อุกอาจ! 2 คนร้ายพรางหน้าจ่อยิงผัวเมียเจ้าของร้านนิคมเฟอร์นิเจอร์ที่ อ.เทพา สงขลา “ผบช.ภ.9” ยังไม่ฟันธงมาจากเหตุใด แต่การข่าวเชื่อฝีมือของกลุ่มบูคอรี  "จักรทิพย์" สั่งเร่งตามล่า
       เมื่อช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 2 ก.ย. ได้เกิดเหตุคนร้าย 2 คนสวมหน้ากากอนามัยอำพรางใบหน้า ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ไม่ทราบสีและทะเบียน บุกเข้าไปยิงนายอุทิศน์ จันทร์รัตน์ อายุ 65 ปี และนางบุญทิม จันทร์รัตน์ อายุ 63 ปี สามี-ภรรยาเจ้าของร้านนิคมเฟอร์นิเจอร์เสียชีวิตทั้ง 2 คน ภายในร้านที่หมู่ 3 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา 
       ทั้งนี้ คนร้ายได้ขี่ จยย.มาจอดหน้าร้านและทำทีเข้าไปซื้อของ ระหว่างที่เดินไปที่โต๊ะจ่ายเงิน ได้ชักอาวุธปืนขนาด 9 มม. ออกมาจ่อยิงนางบุญทิมจนล้มลง โดยนายอุทิศน์ได้พยายามเข้ามายื้อแย่งปืน แต่ถูกยิงเสียชีวิตคาโต๊ะทำงาน โดยทั้งคู่ถูกยิงเข้าที่ศีรษะคนละ 2 นัด และในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน 9 มม.ตกอยู่ 6 ปลอก 
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่ามาจากการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและหาเบาะแสไล่ล่าคนร้าย 
        ต่อมา พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุและสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว ระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปว่าเป็นเหตุความมั่นคงที่เกี่ยวกับการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ หรือมาจากเรื่องส่วนตัว โดยจะรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยเฉพาะปลอกกระสุนปืน 6 ปลอก จะสามารถชี้ชัดได้ว่ามาจากปัญหาความมั่นคงหรือเรื่องส่วนตัว ขณะนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่เร่งหาเบาะแสของคนร้ายทั้งสองคน โดยแกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิด พร้อมกับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใน 4 อำเภอ ทั้ง อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุดเพื่อป้องกันการก่อเหตุรุนแรงในช่วงนี้
       สำหรับในทางการข่าว คาดการณ์ว่าหากเหตุการณ์นี้เป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ก่อความไม่สงบเชื่อมโยงกับในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มนายบูคอรี หลำโสะ ซึ่งรับผิดชอบเคลื่อนไหวก่อเหตุในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดนของ จ.สงขลา และเคยสั่งการให้ก่อเหตุปล้นเต็นท์รถยนต์มือสองที่ อ.นาทวี มาแล้วเมื่อวันที่ 16 ส.ค.2560 
    ในขณะที่ร้านนิคมเฟอร์นิเจอร์แห่งนี้ เคยถูกคนร้ายลอบวางเพลิงมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 2 ส.ค.2556 ซึ่งครั้งนั้นมีการก่อเหตุวางเพลิงและวางระเบิดครั้งใหญ่พร้อมๆ กันกว่า 10 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้ง จ.สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งกลุ่มผู้ไม่หวังดีคงตั้งใจเลือกร้านนี้ เพราะเป็นชาวไทยพุทธและเป็นเป้าหมายอ่อนแอไม่มีทางสู้ 
       ส่วนการสอบถามญาติพี่น้องของนายอุทิศน์และนางบุญทิม ก็ไม่พบว่ามีเรื่องบาดหมางกับใคร ทั้งเรื่องส่วนตัวหรือกิจการร้านเฟอร์นิเจอร์
      ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวในเรื่องนี้ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.ห้วยปลิง ภ.จว.สงขลาแล้ว ซึ่ง พล.ต.ท.รณศิลป์ได้ให้ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่เพื่อเร่งรัดสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงไปมา ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว เป็นธรรม อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ และต้องจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว เพื่อเยียวยาความเสียหายและสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม พร้อมยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราและป้องกันเหตุการประทุษร้ายต่อชีวิตหรือทรัพย์สินของประชาชนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
      ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนมีข้อมูลหรือพบเบาะแสสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคนร้ายในคดีดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สภ.ห้วยปลิง หมายเลข 0-7447-8122 และศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) หมายเลขโทรศัพท์ 1599.