5ก.ย.61- “ขจร” เผย กรณีตั้งอธิการบดีอายุเกิน 60 ปี ถือเป็นดุลยพินิจและนโยบายของ “รมว.ศธ.” แย้ม ในทางปฏิบัติส่วนใหญ่ ไม่ควรขัดแย้งกับคำตัดสินศาลปกครองสูงสุด
นายขจร จิตสุขุมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาฯ กกอ.) ในฐานะรักษาการเลขาฯ กกอ. กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น โดยให้เพิกถอนมติสภามหาวิทยาลัยราชภัฎ (มรภ.) กาญจนบุรี ที่แต่งตั้งนายปัญญา การพานิช เป็นรักษาราชการแทนอธิการบดีมรภ.กาญจนบุรี เพราะเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย และนายปัญญา ก็อายุเกิน 60 ปี ว่า ตามหลักของกฎหมายแล้วคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดกรณี มรภ.กาญจนบุรีจะมีผลผูกพันเฉพาะคู่กรณีเท่านั้น หากจะถามว่ากรณีที่มีการแต่งตั้งอธิการบดีที่มีอายุเกิน 60 ปีไปแล้วจะมีผลหรือไม่นั้น เรื่องการยกเลิกหรือจะไปเพิกถอนคงทำไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นคู่กรณี
นายขจร กล่าวต่อว่า ส่วนการจะเสนอขอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งอธิการบดีใหม่ นั้น เรื่องนี้นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้กล่าวแล้วว่า ถ้ามหาวิทยาลัยมีการเสนอผู้ที่อายุเกิน 60 ปี มาจะไม่เสนอขอโปรดเกล้าฯแต่งตั้งอธิการบดี ซึ่งแสดงว่า รมว.ศธ. ยึดตามแนวทางคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดคดีของ มรภ.กาญจนบุรี และ เคารพในอำนาจของตุลาการ เพราะ รมว.ศธ.เป็นฝ่ายบริหาร อย่างไรก็ตาม การเสนอขอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งอธิการบดีใหม่ จะดำเนินการอย่างไร และจะต้องนำรายชื่อส่งคืนสภามหาวิทยาลัยหรือไม่ ถือเป็นดุลยพินิจและนโยบายของ รมว.ศธ. ทั้งนี้ในทางปฏิบัติแล้วส่วนใหญ่แล้วเมื่อศาลปกครองสูงสุดตัดสินอย่างไรก็ไม่ควรไปขัดแย้ง และคำสั่งศาลยังถือเป็นบรรทัดฐานให้หน่วยงานได้ปฏิบัติไม่เฉพาะคู่กรณี สำหรับคนที่แต่งตั้งไปแล้วก็ทำอะไรไม่ได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ รมว.ศธ.มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จัดประชุมชี้แจงมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด นายขจร กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องนี้ และต้องรอให้เลขาฯ กกอ.มาดูเรื่องนี้ว่าจะประชุมเมื่อไหร่