4 ก.ย.61- ที่โรงแรมแคนทารี โคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายพรชัย อำนวยทรัพย์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เขต อ.ครบุรี ได้นำหลักฐานแจ้งความลงบันทึกประจำวัน จากสภ.ครบุรี มาแสดงต่อสื่อมวลชน เพื่อยืนยันการแจ้งความร้องทุกข์ กรณีที่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีตแกนนำ นปช.อีสาน ได้กล่าวหาว่าไปจ้างอสม.ล่าเก็บบัตรประจำตัวประชาชน ของชาวบ้านในพื้นที่ อ.เสิงสาง และ อ.ครบุรี เพื่อนำมาเตรียมการที่จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย พร้อมกับเสนอให้ กกต.ทำการพิจารณายุบพรรคภูมิใจไทย โดยอ้างว่าผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง และขัดต่อคำสั่ง คสช. ซึ่งนายพรชัย ฯได้ออกมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

 นายพรชัย กล่าวว่า กรณีที่มีกระดาษขนาด A4 ซึ่งมีรูปบัตรประจำตัวประชาชน และด้านล่างมีข้อความว่า เตรียมสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ซึ่งนายสุภรณ์ฯ ระบุว่าเป็นการเตรียมซื้อเสียงล่วงหน้านั้น ขอชี้แจงว่า ในพื้นที่ อ.ครบุรี และ อ.เสิงสางนั้น เป็นพื้นที่ของคนที่เคยเป็น ส.ส.เดิมหลายคน ได้แก่ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ , นายสัมภาษณ์ อัตถาวงศ์ และนางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล ส่วนตนเองนั้นยังไม่เคยเป็น ส.ส. และยังไม่รู้เลยว่าจะได้สังกัดพรรคการเมืองใด เพราะยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดๆ เลย แต่นายสุภรณ์ ระบุว่า ตนเองกับนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ได้มีพฤติกรรมส่อไปในทางทำทุจริตการเลือกตั้งแล้ว ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นตนเองเป็นคนเกิดในพื้นที่ อ.ครบุรี และเป็น ส.อบจ.ในพื้นที่มาแล้วถึง 3 สมัย เข้าสู่สมัยที่ 4 ในยุค คสช.ต่ออายุให้ รวมระยะเวลา 10 กว่าปี ที่ทำงานในฐานะเป็นนักการเมืองท้องถิ่น

 “ วันนี้จึงมีความคิดว่าอยากจะก้าวสู่ถนนการเมืองระดับชาติบ้าง เผื่อจะได้เข้ามาทำงานช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมาตนเองก็เป็นนักต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังชาว อ.ครบุรี และ อ.เสิงสาง มาโดยตลอดหลายสิบปี ซึ่งทุกครั้งที่ไปเรียกร้องกับรัฐบาล ให้ช่วยเหลือปัญหาของพี่น้องชาวไร้มันสำปะหลัง ก็เป็นได้เพียง ส.ส.นอกสภา ที่ไม่ค่อยเสียงดังมากนัก ดังนั้นจึงมีแนวความคิดว่า ถ้าได้เป็น ส.ส.ในรัฐสภาบ้าง ก็คงจะเป็นกระบอกเสียงสะท้อนปัญหาชาวบ้าน และชาวไร่มันสำปะหลัง ให้รัฐบาลได้รับทราบ เพื่อช่วยเหลือได้เป็นอย่างมาก แต่การเข้ามาเป็นตัวแทนสมัคร ส.ส.นั้น ไม่ได้เข้าไปง่ายๆ เพราะตามกฎหมายเลือกตั้งใหม่ ในระบบไพรมารี่โหวต ซึ่งต้องมีประชาชนในพื้นที่เสนอชื่อว่าอยากจะให้ใครเป็นตัวแทนของตนเอง เข้าไปสมัครตามพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเลือก ส.ส.อีกที ซึ่งผมเองก็มองเห็นว่าพรรคการเมืองที่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร้มันสำปะหลังได้ดีที่สุด ก็คงจะมีอยู่พรรคเดียว คือพรรคภูมิใจไทย ดังนั้นผมจึงได้ทำแบบสอบถามพี่น้องประชาชน เวลาไปงานบวช งานแต่ง งานศพ และงานต่างๆ เพื่อสอบถามว่าถ้าผมจะลงสมัครเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนบ้านเกิด ในนามพรรคภูมิใจไทย เพื่อไปต่อสู้แก้ไขปัญหาราคามันสำปะหลัง พี่น้องประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่ แต่ถ้าจะให้มีน้ำหนักพอที่จะยืนยันว่าเป็นการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนจริงๆ เพื่อที่จะนำไปเสนอต่อพรรคภูมิใจไทยให้พิจารณาผมเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในนามของพรรค เข้ารับการเลือกตั้ง ก็เลยต้องมีการถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนแนบมาด้วย ซึ่งทุกคนก็ยินดี เพราะฉะนั้นในวันนี้ตผมก็ยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกของพรรคภูมิใจไทยเลย เป็นแต่เพียงอยู่ระหว่างขั้นตอนเตรียมการสอบถามพี่น้องประชาชน ตามหลักไพรมารี่โหวตเท่านั้น ส่วนพรรคภูมิใจไทย จะพิจารณาเลือกผมเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หรือไม่นั้น ก็เป็นสิทธิ์ของพรรค ซึ่งนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ก็ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน ในเขตพื้นที่ อ.ครบุรี และ อ.เสิงสาง ดังนั้นทั้งผม และนายวีรศักดิ์ฯ จึงต้องแข่งขันกันเพื่อที่จะหาประชาชนผู้สนับสนุน เสนอต่อพรรคภูมิใจไทย ให้เป็นผู้พิจารณา “