ชีวิตที่เรียบง่าย


เพิ่มเพื่อน    

     เวลาเราเห็นหรือมองมนุษย์ร่อนเร่ คนจรจัด ที่พร้อมจะนั่งได้ทุกที่ ซุกหัวนอนได้ทุกแห่งตามใจชอบ ..เชื่อว่าหลายคนคงคิดเองเออเอง หรือคิดแทนคนเหล่านั้นว่า ...ทำไมญาติพี่น้องไปไหนหนอ??? ถึงปล่อยให้มามีชีวิตที่ลำบากขัดสนอยู่ริมถนน ..ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว คนกลุ่มนี้อาจจะไม่ได้ต้องการความสงสาร เห็นใจ หรือเวทนาของใครก็ได้

     มันอาจจะเป็นวิถีของคนรักอิสระ อยากมีชีวิตที่ตัวเองเลือก ไม่ต้องการอยู่ใต้กฎ กติกา มารยาทของใคร...ก็ได้

     เพราะเคยสังเกตใบหน้าของคนจรจัดไหมว่า พวกเขาไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจ รีบเร่ง จะไปแก่งแย่งแข่งขันกับใคร แต่เขาสนใจที่จะมองหาสิ่งที่จะมาเอื้ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของเขาเสียมากกว่า นั่นคือ การมีกินและมีที่ซุกหัวนอนก็พอ

     ภาพคนจรจัดที่มีระเบียบเรียบร้อย ...ถ้าอยากเห็นล่ะก็ ลองเดินไปดูแถวสถานีรถไฟหัวลำโพงช่วง 4-5 ทุ่มนะคะ มันอาจจะสะท้อนใจพอสมควร เพราะมีทั้งคนแก่คนเฒ่า วัยกลางคน ผู้หญิง ผู้ชาย และลูกเด็กเล็กแดง แต่พวกเขานอนพักผ่อนกันอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว จนมนุษย์ป้าสงสัย แยกไม่ถูกระหว่างคนจรจัดกับคนที่รอรถไฟขบวนที่ตัวเองจะขึ้นนั้น มันยังไงกันแน่

     แล้วคำตอบที่ได้คือ คนที่อยู่ในส่วนหัวลำโพงนอกชานชาลานั้นล้วนแต่เป็นคนจรจัด ที่เช้าก็หายไป กลางคืนก็กลับมาจับจองพื้นที่ในหัวลำโพงซุกหัวนอน 

     พวกเขามาจากไหนกัน??? มีคำถามก็ต้องหาคำตอบ แล้วก็ถึงบางอ้อ!!...ว่าส่วนใหญ่แล้วมาจากท้องสนามหลวง หลังจากที่ทางการมีการจัดระเบียบรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ห้ามคนจรจัดไปอาศัยตามใต้ต้นมะขามเป็นที่พักพิงอีกต่อไป ตั้งแต่ช่วงพระราชพิธีพระบรมศพขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 นั่นเอง

     แม้ทางการโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะพยายามช่วยเหลือด้วยการติดต่อส่งคืนกลับบ้านถิ่นฐานเดิม หรือให้เลือกที่อยู่ตามสถานสงเคราะห์ต่างๆ ปรากฏว่าเหล่าคนรักอิสระก็ยังพอใจที่จะเป็นคนจรจัดอยู่บนถนนหนทางมากกว่าที่จะกลับไปหาครอบครัว หรือหาหลักแหล่งทำงานเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวในบั้นปลาย

     ทางออกที่ดีที่สุด คือ จัดให้เขาอยู่กับที่อย่างมีระเบียบ ซึ่งส่วนหนึ่งก็คือที่หัวลำโพงนั่นเอง เวลาไปธุระแถวนั้น และจำเป็นต้องใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน จึงได้เห็นภาพชีวิตเรียบง่ายภายใต้ชายคาสถานีรถไฟ ซึ่งดูๆ ไปพวกเขาก็ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไร กลับดูรีแล็กซ์ หรือสบายๆ เสียอีก เพราะหัวลำโพงมีหลังคาคุ้มหัว ไม่เหมือนอยู่ใต้ต้นมะขามที่ท้องสนามหลวงอย่างแน่นอน และยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งกำกับดูแลความเรียบร้อยปลอดภัยอยู่แถวนั้นด้วย

     มันคงเป็นชีวิตที่เขาเลือกกันแล้วกระมัง!!! เพราะจะบอกว่าเลือกไม่ได้ก็ไม่ถูกต้อง 100% อย่างแน่นอน เพราะทางการก็มีการเปิดโอกาสให้ฝึกวิชาชีพตามสถานสงเคราะห์ต่างๆ และหางานให้เท่าที่จะทำได้ แต่ชีวิตอิสระไม่ผูกพัน ผูกมัด คงจะมีเสน่ห์เหนืออื่นใด.

                                                                                "ป้าเอง"  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"