บันทึกหน้า4


เพิ่มเพื่อน    

      ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" storage.thaipost.net ขณะที่เสียงปี่กลองการเมืองการเลือกตั้งกำลังใกล้บรรเลง แม้หลายพรรคจะออกตัวว่าขยับอะไรไม่ได้ เพราะติดล็อกคำสั่ง คสช. ห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมการเมือง ห้ามชุมนุมการเมืองเกินห้าคน แต่ในความเป็นจริง หลายพรรคได้นัดหารือ นัดประชุมนอกรอบกันเป็นประจำ คสช.เองก็รู้ เพียงแต่ก็ไม่ได้เข้าไปเข้มงวดอะไร อย่าง "เพื่อไทย" ก็เป็นประจำที่ทุกสัปดาห์จะมีการนัดหารือระดับคีย์แมน แกนนำพรรคในกรรมการชุดต่างๆ ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ยิ่งวันไหนระดับหัวแถว "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" น้องเขยทักษิณ ชินวัตร มาร่วมวงด้วย วงหารือก็จะคึกคักเป็นพิเศษ มีข่าวว่ามีการตั้งคณะทำงานชุดต่างๆ ไว้หลายชุดแล้ว เพื่อเตรียมพร้อมเลือกตั้งโดยไม่รอ คสช.ปลดล็อก เช่น คณะกรรมการยกร่างนโยบายพรรคในการหาเสียง คณะกรรมการเตรียมการเลือกตั้ง แล้วยังมีการตั้งกรรมการขึ้นมาด้วยชุดหนึ่ง เรียกกันว่าคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและคำสั่งคสช. ประชุมกันภายในมาหลายรอบแล้ว มี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นประธาน พร้อมด้วยมือกฎหมาย อดีต ส.ส.หลายคนร่วมวง

      ๐ แว่วมาว่า กรรมการชุดนี้ลิสต์เรื่องที่เพื่อไทยจะเข้าไปผลักดันหลังการเลือกตั้ง แม้ต่อให้เป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ตาม ก็คือ จะเข้าไปขับเคลื่อนแก้ไขมรดก คสช. ที่สำคัญๆ เช่น พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพราะมองว่ากฎหมายนี้กองเชียร์ของเพื่อไทยไม่เอาด้วยค่อนข้างมาก ที่สำคัญมีการเล็งกันไว้ว่าหลังเลือกตั้งอาจจะอาศัยจังหวะเข้าไปขยับแก้ไข “พ.ร.บ.กฎอัยการศึกปี 2457” เครื่องมือที่ทำให้ทหารเข้ามาคุมสถานการณ์ต่างๆ แบบเบ็ดเสร็จเหนือรัฐบาลและตำรวจ โดยเฉพาะในช่วงการเมืองขมึงเกลียว อันเป็นเครื่องมือแรกที่ "บิ๊กตู่" ใช้ก่อนทำรัฐประหาร ที่ประกาศกฎอัยการศึกตอนตีสามของวันที่ 20 พ.ค.2557 จากนั้นก็เรียกตัวแทนพรรคการเมือง–นปช.-กปปส.–รัฐบาล ไปคุยที่สโมสรทหารบกสองวันซ้อน ก่อนที่จะทำการยึดอำนาจ ในวันที่ 22 พ.ค.2557 โดยเพื่อไทยเล็งไว้ว่า จะใช้ความที่เป็นกฎหมายเก่าแก่ ไม่เคยมีการแก้ไขยกเลิก มาเป็นเหตุผลในการแก้ไขกฎอัยการศึก เพื่อจะได้ลดอำนาจทหารลง ไม่ให้เกิดรัฐประหารได้ง่ายๆ แบบปี 2557 รวมถึงหากเป็นไปได้ ก็อาจแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการ สภากลาโหม ปี 2551 ที่ให้อำนาจการแต่งตั้ง ผบ.เหล่าทัพ ต้องผ่านสภากลาโหมเสียก่อน เรื่องเหล่านี้เพื่อไทยรู้ดีว่าเป็นเรื่องอ่อนไหว ดังนั้น หากคิดจะทำต้องทำแบบรวดเร็ว เช่น เสนอแก้ไข 3 วาระรวดไปเลยเพื่อไม่ให้ฝ่ายทหารขยับคัดค้านได้ทัน โดยจะอ้างว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนเห็นด้วย ถึงประเด็นนี้จะเข้าทางโกยคะแนนฝั่งตัวเองที่ต้าน คสช.สุดลิ่มทิ่มประตู แต่แกนนำพรรคประเมินแล้วถ้าชูเป็นนโยบายหาเสียงก็ยิ่งตกเป็นเป้าโดนฝ่าย คสช.สกัด สุดท้ายจึงไม่อาจนำมาหาเสียงแบบโฉ่งฉ่าง

      ๐ มหากาพย์จีที 200 จบไม่ลงซักที องค์กรจับโกงอย่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งอนุกรรมการไต่สวนกรณีนี้ตั้งแต่ มี.ค.56 ผ่านมา 5 ปี ยังย่ำอยู่ที่เดิม สิ่งที่คืบหน้าก็คือ "ไม้ล้างป่าช้า" ยกระดับเป็น "พระเครื่อง" ซะแล้ว "สุรศักดิ์ คีรีวิเชียร" กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 ยกมาเป็นข้ออ้างว่า "การวินิจฉัยว่าถูกหรือผิดเป็นเรื่องที่ยาก เพราะบางครั้งไม่ได้อยู่ที่มูลค่าของเครื่อง แต่เป็นเหมือนความเชื่อ เหมือนพระเครื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่นำไปใช้แล้วเขารู้สึกว่าคุ้มค่า" เล่นเอามึนตึ้บ ขนาดทั่นเลขาฯ วรวิทย์ สุขบุญ ฟังแล้วยังบอกโนคอมเมนต์เลย พานนึกถึงอดีตประธานอนุไต่สวนคนเก่า "วิชัย วิวิตเสวี" ที่เคยให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2558 ว่า "การไต่สวนคดีนี้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากเป็นเรื่องลึกลับ" มาแนวนี้กันทั้งคณะหรือเปล่า เล่นเอาอุปาทานหมู่กันตั้งแต่คนใช้ยันคนสอบเลยหรือเปล่า เหมือนกับที่อาจารย์ "เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์" ผู้ตั้งฉายาเจ้าจีที 200 เคยนิยามไว้ "เครื่องจีที 200 ไม่สามารถตรวจสอบหาวัตถุระเบิดได้จริง ไม่ใช่เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ เป็นเพียงการอุปาทานของผู้ใช้ ซึ่งคล้ายกับไม้ล้างป่าช้าไร้ญาติที่ชี้หาศพไร้ญาติตามความเชื่อ ใช้พลังจิตหาเอา จากการพิสูจน์ผ่าเครื่องชนิดนี้ออกของผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศก็ไม่พบอุปกรณ์ที่ตรวจจับวัตถุระเบิดได้" เจ้าเครื่องนี้จะอาถรรพ์หรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ประเทศชาติเสียค่าโง่ไปแล้ว 1,134 ล้านบาท ปล่อยให้แก๊งโกงชาติที่ล้วงงบแผ่นดินไปซื้อในราคาแพงลิบลิ่วเหยียบล้านต่อเครื่อง แล้วเก็บส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเอง ทุกวันยังอยู่ดีมีสุขสบายใจเฉิบ เฮ้อประเทศไทยยุค 4.0.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"