พรรคสาขา-แนวร่วม เพื่อไทย-ทักษิณ?


เพิ่มเพื่อน    

        หลังเลื่อนการเปิดตัว พรรคประชาชาติ อย่างเป็นทางการ จาก 4 สิงหาคม มาเป็นวันเสาร์ ที่จะจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้

        สิ่งหนึ่งที่แกนนำพรรค-คีย์แมนพรรคประชาชาติ คงถูกตั้งคำถามทางการเมืองอย่างมากหลังจากนี้ ก็คือ พรรคประชาชาติ คือ พรรคสาขา-แนวร่วมพรรคการเมืองของทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย เพื่อมาสร้างฐานเสียง เอาเก้าอี้ ส.ส.ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงสงขลา-สตูล ตลอดจนเจาะคะแนนจากฐานเสียงกลุ่มชาวไทยมุสลิม ใช่หรือไม่?

        ซึ่งแม้แกนนำพรรคจะพยายามปฏิเสธ แต่ก็เชื่อว่าหลายคนก็คงอดคิดในทางการเมืองเช่นนั้นไม่ได้ เพราะเมื่อดูที่มาที่ไป-เส้นทางการเมือง ของแกนนำผู้ร่วมก่อตั้งพรรคประชาชาติแต่ละคนก็เห็นชัดว่า ก็คืออดีตคนในเครือข่ายพรรคเพื่อไทย-รัฐบาลเพื่อไทยในอดีตแทบทั้งสิ้น

        ไม่ว่าจะเป็น วันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานสภาฯ-อดีต รมว.คมนาคม ที่แม้ตอนช่วงเลือกตั้งปี 2554 ลูกทีมกลุ่มวาดะห์จะย้ายไปอยู่กับพรรคมาตุภูมิ ของพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน กันจำนวนมาก แต่ ”วันนอร์” ก็ยังอยู่กับเพื่อไทยมาตลอด หรือ วรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่เป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยด้วย, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตอธิบดีดีเอสไอ ที่รู้กันดีว่าเป็นอดีตข้าราชการสายเพื่อไทย โดยมีผลงานเข้าตาทักษิณ ชินวัตร หลายเรื่อง เช่น การทำคดีเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ จนเกิดคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ในศาลรัฐธรรมนูญ

        นอกนั้นก็มีพวกอดีต ส.ส.-อดีตผู้สมัคร ส.ส.กลุ่มวาดะห์ ที่อยู่ตั้งแต่สมัยไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย ก็กลับมาผนึกกำลังกันอีกครั้ง เช่น อารีเพ็ญ อุตรสินธ์, นัจมุดดีน อูมา 2 อดีต ส.ส.นราธิวาส รวมถึงที่มีข่าวว่าอาจจะเข้าร่วมงานด้วยในอนาคต เช่น ร.ต.อ.นิติภูมิ นวรัตน์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่มีข่าวว่าอยู่ระหว่างการตัดสินใจ

        ทั้งนี้ หากดูโมเดลการจัดตั้งพรรคการเมืองที่เน้นการหาเสียงไปที่ชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศ รวมถึงการทำการเมืองในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นหลัก ของพรรคการเมืองก่อนหน้านี้ อย่าง พรรคมาตุภูมิ ของพลเอกสนธิ แม้จะพบว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการเลือกตั้งเมื่อปี 54 แต่ก็พบว่า คะแนนของพรรคมาตุภูมิในระบบบัญชีรายชื่อได้มา 251,702 คะแนน โดยได้ ส.ส.เขต 1 คน คือ อนุมัติ ซูสารอ และเมื่อนำคะแนน 251,702 คะแนนดังกล่าวไปคำนวณ ก็ทำให้พรรคมาตุภูมิได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 1 คนคือ พลเอกสนธิ โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่ทุกเสียงไม่ตกน้ำ มีการกางข้อมูลกันว่า คะแนนเสียงประมาณ 70,000 คะแนน จะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 1 เก้าอี้ ก็ทำให้กลุ่มผู้จัดตั้งพรรคประชาชาติก็เลยคิดกันว่า หากเจาะฐานเสียงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ต่างๆ เช่น กรุงเทพมหานคร ย่านชานเมือง อาทิ ทุ่งครุ-หนองจอก ก็น่าจะทำให้พรรคได้ ส.ส.ระดับ 12-15 คน เพียงแต่การส่งคนลงสมัครในพื้นที่ต่างๆ ต้องเน้นมากเป็นพิเศษ เพื่อว่าแม้ต่อให้แพ้ แต่ต้องได้คะแนนมาระดับหนึ่ง

        ซึ่งการเดินทางการเมืองแบบนี้ ทางการเมืองคนก็ย่อมมองว่า เป็นการมาเติมเต็มให้กับพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่การเลือกตั้งปี 54 เพื่อไทย-กลุ่มวาดะห์ แพ้ราบคาบทั้งที่ยะลา-ปัตตานี-นราธิวาส ไม่ว่าจะใส่เสื้อพรรคเพื่อไทยหรือพรรคมาตุภูมิ จนนำมาสู่การสรุปบทเรียนของนักการเมืองกลุ่มวาดะห์ที่กำลังโรยราว่า ต้องรีแบนด์กันใหม่-จับมือกันให้เป็นเอกภาพ ขณะเดียวกันการที่พรรคประชาชาติที่ถูกมองว่า มีสายสัมพันธ์อันดีกับฝ่ายเพื่อไทยและทักษิณ จะส่งคนลงในหลายจังหวัด ทั้งภาคใต้-กทม.-กลาง ก็ยังช่วยเก็บคะแนนที่อาจตกหล่นให้กับพรรคเพื่อไทยไม่ให้ไปตกอยู่กับพรรคอื่น

        ทำให้ถึงเวลานี้เห็นได้คร่าวๆ ว่า การเลือกตั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จะมีขึ้น หากดูหน้าเสื่อกันถึงตอนนี้ ก็น่าจะเป็นการแข่งขันกันของ 3 พรรคการเมือง คือ พรรคประชาธิปัตย์, พรรคประชาชาติ และพรรคภูมิใจไทย ที่นำทัพโดย กูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส

        “อารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ แกนนำจัดตั้งพรรคประชาชาติ” กล่าวว่า ขณะนี้มีสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งพรรคแล้วประมาณ 600 คน ซึ่งพรรคจะส่งคนลงสมัคร ส.ส.เขตให้มากที่สุด ไม่ใช่แค่ในพื้นที่ที่มีคนไทยมุสลิมอาศัยอยู่จำนวนมากเท่านั้น เช่น ภาคใต้ ในพื้นที่แถบอันดามันอย่างกระบี่ พังงา ก็จะส่งคนลงสมัคร รวมถึงภาคอีสาน-เหนือ-กลาง เช่นเดียวกับในกรุงเทพมหานคร ก็พยายามจะส่งคนลงสมัครในหลายเขต

        เส้นทางการเมืองของพรรคประชาชาติมองได้ว่า สุดท้ายจะเป็นแนวร่วมการเมืองเดียวกับ ขั้วเพื่อไทย-ไม่เอา คสช. ที่จะประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย-อนาคตใหม่ของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, พรรคเสรีรวมไทยของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส

        ส่วนในช่วงเลือกตั้ง พรรคประชาชาติจะได้รับการสนับสนุนอย่างไม่เป็นทางการจากฝ่ายเพื่อไทย-ทักษิณ แบบเดียวกับที่ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ-พรรคความหวังใหม่ เคยได้รับจากทักษิณ ตอนเลือกตั้งปี 2544 ที่เรียกกันว่า “ใช้เงินกระเป๋าเดียวกัน” หรือไม่ เป็นเรื่องที่คงไม่มีใครพูดกันอย่างเป็นทางการ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"