อืมม์ม์ม์...เรื่องต้นขับขี่ ใบขับขี่ อะไรต่อมิอะไรทำนองนี้ น่าจะเบาๆ ลงไปเยอะแล้ว คือไม่ว่าอะไรถูก-อะไรผิด แต่การที่ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านได้ออกมาตอบสนองอารมณ์ ความรู้สึก ของผู้คนจำนวนไม่น้อย ได้แบบทันท่วงที ทันเวลา แถมยังมีเหตุมีผลรองรับแบบมีน้ำหนักมิใช่น้อย ก็เลยส่งผลให้บรรดาพวก เกรียน ทั้งหลาย ชะงักรั้งกันไปตามสมควร แม้สิ่งที่เคยด่าๆ ไปแล้วจะถือเป็นสายน้ำที่ไม่มีทางหวนกลับก็ตามที...
---------------------------------------------------
ก็เหลือแต่เรื่องพาราค้ง พาราควอต อะไรประมาณนั้น...ที่ยังร้อนฉ่า ร้อนฉู่ฉี่ อยู่ในโซเชียลมีเดียระยะนี้...แต่การที่ได้ อาจารย์ยักษ์ ผู้มีส่วนร่วมในรัฐบาล ระดับเป็นถึงรัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรฯ ออกมาประกาศ จุดยืนส่วนตัว ว่า ไม่ว่าจะพาราควอต คลอร์ไพริฟอส ไกลโฟเซต บรรดาสารพิษทั้ง 3 ตัวนี้ สำหรับ อาจารย์ยักษ์ แล้ว ไม่มีคำว่าลดการใช้ ควบคุมการใช้ มีแต่คำว่า ยกเลิกการใช้ ลูกเดียวเท่านั้นเอง ถึงจะช่วยให้แนวคิดในเรื่อง เกษตรอินทรีย์ ที่กะจะเนรมิต รังสรรค์ขึ้นมาให้ได้ไม่น้อยกว่า 5 ล้านไร่ มีโอกาสเป็นจริง เป็นจัง ขึ้นมาได้มั่ง ก็ถือว่า...มีส่วนช่วยลดแรงปะทะ เสียดสี ให้กับรัฐบาลได้เยอะเลย...
------------------------------------------------------
คล้ายๆ กับช่วงที่ ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เคยช่วยกอบ ช่วยกู้ บทบาทในการปฏิรูปพระ ปฏิรูปศาสนาของรัฐบาล ให้ดูเป็นน้ำ เป็นเนื้อ ขึ้นมามั่ง ไม่ต้องกลายเป็นกล้วยเผา มะเขือเผา ไปด้วยกันทั้งหวี ทั้งพวง แต่สุดท้าย...รัฐบาลท่านเกิดอยากจะให้ผู้อำนวยการสำนักไปช่วย ตบยุง แถวๆ สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือจะให้กลับมาเดินหน้าปฏิรูปพระต่อ อันนั้น...ก็คงขึ้นอยู่กับ กรรมใดใครก่อ ที่ต้องไปว่ากันเอาเองก็แล้วกัน เหมือนเช่นกรณี อาจารย์ยักษ์ ที่จะยังอยู่ต่อเพื่อเดินหน้าโครงการเกษตรอินทรีย์ หรือจะต้องลาออก เป็นเครื่องเซ่นให้กับพาราควอต...ก็คงต้องคอยดูๆ กันอีกที...
------------------------------------------------------
คือ ความเป็นรัฐบาล นั้น...ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหน ต่อรัฐบาลไหนก็เถอะ จะมาจากเผด็จการ หรือมาจากหีบเลือกตั้งก็แล้วแต่ ยังไงๆ ย่อมหนีไม่พ้นไปจากแรงเสียดสี เสียดทาน อันเนื่องมาจาก ปัญหา ที่มันไม่มีวันหมด ไม่มีวันยุติ อยู่แล้วแน่ๆ มีแต่เอาไว้ให้ต้องแก้ ต้องสะสาง กันไปในแต่ละกรณีๆ ถ้าแก้ได้แบบตรงตามอารมณ์ ความรู้สึก ของคนส่วนใหญ่....ก็ดีไป แต่ถ้าแก้แล้วกลับส่งผลให้ใครต่อใครหงุดๆ หงิดๆ เกิดอาการ เกรียน กันไปทั้งแผง อันนั้น...ย่อมต้องซวยไป อย่างมิอาจปฏิเสธ ต่อให้ใครต่อใคร เคยยกย่อง เชิดชู ปานจะแหกทวารดมวันละ 3 เวลาหลังอาหาร แวบเดียวเท่านั้น...ก็อาจเปลี่ยนหันมารุมเหยียบ รุมกระทืบสาดสากกะเบือบิน ร่อนไป ร่อนมา ทั่วทุกทิศทุกทาง...
-----------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่ทำให้ ความเป็นรัฐบาล นั้น มันคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีในการได้มาซึ่งอำนาจ หรือกระบวนการในการเข้าสู่อำนาจแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยกรรมวิธีการประคับประคองอำนาจ หรือกระบวนการการดำรง รักษา เอาไว้ซึ่งอำนาจ ให้ต่อเนื่อง ยาวนาน สม่ำเสมอได้อย่างเป็นจริง เป็นจัง ซึ่งออกจะเป็นอะไรที่ ยากซ์ซ์ซ์ ซะยิ่งกว่าการได้มาซึ่งอำนาจ ไม่รู้กี่สิบ กี่ร้อยเท่า ใครที่เผลอ ใครที่ประมาท...เพียงแวบเดียวเท่านั้น ไม่ว่าเผด็จการ หรือประชาธิปไตยก็เถอะ มีสิทธิ์ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี-หนีไม่พ้น จำบ้านเลขที่ไม่ได้ หาทางกลับไม่เจอ ไปด้วยกันทั้งสิ้น...
---------------------------------------------------
และภายใต้บรรยากาศการกลับคืนไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปไตยแบบไฮบริด แบบจัดสรรปันส่วนผสมหรืออะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่จะเรียก ดูเหมือนว่า...ไม่ว่าจะก๊กไหนต่อก๊กไหน เอาบิ๊กตู่-ไม่เอาบิ๊กตู่-เอาก็ไม่ใช่-ไม่เอาก็ไม่เชิง ล้วนแล้วแต่หันไปให้ความสำคัญกับเรื่องของ กรรมวิธีในการให้ได้มาซึ่งอำนาจ หรือ กระบวนการเข้าสู่อำนาจ ซะเป็นหลักใหญ่ ถึงได้ดูดๆ ดึงๆ อมๆ อึ้งๆ กันไปในแต่ละก๊ก ทั้งๆ ที่...ไม่ว่าก๊กไหนต่อก๊กไหนก็ตาม ที่มีโอกาสได้เป็นรัฐบาล ล้วนแล้วแต่ต้อง หายใจทางเหงือก ไปด้วยทั้งสิ้น หรือต้องเผชิญกับความยากซ์ซ์ซ์แสนยากซ์ซ์ซ์ ในการดำรง รักษา ความเป็นรัฐบาล เอาไว้ให้ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ชนิดยากซ์ซ์ซ์ซะยิ่งกว่าความเป็นรัฐบาลเผด็จการล้วนๆ หรือประชาธิปไตยล้วนๆ ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า
----------------------------------------------------
เพราะนอกจากสิ่งที่เรียกว่า ปัญหา มันย่อมไม่มีวันหมดสิ้นลงไป มันยังทวีความซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศหนักขึ้นไปอีก ตามกระแสความเป็นไปของโลก ซึ่งมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ การตอบสนองอารมณ์ ความรู้สึก ของผู้คนส่วนใหญ่ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ให้ ถูกต้อง และ ถูกใจ ไปพร้อมๆ กัน ย่อมเป็นอะไรที่หนักหนา สาหัส ไม่น้อยไปกว่า เข็นภูเขาขึ้นครก อะไรประมาณนั้น อีกทั้งด้วยความเป็น ไฮบริด ที่มันสามารถหันไปเติมแก๊สก็ได้ เติมน้ำมันก็ได้ หรือหันไปใช้ไฟฟ้าก็ยังได้ ย่อมทำให้ ทางเลือก มันมีอยู่เยอะแยะ มากมาย ไม่จำเป็นต้องหันไปใช้บริการใครคนใดคนหนึ่ง พรรคใดพรรคหนึ่ง ไปโดยตลอด...
------------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล ใครจะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็เถอะ สิ่งที่สำคัญเอามากๆ ก็คงหนีไม่พ้นไปจากการยึดมั่นใน ครรลอง-คลองธรรม ให้หนักๆ เข้าไว้ หรือมีแต่ต้องอาศัยสิ่งที่เรียกว่า ธรรมะ นั่นแหละ เป็นตัวปกป้อง คุ้มครอง ผู้ประพฤติธรรม ให้มีโอกาสอยู่รอด ปลอดภัย ดำรง รักษา ความเป็นรัฐบาลได้อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ไม่เช่นนั้น...ภายใต้ความซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ ของโลกยุคใหม่ ของสังคมเทคโนโลยี และภายใต้ประชาธิปไตยแบบไฮบริดซะอีกด้วยต่างหาก ใครที่ออกนอกลู่ นอกทาง ขึ้นมาเมื่อไหร่ หรือธรรมะแบบ ปากคาบคัมภีร์ โอกาสหงายหลังตึง น็อกกลางอากาศ ย่อมเป็นไปได้ทุกเมื่อ...
--------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก David Gergen... Morality in government begins with officials using words as honestly as possible to describe the truth.- คุณธรรมของความเป็นรัฐบาล จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้ใช้คำพูดที่ตรงไป-ตรงมาที่สุด ในการอธิบายความจริง...
--------------------------------------------------------
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |
