กองทัพกับการเมือง


เพิ่มเพื่อน    

      ปิดฉากเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 18 หรือ จาการ์ตา-ปาเล็มบัง 2018 ไปเป็นที่เรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว สำหรับเหรียญใหญ่สุดของเอเชียนเกมส์ ซีเกมส์ หรืออีกหลายๆ เกมส์ก็แล้วแต่ อันหนีไม่พ้นไปจาก เหรียญทองกีฬาฟุตบอล ก็คงเป็นที่ทราบๆ กันไปแล้วว่า ทีมโสมเกาหลีตังกุยจั๊บ หรือ เกาหลีใต้ คว้าชัยมาได้แบบหวุดๆ หวิดๆ ด้วยการเฉือนชนะทีมซามูไร ญี่ปุ่น ไป 2 ประตูต่อ 1...

                                                         ---------------------------------------------------

      แต่ที่ต้องหยิบมาพูดถึงในคอลัมน์ที่ออกไปทางการบ้าน การเมือง ไม่ได้เกี่ยวกับการกีฬาซักเท่าไหร่ ก็ด้วยเหตุที่น่าคิด น่าสนใจ เอามากๆ ในเรื่องที่บรรดานักพากย์กีฬาบ้านเราหลายต่อหลายราย ได้ย้ำแล้ว ย้ำอีก ในเกือบทุกๆ แมตช์ที่ทีมเกาหลีใต้ลงสนาม ประมาณว่า แรงกระตุ้น หรือ แรงบันดาลใจ ของทีมเกาหลีใต้ทีมนี้ ในอันที่จะคว้าเหรียญทองติดไม้ ติดมือ มาให้จงได้ ก็คือการไม่ต้องถูก เกณฑ์ทหาร อันเปรียบเสมือน แรงอัดฉีด ที่ทำให้บรรดานักเตะทีมโสมขาวออกอาการ วิ่ง-สู้-ฟัด ในทุกๆ นัด เรียกว่า...แรงซะยิ่งกว่าการได้เงินอัดฉีด ได้สร้อย ได้รถ ฯลฯ แบบบรรดาสมาคมกีฬาต่างๆ ในบ้านเรา ใช้เป็นตัวกระตุ้นนักกีฬาในแต่ละประเภท รวมทั้งนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย ของท่านนายกฯ สมยศ ช่องเจ็ดสี ซะอีกต่างหาก...

                                                          ---------------------------------------------------

      โดยเฉพาะนักฟุตบอลฝีตีนระดับโลก อย่าง ซอน เฮืองมิน หรือ ซน ฮึงมิน ก็แล้วแต่จะเรียก ที่ไปค้าแข้งอยู่ในสโมสรฟุตบอลอังกฤษ ระดับแนวหน้าของพรีเมียร์ลีก อย่างทีม ทอตแนมฮอตสเปอร์ ยิ่งออกอาการ วิ่ง-สู้-ฟัด หนักขึ้นไปใหญ่ เพราะการไม่ต้องเสียเวลาไป เกณฑ์ทหาร นั้น ย่อมกลายเป็นการเปิดโอกาสให้ดาวรุ่ง พุ่งแรง ของทีมเกาหลีใต้รายนี้ มีสิทธิ์ทำเงินจากการค้าแข้ง ได้ระดับนับเป็นร้อยๆ ล้าน ไม่ใช่แค่ 2 ล้าน 3 ล้าน แบบการอัดฉีดนักกีฬาเหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง ในบ้านเรา อะไรประมาณนั้น ซึ่งสิ่งที่ว่านี้...มันจะจริง-ไม่จริง อย่างที่นักพากษ์กีฬาในบ้านเราว่าไว้ หรือไม่ อย่างไร คงเป็นเรื่องที่บรรดานักกีฬา ผู้อยู่ในแวดวงกีฬา ต้องเก็บไปคิดๆ กันเอาเอง แต่สำหรับผู้ที่ต้องวนๆ อยู่กับการขีดๆเขียนๆ เรื่องราวทางการเมือง อย่าง ท่านขุนน้อย แล้ว ฟังแล้ว...อดคิด อดสะกิดใจ ไปถึงการประดิษฐ์ คิดค้น นโยบายหาเสียงของพรรค เผาไทย ในช่วงการเลือกตั้งครั้งใหม่ขึ้นมามิได้...

                                                               --------------------------------------------------

      คือนอกจากนโยบาย ขายเรือดำน้ำ เอาไปซื้อนาฬิกา หรือซื้ออะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ เห็นว่า นายใหญ่ แห่งพรรค เผาไทย ท่านคิดจะจับจุดบางจุดเอาไว้ใช้หาเสียงเพิ่มเติมขึ้นไปอีก นั่นก็คือ...การประกาศ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ถ้าหากพรรคเผาไทยมีโอกาสขึ้นมาเป็นรัฐบาลได้จริงๆ!!! อันนี้นี่แหละ...น่าคิด น่าสะกิดใจ เอามากๆ ว่าบรรดา คนรุ่นใหม่ หรือคนรุ่นราวคราวเดียวกับทีมนักบอลเกาหลีใต้ ที่ว่ากันว่ามีอยู่ระดับเกือบสิบๆ ล้านในบ้านเรา จะเกิดอาการ วิ่ง-สู้-ฟัด หรือเกิดอาการ ซน แบบเดียวกับ ซน ฮึงมิน ขึ้นมาหรือไม่ อย่างไร ชนิดพร้อมกรูเข้าไปในคูหาเลือกตั้ง กาคะแนนให้กับพรรค เผาไทย โดยแม้ไม่ได้เหรียญทองติดไม้ ติดมือ แต่อาจหวังไปถึงการไม่ต้องซักกางเกงในให้คุณหญิง คุณนาย ไม่ต้องถูกซ่อม ถูกซ้อม หรือถูกทำอะไรต่อมิอะไร อย่างที่ปรากฏเป็นข่าวคราวในแง่ลบ ทางสื่อต่างๆ ชนิดโจษจันกันไม่จบ จนตราบเท่าทุกวันนี้...

                                                             --------------------------------------------------------

      อันนี้นี่แหละ...ที่ บิ๊กแดง หรือ บิ๊ก ต่างๆ ซึ่งกำลังผงาดขึ้นมาเป็นแผงๆ คงต้องหาทาง ตั้งรับ เอาไว้ให้ดี ว่าถ้าหากมันเกิด พวกที่ชอบ ซน อย่าง ซน ฮึงมิน ขึ้นมาเยอะๆ ในประเทศไทย จะเอาไง-ไปไง ต่อไปดี จะหาทางสร้าง ระยะต่อ-ระยะเคียง ระหว่าง ทหาร กับ การเมือง  เอาไว้ในแบบไหน อย่างไร มันถึงจะทำให้ความพังพินาศของ ทหารการเมือง ไม่พลอยฉุดลากกระชากถู ให้กองทัพทั้งกองทัพ พลอยต้อง ซวย ไปด้วย เหมือนหลายต่อหลายครั้งที่เคยหวิดซวยมาแล้ว ไม่ว่าครั้ง 14 ตุลาฯ หรือครั้ง พฤษภาทมิฬ ฯลฯ เป็นต้น ที่ผู้ซึ่งสวมเครื่องแบบทหาร แทบจะแต่งเครื่องแบบออกจากบ้านไม่ได้ ต้องเปลี่ยนชุด เปลี่ยนฟอร์ม ถึงจะพอโหนรถเมล์ได้แบบสบายอก สบายใจ...

                                                              -------------------------------------------------------

      กระทั่งท่านอดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ อย่าง เดอะตี๋ หรือคุณพี่พลเอก จิระศักดิ์ วัฒนาวงศ์ ที่ไม่ได้คิดจะเกี่ยวข้องกับเรื่อง การเมือง อะไรกะใครเค้าเลย ไม่ได้เป็น ทหารการเมือง ยึดมั่นกับความเป็น ทหารอาชีพ แบบทั้งแท่ง ทั้งด้าม มาโดยตลอด ท่านยังต้องใส่ชุดพลเรือน มานั่งบ่น นั่งระบาย นั่งฆ่าเวลาด้วยการอ่านหนังสือกำลังภายใน ในห้องทำงาน ท่านขุนน้อย เมื่อยุคอดีต หลายต่อหลายสิบปีมาแล้ว อย่างน่าเห็นใจเอามากๆ หรือพลอยต้อง ซวย ไปด้วย อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ อันนี้นี่แหละ...ที่ผู้ซึ่งต้องแบกรับความรับผิดชอบของสถาบันทั้งสถาบัน พึงต้องระมัดระวังเอาไว้ให้จงหนัก เพราะระหว่าง กองทัพ กับ การเมือง นั้น มันมักจะพันกันไปพันกันมา อย่างมิอาจแยกออกจากกันได้ง่ายๆ โดยเฉพาะสำหรับสังคมที่มีลักษณะพิเศษ อย่าง สังคมไทย...

                                                               ---------------------------------------------------------

      ยิ่งเมื่อต้องเจอกับนโยบายซนๆ ของพรรค เผาไทย เขา...ที่เน้นกลุ่มเป้าหมายไปที่บรรดาพวก ซน ฮึงมิน กันโดยเฉพาะ ก็คงต้องคิดหน้า-คิดหลัง เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ประเมินสถานการณ์ กำหนด ซิเนอริโอ กันให้ละเอียดรอบคอบ สุขุม ลุ่มลึกกันจริงๆ ส่วนจะมีข้อสรุปออกมาในแบบไหน อย่างไรนั้น คงเป็นเรื่องของผู้ซึ่งมี หน้าที่-รับผิดชอบ ต้องไปว่ากันเองก็แล้วกัน เพราะในฐานะ พลเรือน ทั้งแท่ง ทั้งด้าม คงได้แต่ นั่งลุ้นด้วยใจระทึก พอๆ กับลุ้นทีมเกาหลีใต้ปะทะญี่ปุ่น อะไรประมาณนั้น...

                                                               --------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Thomas Hardy... You can do everything with bayonets except sit on them.- ท่านจะใช้ดาบทำอะไรก็ได้ ยกเว้นแต่ใช้นั่ง...

                                                               -----------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"