'ทรัมป์' ขู่นำสหรัฐถอนตัวจากองค์การการค้าโลก


เพิ่มเพื่อน    

ขู่ฟ่ออีกแล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์บลูมเบิร์ก พร้อมจะนำสหรัฐถอนตัวจากองค์การการค้าโลก หากองค์กรนี้ไม่ปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น อ้างสหรัฐได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม ทั้งที่สถิติเป็นตรงกันข้าม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อวดหมวกแก๊ปที่มีข้อความ ทำให้เกษตรกรของเรายิ่งใหญ่อีกครั้ง ขณะมาถึงเวทีปราศรัยหาเสียงที่ฟอร์ดเซ็นเตอร์ รัฐอินดีแอนดา เมื่อวันพฤหัสบดี / AFP

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2561 กล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐโจมตีองค์กรระหว่างประเทศแห่งนี้ผ่านการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กที่ห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม 2561 ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า หากองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ไม่ปรับปรุงองค์กรให้ดีขึ้น เขาก็พร้อมจะนำสหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกองค์กรระหว่างประเทศที่สหรัฐช่วยก่อตั้งขึ้นภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แห่งนี้

    ดับเบิลยูทีโอก่อตั้งขึ้นเพื่อวางกฎเกณฑ์สำหรับการค้าโลกและแก้ไขข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศ แต่ทรัมป์ระบุว่า ความตกลงก่อตั้งองค์การการค้าโลก "เป็นความตกลงทางการค้าฉบับที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา"

    รายงานบลูมเบิร์กกล่าวว่า หากสหรัฐถอนตัวจากดับเบิลยูทีโอจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมีนัยสำคัญยิ่งกว่าสงครามการค้าที่ยังพอกพูนไม่จบระหว่างสหรัฐกับจีน

    ทรัมป์เคยวิจารณ์ระบบไกล่เกลี่ยข้อพิพาทขององค์กรนี้ว่าไม่เข้าข้างสหรัฐ สหรัฐกลายเป็นประเทศที่เสียเปรียบอย่างมาก และแทบจะไม่ชนะข้อพิพาทเลย

    เดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์เคยระบุว่า ดับเบิลยูทีโอปฏิบัติต่อสหรัฐ "เลวร้ายมาก" มานานหลายปี และองค์กรจากนครเจนีวาแห่งนี้ต้อง "เปลี่ยนวิถีทางของพวกเขา"

    โรเบิร์ต ไลธีเซอร์ ผู้แทนการค้าของสหรัฐยังเคยกล่าวว่า การอนุญาตให้จีนเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกเมื่อปี 2544 เป็นความผิดพลาด ผู้แทนการค้ารายนี้เรียกร้องมาช้านานให้สหรัฐใช้ท่าทีที่ดุดันมากขึ้นกับดับเบิลยูทีโอ โดยระบุว่าองค์กรนี้ไม่สามารถจัดการกับเศรษฐกิจที่ไม่อิงกับระบบตลาด อย่างเช่นประเทศจีน

    ไลธีเซอร์กล่าวตำหนิระบบการแก้ไขข้อพิพาทของดับเบิลยูทีโอว่าแทรกแซงอธิปไตยของสหรัฐ โดยเฉพาะในคดีต่อต้านการทุ่มตลาด เมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลสหรัฐเพิ่งคัดค้านการแต่งตั้งตุลาการหลายคนในองค์กรไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของดับเบิลยูทีโอ เพิ่มความเป็นไปได้ที่จะส่งผลทำให้องค์กรนี้ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

    ในคำให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์ก ทรัมป์ยอมรับว่าสิ่งต่างๆ เริ่มเปลี่ยนแปลงเมื่อปีที่แล้ว "ในปีที่แล้ว เราเริ่มชนะเยอะขึ้น" ทรัมป์กล่าว "คุณรู้ไหมเพราะอะไร? เป็นเพราะพวกเขารู้ว่า ถ้าเราไม่ชนะ ผมก็จะถอนตัวออกมา"

    ตามสถิตินั้น ประเทศที่เป็นฝ่ายยื่นฟ้องต่อดับเบิลยูทีโอมีแนวโน้มจะเป็นฝ่ายชนะ และประเทศที่ถูกกล่าวหามักเป็นฝ่ายแพ้ อย่างไรก็ดี บลูมเบิร์กอ้างคำกล่าวของไซมอน เลสเตอร์ นักวิเคราะห์ทางการค้าของสถาบันคาโตในวอชิงตันว่า ตามข้อมูลของดับเบิลยูทีโอนั้น สหรัฐมีแนวโน้มชนะคดีพิพาทในจำนวนมากกว่าค่าเฉลี่ยของดับเบิลยูทีโอ ทั้งคดีที่สหรัฐเป็นฝ่ายยื่นฟ้อง และถูกยื่นฟ้อง

    นับแต่องค์กรนี้ก่อตั้งขึ้น สหรัฐยื่นฟ้องกล่าวโทษ 54 คดีและชนะ 91% ส่วนคดีที่สหรัฐถูกฟ้อง 80 คดีนั้น คณะตุลาการของดับเบิลยูทีโอตัดสินเข้าข้างสหรัฐถึง 86%.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"