MG3 รถเรือธงของค่าย MG ที่มียอดขายแล้วกว่า 17,000 คัน โดยใน MG3 โฉมใหม่ตั้งเป้าไว้ที่ 10,000 คัน ภายใต้นิยาม “WE ARE FUN” “มองโลกให้สนุกทุกเส้นทาง” ผสานนวัตกรรม เทคโนโลยีที่ทันสมัย และระบบการเชื่อม ต่ออัจฉริยะ i-SMART ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 112 แรงม้า พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่ ผสานระบบ เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน กับ SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM 8 ระบบ เพื่อความมั่นใจใน ทุกการเดินทาง

เอ็มจี ประเทศไทย เชิญสื่อมวลชนร่วมสัมผัสและทดสอบ MG3 ใหม่ รถยนต์แฮทช์แบ็กสีสันสดใสที่มามีนิยาม “มองโลกให้สนุกทุกเส้นทาง” ที่มากับรูปลักษณ์ใหม่ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นทันสมัย พร้อมสมรรถนะที่มอบประสบการณ์ ขับขี่ให้สนุกทุกเส้นทาง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบ ฟังก์ชั่นใหม่ๆ รวมถึงสมรรถนะของรถกันอย่างเต็มที่ทั้งในรูปแบบของการใช้งานจริงบนท้องถนนและในสนามทดสอบ จำลองที่จัดเตรียมไว้เพื่อการทดสอบระบบความปลอดภัยในรถยนต์ MG3 ใหม่ โดยเฉพาะบนเส้นทางกรุงเทพสู่หัวหิน รวมระยะทางกว่า 240 กิโลเมตร

รถยนต์ MG3 ใหม่ ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากรถต้นแบบอย่าง เอ็มจี อี-โมชั่น รวมถึงการนำ นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัย และการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเข้าไว้ด้วยกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้น และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความล้ำสมัยนำเทรนด์ ที่ให้ความสนุกในการขับขี่แต่ยังคงไว้ซึ่งระบบ ความปลอดภัยแบบครบครัน MG3 ใหม่ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด บริท ไดนามิค ที่ทำให้สมรรถนะ การควบคุม การออกแบบ และความปลอดภัย สนุกยิ่งขึ้นด้วยการผสานเทคโนโลยี สีสัน ความสะดวกสบาย ความคล่องแคล่ว และความสนุกในการขับขี่เข้าด้วยกัน ภายนอกดีไซน์โดดเด่น ด้วยกระจังหน้าใหม่ ให้ความหรูหราและทันสมัย ไฟหน้าเป็นแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างขณะขับขี่เวลากลางวัน สอดรับกับไฟท้ายแนวตั้งแบบแอลอีดี ไลท์ไกด์ พร้อมไฟเบรกดวงที่สาม และไฟตัดหมอกหลัง เพิ่มความสปอร์ตด้วยหลังคาซันรูฟปรับไฟฟ้า เสริมด้วยสปอยเลอร์หลังดีไซน์ สปอร์ต สเกิร์ตข้างสีทูโทน และล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้ทันสมัยพรีเมียมขึ้นด้วย แผงคอนโซลหน้าตกแต่ง เส้นสายสีสันโมเดิร์นกราฟิก พร้อมระบบปรับอากาศเป็นแบบอิเล็คทรอนิก และช่องแอร์ทรงกลม สไตล์เจ็ท เทอร์ไบน์ เน้นความกว้างขวางและนั่งสบาย เบาะคนขับปรับ 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง ผสานเส้นสาย กับสีสันของเบาะโดยสารลายโมเดิร์นกราฟิก ให้ความอรรถประโยชน์ด้วยเบาะหลังที่พับ แยกส่วนในการเก็บสัมภาระแบบ 60:40 ตอบโจทย์ความต้องการแบบไลฟ์สไตล์

ขุมพลังเครื่องเบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว 1,498 ซีซี VTi-TECH จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดมัลติพอยท์ ให้กำลังสูงสุด 112 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบ/นาที ผสานระบบกำลัง ด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อม Manual Mode ที่ปรับปรุงใหม่ตอบสนองการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้นรองรับน้ำมันเชื้อเพลิง ได้สูงสุดถึง E85 หลังจากได้ลองขับ สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ ความหนักของพวงมาลัย ซึ่งต้องใช้ความคุ้นเคยสักพักก็จะขับสบาย ขึ้น ระบบพวงมาลัยเป็นแบบพาวเวอร์ไฮดรอลิก ในความหนักของพวงมาลัยให้ความมั่นใจในการขับขี่ เมื่อขับขี่ด้วย ความเร็วสูงขึ้น ความหนักของพวงมาลัยจะหน่วงช่วย ให้เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำและมั่นคง การขับขี่ในเมืองคล่องตัวทั้งยัง กลับรถได้ง่ายด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 5.425 เมตร การออกตัวจะเหมือนหนืดๆไม่พุ่งออกไปเลย เพราะทาง MG เซ็ทมาเพื่อความปลอดภัยซึ่งทาง MG เผยว่ารถรุ่นนี้กลุ่มลูกค้าหลักเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ในส่วนของเข็มขัดนิรภัยไม่ สามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ และช่อง USB มีน้อยไปแต่ไม่เป็นอุปสรรคในการใช้งานเพราะปัจจุบันมีตัวแปลงเป็นช่อง USB จำหน่ายแยกโดยผู้ใช้เลือกซื้อได้ตามความต้องการ ที่ตั้งของไฟฉุกเฉินของ MG3 อยู่ใกล้เกียร์ ซึ่งโดยส่วนตัวผู้ขับขี่คิดว่าน่าจะ อยู่ตำแหน่งบนหน้าคอนโซลมากกว่า เพราะความคุ้นชินของคนส่วนใหญ่จะกดไฟฉุกเฉินจากด้านคอนโซลซึ่งเป็นตำแหน่ง ที่เห็นได้ชัดและกดใช้งานได้ง่าย

ระบบช่วงล่างเป็นแบบ EUROPEAN TUNING SUSPENSION ด้านหน้ามาในรูปแบบของแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังเป็นทอร์ชันบีมสามารถตอบโจทย์และคอนโทรลรถ อย่างมั่นใจไม่ว่าทางตรงหรือทางโค้ง เบรกด้านหน้าแบบดิสก์เบรกพร้อมช่องระบายความร้อน ส่วนด้านหลังแบบดรัมเบรก MG3 ใหม่ มาพร้อมระบบโครงสร้าง ตัวถังนิรภัย USD (Ultimate Stiffness Design) พร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า และ ระบบความปลอดภัยแบบ SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM รวม 8 ฟังก์ชัน ที่ทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว ประกอบด้วย ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก ฉุกเฉิน ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA ระบบควบคุมการทรงตัว SCS เข้าโค้งอย่างมั่นใจด้วยระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS และระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน MSR นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้องมองหลัง และสัญญาณเตือนระยะถอยหลังที่ช่วยให้การถอย จอดเป็นไปอย่างง่ายดาย

MG3 มาพร้อมเทคโนโลยี i-SMART ฟังก์ชั่นที่เชื่อมกับอินเทอร์เน็ตและระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย และสามารถรวบรวมข้อมูลที่มีความสำคัญและแจ้งต่อผู้ขับได้ตลอดเวลา อาทิ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง สภาพการทำงานของ แบตเตอรี่ เครื่องยนต์ และระบบเบรก ผ่านสมาร์ทโฟน พร้อมกับช่วยแจ้งเตือนการเคลื่อนที่ของรถที่ผิดปกติซึ่งอาจเกิด จากการโจรกรรม สำหรับ i-SMART มีการอัพเดตฟังก์ชั่นใหม่บนแผนที่นำทาง จอระบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่น ที่ใช้งานได้หลากหลาย ลองกดปุ่มทัชสกรีนตอบสนองดีไม่หน่วง ทั้งฟังก์ชั่นการใช้งาน WONGNAI สำหรับเสิร์ชหาร้านอาหารและแนะนำเมนูเด็ด ฟังก์ชันใช้งาน AGODA เพื่อค้นหาโรงแรม รวมทั้งฟังก์ชันใช้งาน Online Music ในรูปแบบ Live Stream บนระบบคลาวด์ได้กว่า 1 ล้านเพลง

MG3 ใหม่ มีทั้งหมด 5 สี 4 รุ่น ให้เลือก ได้แก่ รุ่น C ราคา 519,000 บาท, รุ่น D ราคา 549,000 บาท, รุ่น X Sunroof ราคา 589,000 บาท และรุ่น V Sunroof ราคา 629,000 บาท

(เรื่อง : นรินทร โชติภิรมย์กุล)