้เฉิดฉายในสายตาคนต่างชาติ ช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้หลายชุมชนทั่วประเทศ

"เราได้ลองนำสินค้าผ้าคราม จากจังหวัดสกลนคร ไปผลิตสินค้าเป็นของที่ระลึก ในร้านสโมสรเลสเตอร์ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับดีมาก และในเร็วๆนี้ทางคิงเพาเวอร์จะมีการปรับปรุงสนามซ้อม และจะมีการเพิ่มพื้่นที่แสดงสินค้าไทยเพิ่มมากขึ้น  โดยยังคงชูจุดแข็งและภูมิปัญญาของชาวบ้านไว้ และต่อยอดสินค้าให้ตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศ และเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้า ซึ่งในเร็วๆนี้จะเห็นสินค้าไทยอีกมากมายออกสู้ตลาดโลก" นายอัยยวัฒน์ กล่าว

ส่วนทางด้านการศึกษาและสาธารณสุข  EDUCATION & HEALTH POWER ‘คุณภาพชีวิตที่ดีต้องมาก่อน’ อย่างโครงการ ‘พลังคนไทย สุขาสุขใจ’ ที่ออกแบบและมอบสุขาในรูปแบบสากล สำหรับชาย หญิง และผู้พิการ เพื่อให้เป็นห้องน้ำของทุกคนอย่างแท้จริง สะดวก สบาย ปลอดภัย พร้อมดำเนินการจัดสร้างให้แล้วเสร็จเพื่อไปติดตั้งยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวไทยให้กับชาวไทยและต่างชาติครบทุกมิติ  ซึ่งในปีนี้จะเปิดให้ครบ 10 แห่ง ทั่วประเทศ และจะขยายเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ

นอกจากนี้เรายังมีโครงการสนับสนุน โครงการ ก้าวคนละก้าว เพื่อหาเงินช่วยเหลือ 11 โรงพยาบาลและโครงการพลังคนไทย พลังใจชีวิต มอบตู้อบเด็กให้กับ 20 โรงพยาบาลทั่วทุกภูมิภาค

“สำหรับโครงการตู้อบเด็ก แม้โครงการใหม่ที่เพิ่งริเริ่ม แต่จริงๆครอบครัวของเราก็สนับสนุนในเรื่องนี้มานานแล้ว แต่เราต้องการให้สเกลมันใหญ่ขึ้น เพราะเห็นว่า ตู้อบเด็ก เป็นสิ่งจำเป็น  ในประเทศไทย มีเด็กคลอดก่อนกำหนดเยอะมาก การมีตู้อบก็เท่ากับช่วยรักษาชีวิตคนได้อีก   ดังนั้นทางคิงเพาเวอร์จึงอยากจะสนับสนุนเรื่องนี้ ซึ่งแม้ว่าโครงการนี้จะเป็นโครงการเล็ก แต่ถ้าทำต่อเนื่องก็จะช่วยชีวิตคนได้อีกมาก ใครจะรู้ว่า อนาคต เด็กที่รอดชีวิตด้วยตู้อบ อาจจะเป็น นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยก็ได้”  

และสุดท้ายในส่วนของการศึกษา คิง เพาเวอร์ ได้ร่วมสร้างอนาคตเด็กไทยผ่านมูลนิธิคิง เพาเวอร์ มายาวนานถึง 13 ปี เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ทุ่มเทกับการเรียนอย่างเต็มที่  คิง เพาเวอร์ไม่เพียงสนับสนุนอุปกรณ์การเรียน สื่อการเรียนการสอน ช่วยซ่อมแซมอาคารเรียนและสร้างห้องสมุด สร้างรากฐานอนาคตที่ดีให้คนไทยมีโอกาสไปหาความรู้ในต่างประเทศเพื่อกลับมาช่วยพัฒนาประเทศ ด้วยการร่วมกับมหาวิทยาลัย เลสเตอร์ มอบทุนการศึกษาระดับปริญญาโทให้กับคนไทย

“ผมว่าคำว่า Thai power หรือพลังคนไทย มันชัดเจนมาก เพราะถ้าเราพลังคนไทยมารวมกัน แล้วก็ทำในสิ่งที่ดีต่อสังคม ช่วยกันพัฒนาประเทศ ผมว่าสิ่งที่ดีและสิ่งที่ยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างแน่นอน โดยที่ผ่านมา ทางคิงเพาเวอร์ได้ใช้งบประมาณกว่า 400 ล้านบาท  เพื่อสนับสนุนทุกโครงการ และในปีต่อๆไปก็จะสนับสนุนวงเงินไม่ต่ำกว่านี้ หรืออาจจะมากขึ้น เพื่อช่วยกันยกระดับประเทศไทยให้มีความเติบโตยั่งยืน ” นายอัยยวัฒน์ กล่าวสรุป