สตรอว์เบอร์รีเจเนอเรชั่น


เพิ่มเพื่อน    

     คนละประเด็นกับคำเหน็บแนม "สะตอ" (บอแหล) ในละครหรือตามโซเชียลเน็ตเวิร์กนะคะ แต่เป็นเรื่องจริงที่คนวัยเกษียณนำมาเล่าสู่กันฟังว่า ...

     ตอนนี้จิตแพทย์งานหนักมาก เจอเคสแบบนี้ พ่อแม่พาลูกมาปรึกษาเต็มไปหมดครับ... คนรุ่นใหม่ที่กำลังจะเป็นพลังพัฒนาประเทศ กลายเป็นคนที่เปราะบาง รักสบาย ใครขัดใจไม่ได้ ก็พร้อมจะระเบิดอารมณ์ หรือระเบิดอารมณ์ไม่ได้ ก็ระเบิดใส่ตัวเอง... กลายเป็นโรคซึมเศร้ากันหมด... และประเทศชาติจะเอาใครไปช่วยพัฒนา... เหตุการณ์แบบนี้ในประเทศไทยและไต้หวันเรียก "สตรอว์เบอร์รีเจเนอเรชั่น" ...ดูสวยงาม แต่เปราะบาง... ไม่ต่างอะไรกับเด็กในประเทศจีน ที่ลูกชายคนเดียวของครอบครัว เลี้ยงตามอกตามใจราวกับเทวดา ไร้มารยาท ไร้ความเกรงใจผู้อื่น ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ สุดท้ายกลายเป็นโรคซึมเศร้ากันหมด เวลาเจอเรื่องที่ผิดหวัง...เรียก "ฮ่องเต้ซินโดรม" หรือกลุ่มอาการฮ่องเต้

     .... self esteem หรือความภาคภูมิใจในตนเองไม่มี ... มีแต่หายอดไลค์ไปวันๆ ตามโซเชียลมีเดีย หมดเงินหมดทอง เสียเวลาไปมากมายเพื่อรอการยอมรับ (approve)​ จากคนอื่น.... เพราะสร้างด้วยตนเองไม่เป็น... มีแต่เปลือกที่เปราะบาง ข้างในกลวงโบ๋หมด... ไม่ต่างจากบ้านสวย ราคาแพงและหรูหรา... แต่ไม่มีเสาเข็ม แค่ลมพัดมา... ไม่ช้าก็พัง!

     อืมมมมม...อ่านแล้วก็ให้รู้สึกว่า โชคดีที่จะตายก่อน!!! หรือควรจะต้องครุ่นคิดกังวลไปถึงอนาคตข้างหน้ากันหนอ???

     เยาวชนในวันนี้ ซึ่งก็คือเด็กเมื่อวันวาน ต้องไม่ลืมว่าเกิดจากแนวคิดในการสั่งสอนในโรงเรียนที่เรียกว่า Child Center คือให้เด็กเป็นศูนย์กลางของทุกสถานการณ์ ดังนั้น เขาถูกหล่อหลอมมาว่าเขาเป็นหนึ่ง ความต้องการ ความรู้สึกของเขา ผู้ใหญ่ต้องใส่ใจ ต้องดูแล ต้องตอบสนอง พอมาถึงตอนนี้จะไปโทษเขาได้อย่างไรล่ะว่า เอาแต่ใจตัวเอง ไม่นึกถึงความรู้สึกของคนอื่น        

     ความบอบบาง ความแข็งแกร่งของเด็ก ล้วนเป็นผลพวงมาจากวิธีการเลี้ยงดูหล่อหลอมของผู้ใหญ่นะคะ ...ลืมกันได้อย่างไร??? เพราะมีข้อพิสูจน์มาแล้วมากมายว่า เด็กก็คือผ้าขาวผืนใหญ่ ที่พ่อแม่ พี่น้อง และครูบาอาจารย์ จะมีอิทธิพลสำคัญในการแต่งแต้มผ้าขาวผืนนี้ให้สดสวยงดงาม หรือว่ามัวหมอง เบลอๆ ไม่ชัดเจน

     ในเมื่อเห็นปัญหานี้กันแล้ว แทนที่จะมาต่อว่าต่อขานเด็กเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เด็กเมื่อวานซืน หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ไร้สัมมาคารวะ มนุษย์แม่และพ่อคงต้องหันมาพิจารณาตัวเองกระมัง

     อย่ามาโยนให้มนุษย์ลุงป้าน้าอา หรือปู่ย่าตายาย ว่าตามใจหลานจนเสียคน เพราะถ้าพ่อแม่มีเวลาดูลูกกันเองแบบที่ฝรั่งมังค่าของทำกัน ก็จะไม่มีปัญหาความสับสนทางอารมณ์ของเด็ก ที่ไม่รู้จะฟังใครเชื่อใคร...จริงไหม.

                                                                                    "ป้าเอง"

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"