ชักเริ่มชุลมุนขึ้นมามั่งแล้ว!!!


เพิ่มเพื่อน    

        ขนาดยังไม่ได้ปลดล็อก คลายล็อก กันให้เป็นเรื่อง เป็นราว ยังชักเริ่มอุตลุด ชุลมุน ขึ้นมามั่งแล้ว เริ่มกล่าวหา ตอบโต้ข้อกล่าวหา เริ่มกระบวนการฟ้องร้อง ว่ามึงผิด-กูถูก กูถูก-มึงผิด แต่ที่มึนซ์ซ์ซ์ยิ่งไปกว่านั้น ก็คือแทบไม่รู้ว่า เอาไป-เอามา...บรรดามึงๆ กูๆ พวกมึง พวกกู สุดท้ายแล้ว...เป็นพวกไหน ฝ่ายไหน ใครเป็นใคร หรือไผเป็นไผ กันแน่!!!

                                -------------------------------------------------------

        คือแทนที่ แรมบ้า ผู้ซึ่ง สุโขทัย เรียงหิน แห่งกลุ่มสามมิตร เพิ่งจะต่อท่อพญานาคดูดออกมาจากบ่อเกรอะแบบสดๆ ร้อนๆ น่าจะจัดกลุ่ม จัดประเภท จัดสปีชีส์ อยู่ในหมวดหมู่พวกที่ เอาบิ๊กตู่ เช่นเดียวกับพรรค ภูมิใจไทย ของคุณน้อง เนวิน มูรอโง่ และ เสี่ยหนู ชาญวีรกูล อย่างมิพึงต้องสงสัย แต่ไปๆ-มาๆ...แรมบ้า ดันหันมาฟ้อง ภูมิใจไทย เรื่องแอบกว้านซื้อบัตรประชาชนเมืองย่าโม เช่นเดียวกับพวก ไม่เอาบิ๊กตู่ อย่างพรรค เผาไทย กลายเป็น แนวร่วมมุมกลับ หรือแนวร่วมกลับมุม หักมุม ไปซะนี่ เล่นเอาใครต่อใคร แม้แต่ดวงวิญญาณของ ย่าโม น่าจะปวดหัว เวียนเฮด กันไปมิใช่น้อย...

                               --------------------------------------------------------

        แล้วใครจะไปรู้ได้ว่า...บรรดาก้อนแต่ละก้อน ที่กลุ่มสามมิตรเขาดูดแล้ว ดูดอีก ชนิดทะลักออกมาเป็นสายๆ นั้น จะเป็นประเภทเดียวกับ แรมบ้า กันอีกซักกี่ก้อน จะต้องชันสูตร พลิกศพ ต้องเอาเศษเนื้อ เศษน้ำ ไปส่องกล้องจุลทรรศน์ ตรวจสอบว่ามีวัสดุปลอมปน มีแนวร่วมกลับมุม หักมุม สอดแทรกเข้ามาในระดับไหน หรือไม่ เพียงใด ไม่เช่นนั้น...อีตอนต้องยกมือ ยกไม้ กันในรัฐสภา ว่า ใครเอาบิ๊กตู่-ใครไม่เอาบิ๊กตู่ ให้จะจะ จังๆ กันไป โอกาสที่จะเกิดงูเห่า งูเขียว งูขาว งูเหลือม งูบองหลา ลอดเลี้ยว เลื้อยพล่านกันไปในสภาฯ ทั้งสภาฯ ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...

                              ---------------------------------------------------------

        นี่...อันนี้นี่แหละที่ต้องถือว่าเป็นทั้ง ศาสตร์ และ ศิลป์ ของสิ่งที่เรียกว่า การเมือง โดยเฉพาะ การเมืองแบบไทยๆ ด้วยแล้วยิ่งต้องศึกษา ค้นคว้า จนกระทั่งมีปีกงอก เกล็ดแตกลายงา เขี้ยวลากดินจนพื้นสึกไปเป็นทางๆ ถึงจะถือว่าบรรลุแล้ว จบหลักสูตรเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว พอที่จะก่อให้เกิดความมั่นใจในการโดดเข้ามาสู่แวดวงยุทธจักรได้อย่างอยู่รอด ปลอดภัย เพราะถ้าหากมีความรู้อยู่เพียงแค่ ถือปืน-แบกปูน-ไปโบกตึก แต่เพียงเท่านั้น โอกาสที่จะตาย...กับ...ตาย แบบใครต่อใครที่เคยตายๆ ไปแล้ว หรือแบบที่คนขับรถเร็วกว่าท่าน เก่งกว่าท่าน ล้วนได้ตายไปหมดแล้ว ย่อมมีสิทธิ์เป็นไปได้ ไม่น้อยกว่า 50-60 ขึ้นไป...

                              ---------------------------------------------------------

        อีกทั้งจะไปโทษพวกสามมิตรล้วนๆ....ก็คงลำบากอีก คือไอ้เรื่องการ “ดูด” นั้น ถ้าจะให้ดูดกันอย่างประณีต ละเอียดอ่อน เสียวซ่านกันจริงๆ มันคงต้องเกี่ยวโยงไปถึงเรื่องอุดมคติ อุดมกง อุดมการณ์ อะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะ มากมาย ไม่ได้ง่ายๆ แบบเรื่องการดูดเงิน ดูดทอง ดูดนักลงทุน เข้ามาในอีอีซง อีอีซี อะไรทำนองนั้น อันนั้น...ถ้าผลประโยชน์ลงตัว มองเห็นกำไรวางกองอยู่ตรงหน้า ก็ผัวะๆๆ พลั่กๆๆ ได้โดยฉับพลัน-ทันที เป็นไปตามหลักเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก ว่าด้วยอุปสงค์-อุปทาน ดีมานด์ และซัพพลาย โดยไม่ต้องเสียเวลาคิดมาก หรือคิดเล็ก คิดน้อย ไม่ต้องถึงระดับ ป๋าดันมาเอง แค่ส่งเฉพาะ ลูกน้อง ที่ยังหนุ่ม ยังไฟแรง ก็สามารถดูดเข้า ดูดออก ดันตัวเลขจีดีพง จีดีพี ให้โตแบบ ถั่วงอก ได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์...

                                ----------------------------------------------------------

        แต่สำหรับเรื่อง การเมือง แล้ว...ต่อให้ระดับ ป๋า ของ ป๋าดัน ก็เถอะ ก็ใช่ว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตได้ง่ายๆ ยิ่งถ้าหากเป็นการเติบโตแบบโตเร็ว โตให้ทันเวลา หลังสิ้นสุด โรดแมป ต้องต่อไปยัง โรดหมับ ให้จงได้ มันเลยหนีไม่พ้นต้องดูดกันแบบไม่สนใจหน้าอินทร์ หน้าพรหม ไม่ต้องคลำหัว คลำหาง ขอเพียงให้มีคะแนนนิยมระดับหลักพัน หลักหมื่น ติดไม้ ติดมือ พอที่จะนำไปรวมให้ได้ 70,000-80,000 คะแนน ต่อ 1 เก้าอี้ ขี้แต่ละขี้ มันเลยไหลเข้าสู่ท่อดูดกันเป็นสายๆ และกว่าที่จะรู้ว่าใครเป็นงูเห่า งูไม่เห่า ใครเป็นแนวร่วมมุมกลับ เป็นแนวร่วมหักมุม ก็อาจจังหวะเดียวกับที่ บิ๊กตู่ตกม้าตาย หรือไม่ก็จังหวะที่ถูก เสือขบหัว ระหว่างคิดจะลงจากหลังเสือ อะไรประมาณนั้น...

                              -------------------------------------------------------

        ด้วยความสลับซับซ้อนของสิ่งที่เรียกว่า การเมือง นี่เอง...ที่ทำให้บรรดานักปราชญ์ อภิมหาปราชญ์ ตั้งแต่ยุคโบร่ำ โบราณ ยุค เหลาจื๊อ ยังใส่กางเกงหูรูดโน่นเลย ท่านจึงเน้นย้ำเอาไว้เสมอๆ ว่า ย่อมไม่มีอะไรดีไปกว่าการอาศัย ครรลอง-คลองธรรม การยึดมั่นในกฎความเป็นไปแห่งธรรมชาติ ไม่ว่าการวางในตัวที่ต่ำ เพื่อเป็นแหล่งรวมของแม่น้ำทั้งหลาย การอยู่เบื้องหลังไม่ใช่อยู่เบื้องหน้าราษฎร การไม่คิดจะครอบครองด้วยกำลัง การไม่แย่งชิงอะไรจากใครเพื่อไม่ให้ใครแย่งชิงอะไรจากตัวเอง ฯลฯลฯ และอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะมากมาย ที่โดยสรุปรวมๆ แล้ว...ก็คือ ธรรมะ นั่นเอง ถึงจะนำมาซึ่งความอยู่รอด ปลอดภัย แบบยั่งยืน ถาวร อันไม่ต่างอะไรไปจากพุทธภาษิตที่ว่าด้วย ธัมโม หเว รักขติ ธัมมะจาริง” หรือ “ธรรมะย่อมปกป้องคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม นั่นแล...

                              --------------------------------------------------------

        ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Chinese proverb... “Wealth and position are like floating clouds.- ทรัพย์สมบัติและสถานะตำแหน่ง เปรียบได้ดั่งเมฆที่ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า...”

                                 --------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"