ฝนตกหนักในฤดูมรสุมของพม่าทำให้น้ำในเขื่อนล้นสปิลเวย์เข้าท่วมหมู่บ้านราว 100 แห่งในเขตพะโคภาคกลางของพม่าเมื่อเช้ามืดวันพุธ ชาวบ้านกว่า 12,000 คนต้องอพยพหนีน้ำ เส้นทางเชื่อมย่างกุ้ง-มัณฑะเลย์ถูกตัดขาด ผบ.สส.พร้อมรองประธานาธิบดีลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยอย่างไว

สะพานทางหลวงที่เชื่อมย่างกุ้งกับมัณฑะเลย์ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนชำรุด / AFP

    รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2561 กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานว่ามีคนเสียชีวิตหรือสูญหายในเหตุการณ์เขื่อนแตกครั้งนี้ แต่มีชาวบ้านหลายพันคนไร้ที่อยู่และต้องไปอาศัยอยู่ตามที่พักพิงชั่วคราว

    ผยู่ แล แล ตุน อธิบดีจากกระทรวงสวัสดิการสังคมกล่าวกับเอเอฟพีว่า มีชาวบ้านมากกว่า 12,600 คนต้องอพยพจากบ้านเรือนไปอาศัยตามศูนย์พักพิงชั่วคราวราว 30 แห่ง โดยมีรายงานว่า มากกว่า 14,000 ครัวเรือนใน 100 หมู่บ้าน และชาวบ้านราว 63,300 คน ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

    เจ้าหน้าที่พม่ากล่าวกันว่า ทางน้ำล้นหรือสปิลเวย์ของเขื่อนสั่วจ้อง ซึ่งทำหน้าที่ระบายน้ำออกจากเขื่อนชลประทานเขื่อนนี้ แตกเมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. ของวันพุธ (06.30 น.ของไทย) เพราะฝนที่ตกอย่างในหนักเขตพะโค น้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ราบในเขตชนบท ชาวบ้านพากันเดินเท้าแบกสัมภาระและข้าวของหนีออกจากบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม

    ความรุนแรงของกระแสน้ำทำให้สะพานทางหลวงเชื่อมระหว่างย่างกุ้งกับมัณฑะเลย์ชำรุดบางส่วน ทางหลวงสายนี้เป็นทางหลักสายสำคัญเส้นเดียวที่เชื่อมเมืองใหญ่ 2 เมืองนี้

พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผบ.สส.พม่า (ขวา) และรองประธานาธิบดีเฮนรี วาน เทียว (ซ้าย) ตรวจสภาพสะพานที่ชำรุด / AFP

    พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่า ที่กำลังตกเป็นเป้าโจมตีจากนานาชาติว่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ ได้ลงพื้นที่อย่างรวดเร็วในวันเดียวกัน พร้อมกับรองประธานาธิบดีเฮนรี วาน เทียว โดยสื่อท้องถิ่นของพม่ารายงานคำกล่าวของ ผบ.สส.ต่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ว่า ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน หากไม่สามารถควบคุมสปิลเวย์ได้ น้ำก็จะไม่หยุดไหลออกจากเขื่อน

    ตามข้อมูลของกระทรวงเกษตรและชลประทานพม่า เขื่อนสั่วแห่งนี้สร้างกั้นคลองสั่วเมื่อปี 2547 สามารถกักเก็บน้ำได้ 26.68 ล้านลูกบาศก์เมตร และจ่ายน้ำสำหรับการทำชลประทานมากกว่า 50,585 ไร่.

กู้ภัยพม่าอพยพชาวบ้านในเมืองเยดาเช เขตพะโค / AFP