“ดอน” แจงตรวจสอบกระแสข่าวอังกฤษให้พาสปอร์ต “ปู” แล้วไม่มีมูล ดักทางบางประเทศขายพาสปอร์ตให้คนไปลงทุนตามเงื่อนไข แต่เชื่ออังกฤษไม่มีนโยบาย ปัดไม่ทราบอดีตนายกฯ อยู่ที่ไหน "บิ๊กตู่" เมินตระกูลชินวัตรจะไม่เล่นการเมือง ป.ป.ช.จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน 9 ธ.ค. กระตุ้นทุกภาคส่วนไม่ทนต่อการทุจริต

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 4 ธันวาคม นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกระแสข่าวทางการอังกฤษได้ให้หนังสือเดินทางแก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ทางการกระทรวงการต่างประเทศยังไม่มีข้อมูลดังกล่าว ทราบเพียงจากข่าวที่มีการนำเสนอ และทางสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยยังไม่ได้รายงานเรื่องดังกล่าวมายังทางการไทย ตนจึงไม่อยากเดาหรือคาดการณ์อะไรทั้งสิ้น เพราะขณะนี้เป็นเพียงการพูดกัน แต่ไม่มีข้อมูลใดๆ เราได้ยินข่าวนี้มาเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา จากนั้นได้ตรวจสอบ แต่ข่าวไม่มีมูล

“การให้พาสปอร์ตต้องเป็นคนของประเทศนั้นถึงจะได้ แต่มีบางประเทศที่ขายพาสปอร์ต เช่น ให้คนไปลงทุนตามที่มีการกำหนดไว้เป็นเงื่อนไข ซึ่งมีหลายประเทศสามารถไปตรวจสอบได้ และมีข้อมูลในอินเทอร์เน็ตทั่วไป แต่อังกฤษไม่มีนโยบายเช่นนี้” นายดอนระบุ

ส่วนกรณีที่บางประเทศมอบหนังสือเดินทางให้กับนักธุรกิจที่ไปลงทุน อาจเป็นช่องทางให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รมว.การต่างประเทศกล่าวว่า เรื่องแบบนี้เป็นระเบียบของบางประเทศ แต่ในส่วนของประเทศอังกฤษ เชื่อกันว่าคงไม่ขาดแคลนเงิน และไม่มีนโยบายในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากมีความเข้มงวดกับการเข้า-ออกประเทศ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้ตรวจสอบ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับเราโดยตรง เพียงแต่มีกระแสข่าวออกมาเท่านั้น

เมื่อถามว่า จากกระแสข่าวการลี้ภัยและการมอบพาสปอร์ต ทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจพำนักอยู่ที่อังกฤษ นายดอนกล่าวว่า ไม่สามารถทราบได้ แต่เมื่อมีข่าวออกมา ทางสถานทูตได้ตรวจสอบ แต่ได้รับแจ้งว่าไม่มีอะไร แค่นั้นเอง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ได้สั่งให้ตรวจสอบ เพียงแต่เมื่อมีข่าวออกมา ทางสถานทูตจึงต้องไปสอบถาม

ต่อข้อถามว่า ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับพาสปอร์ตหรือสถานะผู้ลี้ภัย ทางการไทยจะทราบทันทีใช่หรือไม่ นายดอนกล่าวว่า ไม่จำเป็น อยู่ที่ประเทศต้นทางว่า จะให้ข่าวหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่มีใครทราบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ที่ไหน เพราะไม่เคยปรากฏตัวที่ไหน ส่วนการติดตามเป็นเรื่องตำรวจ ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศถือว่าจบตั้งแต่ยกเลิกพาสปอร์ตทั้งหมด

ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางออกนอกประเทศตั้งแต่คืนวันที่ 23 พ.ย. ก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดอ่านคำพิพากษาในคดีโครงการจำนำข้าวในวันที่ 26 ก.ย. โดยสั่งจำคุก 5 ปีในกรณีปล่อยให้ทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้พาสปอร์ตประเทศอังกฤษว่า ตนยังไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ ส่วนประเทศใดตนก็ยังไม่ได้รับรายงานเช่นเดียวกัน

เมื่อถามถึงกรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าตระกูลชินวัตรไม่อยากยุ่งการเมืองอีก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องตระกูลที่ไม่อยากยุ่งการเมืองก็เป็นเรื่องของท่าน

ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางสุวณา สุวรรณจูฑะ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้นำคณะผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ช. พร้อมด้วยยุวทูต ป.ป.ช. เข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อมอบเสื้อตราสัญลักษณ์งานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) และประชาสัมพันธ์การจัดการวันต่อต้านคอร์รัปชันสากลฯ ประจำปี 2560 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 9 ธ.ค. ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ขณะที่นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ประชาคมทุกภาคส่วนต้องช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ต้องแก้ปัญหาเก่าและป้องกันปัญหาใหม่

นางสุวณากล่าวถึงการจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากลว่า ทุกภาคส่วนจะจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล ภายใต้แนวคิด Zero Tolerance คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกให้ทุกภาคส่วนไม่ทนต่อการทุจริต และร่วมกันแสดงเจตนารมณ์มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการทุจริต ภายในงานจะร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริตจากนายกรัฐมนตรี การแถลงสารขององค์การสหประชาชาติ แถลงการณ์ขับเคลื่อนประเทศไทยใสสะอาด ไทยทั้งชาติต้านทุจริตของประธานกรรมการ ป.ป.ช. มอบรางวัลประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐที่ได้คะแนนสูงสุด ประจำปี 2559-2560 สำหรับงานดังกล่าว จะจัดในวันที่ 9 ธ.ค. ที่ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ขณะที่ส่วนภูมิภาคจะจัดพร้อมกันทุกจังหวัด

กรรมการ ป.ป.ช.กล่าวถึงการประเมินดัชนีความโปร่งใส หรือค่าซีพีไอของประเทศไทยในปีนี้ว่า เรื่องดังกล่าวเราคาดหวังมากว่าจะออกมาดี เพราะประเทศไทยมียุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันการทุจริต โดยยกระดับค่าซีพีไอให้สูงกว่า 50 คะแนน และในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ ถือเป็นวันต่อต้านการทุจริตสากล ประเทศไทยจะแสดงเจตนารมณ์การต่อต้านการคอร์รัปชัน กิจกรรมนี้จะสามารถยกระดับดัชนีความโปร่งใสของไทยได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะถูกหยิบปัจจัยเรื่องประชาธิปไตยมาประเมินในดัชนีปีนี้ เนื่องจากปีที่แล้วไทยได้คะแนนปัจจัยนี้ต่ำมาก นางสุวณากล่าวว่า อยู่ที่องค์กรวัดดัชนีความโปร่งใสนานาชาติ เพราะปีที่แล้วเขาไม่ได้บอกเราก่อนว่าจะมีปัจจัยใดบ้างในการนำมาประเมิน แต่หากมองในภาพรวม เชื่อว่าจะได้คะแนนดีขึ้น เพราะเราได้แก้ไขปัญหาที่ทำให้คะแนนลดลงแล้ว ส่วนหากประเทศไทยมีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย จะทำให้คะแนนตรงนี้ได้เพิ่มมากขึ้นหรือไม่ ไม่แน่ใจ แต่เชื่อว่าคะแนนจะดีขึ้น

ด้านนายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน กล่าวว่า ปัญหาการทุจริตเป็นปัญหาที่ทุกประเทศต้องร่วมมือกันแก้ไขอย่างจริงจังและต่อเนื่อง หน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบทั้ง ป.ป.ท.และป.ป.ช. ได้ปฏิรูปกฎหมาย เพื่อให้การทำงานตรวจสอบรวดเร็วขึ้น ขณะที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้ให้ข้อมูล และกำหนดให้ภาครัฐเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนเข้าถึงได้สะดวก จะส่งผลดีให้ประชาชนตรวจสอบการใช้อำนาจภาครัฐ นำไปสู่ความโปร่งใสในการปฏิบัติงานของภาครัฐ

สำหรับการจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากลในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ จากผลสำรวจขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชันในช่วงเวลาที่ผ่านมา พบว่า คนไทยมากถึงร้อยละ 86 ยินดีที่จะเข้ามีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริต และรัฐธรรมนูญก็กำหนดให้ภาครัฐต้องส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการต่อต้านการทุจริตมากขึ้น จึงทำให้เป็นผลดีต่อประชาชนที่พร้อมจะแจ้งเบาะแสการทุจริต เพื่อนำไปสู่ความโปร่งใสในการทำหน้าที่ของภาครัฐ.