ประธานกสม. ชี้หลักการประหารชีวิตในประเทศไทย ขึ้นอยู่กับสังคมเป็นผู้กำหนด แนะปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เลิกจับแพะ คือทางออก
นายวัส ติงสมิตร ประธานกสม. กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าใครที่เป็นว่า 7 ว่าที่กสม.คนใดมีปัญหาเนื่องการแสดงความเห็นเรื่องการยกเลิกโทษประหารชีวิต และจะถูกปฏิเสธจากสนช. ส่วนการตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกสม. ในวันที่ 6 ก.ย. ก็ถือเป็นดุลพินิจของสนช. ที่จะพิจารณาและตรวจสอบเชิงลึกว่าผู้ใดจะมีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ เพราะบางคนอาจจะตกคุณสมบัติด้านอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับความเห็นเรื่องความเห็นการยกเลิกโทษประหารชีวิตก็ได้
อย่างไรก็ตามตอนนี้ประเทศไทยได้ลงนามเอาไว้ว่ายังให้มีโทษประหารชีวิตอยู่ แต่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่จะพยายามยกเลิก แต่ยังไปไม่ถึง ดังนั้นประเทศไทยจะยกเลิกหรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับสังคมว่าต้องการให้มีโทษดังกล่าวหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาผลโพล จากประชาชน 90 % ไม่อยากให้ยกเลิก ดังนั้นจะต้องมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องหากคิดจะยกเลิก รวมทั้งสังคมต้องตอบคำถาม และมีมาตรการเยียวยาญาติผู้เสียชีวิตหากมีการยกเลิกโทษประหารชีวิต เช่นเดียวกันก็ต้องมีมาตรการหากกรณีสุดท้ายประหารชีวิต ไปแล้วปรากฎว่าเป็นแพะ จะรับผิดชอบอย่างไร เพราะเอาชีวิตมาคืนมาไม่ได้ หรือสุดท้ายโทษประหารชีวิตเป็นเพียงการแสดงอารมณ์เท่านั้น เพราะที่ผ่านมาในหลายประเทศ ที่มีทั้งการยกเลิกโทษประหารชีวิต และไม่ยกเลิกโทษประหารชีวิต ก็ไม่ได้ทำให้อาชญากรรมร้ายแรงลดลงหรือมีจำนวนเพิ่มขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และหาคนผิดมาลงโทษให้มากที่สุด เมื่อเป็นเช่นนั้นจะมีหรือไม่มีโทษประหารชีวิตคงไม่ใช่ประเด็น
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |