แม่นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษให้สัมภาษณ์ "สุทธิชัย หยุ่น" ผ่านเฟซบุ๊ก ยันลูกถูกข่มขืนที่เกาะเต่าจริง เตรียมเดินทางมาไทยเพื่อแจ้งความพร้อมหลักฐานสำคัญเสื้อผ้าที่มีดีเอ็นเอของคนร้ายติดอยู่ แต่จะไม่ให้ลูกมาอีกแล้ว "บิ๊กโจ๊ก" ฟันธงกุเรื่องหลังได้ข้อมูลจากเจ้าของที่พัก สาวอังกฤษรับเมาหนัก มีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนชาย เกรงแฟนหนุ่มที่จะบินมาหารู้เรื่อง
ตำรวจยังคงเสาะหาพยานหลักฐานเพื่อคลี่คลายข้อกังขากรณี น.ส.วิกตอเรีย นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ วัย 19 ปี เปิดเผยกับสื่อในอังกฤษว่า เธอถูกมอมยาและข่มขืนขณะมาท่องเที่ยวที่เกาะเต่าเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อไปแจ้งความ ตำรวจกลับรับแจ้งเพียงของหาย แต่ไม่รับแจ้งความเหตุข่มขืน ทั้งนี้ นายตำรวจหลายนายระบุว่า ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่ามีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจริง และตำรวจท้องที่ก็รายงานว่าผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพียงของหาย คือโทรศัพท์ไอโฟน และเงินสด 3 พันบาท กับบัตรอีก 4 ใบ โดยมิได้แจ้งความถูกข่มขืนแต่อย่างใด
มีประเด็นน่าสนใจ เมื่อนายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส ได้สัมภาษณ์นางซารา มารดาของ น.ส.วิกตอเรีย และไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Suthichai Yoon เมื่อวันจันทร์ โดยนางซารากล่าวว่า ลูกสาวของนางยืนยันว่าถูกข่มขืนจริง แต่วันเกิดเหตุไม่ได้ไปแจ้งความ เพราะขณะนั้นลูกสาวยังอยู่ในภวังค์ของฤทธิ์ยาที่ถูกใส่ไว้ในเครื่องดื่ม ประกอบกับต้องรีบเดินทางไปเกาะพะงันเพื่อไปร่วมฟูลมูนปาร์ตี้กับเพื่อนชาย และลูกสาวคิดว่าถ้าจะแจ้งความสามารถแจ้งที่ไหนก็ได้ จึงตัดสินใจไปแจ้งที่ สภ.เกาะพะงัน เพราะได้จองตั๋วเรือไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว
นางซารากล่าวว่า ตนมีหลักฐานคือดีเอ็นเอของคนร้ายที่อยู่ในเสื้อของลูกสาว ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญและเชื่อว่าเพียงพอแล้ว โดยหลังจากนี้ตนจะเดินทางกลับมาเมืองไทยเพื่อแจ้งความ ซึ่งได้รับคำยืนยันจากเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยว่าจะดูแลความปลอดภัย แต่จะไม่ยอมให้ลูกสาวกลับมาประเทศไทยอีกแล้ว
มารดาของ น.ส.วิกตอเรียยังกล่าวว่า ไม่มีเหตุผลใดที่ลูกสาวจะสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อทำลายชื่อเสียงประเทศไทย เพราะนี่เป็นเรื่องส่วนบุคคล ซึ่งก่อนเกิดเหตุ ลูกสาวได้ไปเที่ยวที่เกาะพีพีอย่างมีความสุขมาก แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ทุกสิ่งในชีวิตของลูกสาวเปลี่ยนไปในทางที่แย่มาก
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นจาก พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. ว่าเหตุดังกล่าว ตำรวจท้องที่ลงบันทึกรับแจ้งเพียงทรัพย์สินของผู้เสียหายที่หายไป ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ให้เวลาเขาหน่อย อีก 2 วันคงทราบเรื่อง
ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ที่ได้รับคำสั่งจาก ผบ.ตร.ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องนี้ ก็ได้เดินทางไปยังจังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วเดินทางต่อไปยังเกาะเต่า ก่อนเปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดยังไม่พบว่ามีเหตุการณ์ข่มขืนเกิดขึ้น แต่หากผู้เสียหายมาพบ มาแจ้งความ มีหลักฐานใหม่อื่นๆ ว่ามีการข่มขืนเกิดขึ้นจริง ตำรวจจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขณะนี้ได้ประสานสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยให้ติดต่อผู้เสียหายเพื่อเดินทางกลับมาแจ้งความ ก็ระบุว่ายังติดต่อกับผู้เสียหายไม่ได้
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า น.ส.ภัทรา แจ่มตระกูล เจ้าของที่พักที่นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษพักอยู่ ให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุชาวอังกฤษได้นั่งร้องไห้หน้าที่พัก และบอกว่าได้พลาดไปมีความสัมพันธ์กับเพื่อนชายที่มาเที่ยวด้วยกัน คือนายมาร์ติน เนื่องจากดื่มสุรามึนเมา ประคองสติไม่อยู่ แต่กลัวแฟนหนุ่มที่กำลังจะเดินทางมาในอีกไม่กี่วันรู้เข้า ไม่รู้จะทำอย่างไรดี น.ส.ภัทราจึงแนะนำให้ไปร้องทุกข์ แต่สุดท้ายก็ไม่ไป กระทั่งรู้ภายหลังว่าสาวอังกฤษไปแจ้งความของหาย
รอง ผบช.ทท.กล่าวว่า ยังมีข่าวนายมาร์ตินมีปากเสียงกับแฟนสาวอังกฤษถึงขั้นชกต่อยกัน สรุปได้ว่าไม่มีเหตุการณ์ข่มขืนเกิดขึ้นจริง แต่หากครอบครัวสงสัยก็ขอให้กลับมาไทยเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ
"ส่วนเว็บที่ปล่อยข่าวบิดเบือนข้อมูล ในส่วนนี้เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุก 5 ปี จากการตรวจสอบพบว่ามี 14 คน ที่วิจารณ์สร้างความเสียหายให้กับประเทศด้านการท่องเที่ยว อยู่ระหว่างดำเนินการเอาผิด" พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าว
พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ผู้เสียหายไม่ยอมแจ้งความตั้งแต่วันแรก เพียงแต่ไปเล่าให้เจ้าของที่พักทราบ ซึ่งเจ้าของที่พักพยายามชักชวนให้ไปแจ้งความ แต่ผู้เสียหายก็ปฏิเสธ กลับไปเที่ยวงานฟูลมูนปาร์ตี้ที่เกาะพะงัน และไปแจ้งความทรัพย์สินสูญหายที่ สภ.เกาะพะงัน ในช่วงบ่ายวันที่ 27 มิ.ย.61 สภ.เกาะพะงันยืนยันชัดเจนว่าผู้เสียหายไม่ได้เล่าเรื่องข่มขืนให้ฟัง ซึ่งเชื่อว่าหากบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวนคงไม่กล้าปกปิดเอาไว้ เนื่องจาก สภ.เกาะพะงันไม่ใช่เจ้าของพื้นที่ที่ต้องรับผิดชอบการสอบสวนสืบสวนเหตุดังกล่าว นอกจากนี้ หากไม่รับแจ้งก็จะมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ถูกดำเเนินคดีอาญาและสอบวินัยร้ายแรงได้
พล.ต.ต.อภิชาติกล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการออกหนังสือแจ้งให้ผู้เสียหายรายนี้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำ โดยคดีข่มขืนมีอายุความ 3 เดือนนับจากวันเกิดเหตุ หรือภายในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ซึ่งตำรวจจะส่งหนังสือผ่านไปยังสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยให้ผู้เสียหายมาให้ปากคำ เพราะหากผู้เสียหายไม่เข้าแจ้งความ ให้ปากคำ หรือนำชี้ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถดำเนินการในเรื่องที่ผู้เสียหายให้ข่าวได้ ตอนนี้ทำได้เพียงรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำพยานแวดล้อมในส่วนที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการช่วยรบที่ 4 (ผบ.บชร.4) กล่าวว่า พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้เข้าตรวจสอบร่วมกับตำรวจและฝ่ายปกครองในพื้นที่เกาะเต่า ขอยืนยันและให้มั่นใจกระบวนการตรวจสอบดังกล่าว ซึ่งทหารมีหน้าที่ในการบูรณาการกำลังที่มีอยู่ในการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และที่ผ่านมาอย่างที่ทราบว่า ที่เกาะเต่าเรื่องปัญหาอาชญากรรมไม่เคยเกิดขึ้น ฉะนั้นท้องที่สามารถดูแลนักท่องเที่ยวให้ปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ
ที่ สภ.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุละเมิดทางเพศนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ พร้อมพนักงานสอบสวน กก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี, เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8, ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสุราษฎร์ธานี สอบปากคำพยานแวดล้อมที่อยู่บริเวณแหลม จปร.หาดทรายรี หมู่ 1 ต.เกาะเต่า โดยเชิญผู้ประกอบการบาร์, ร้านอาหารและที่พัก รวมถึงประชาชนที่มีที่พักอาศัยอยู่บริเวณที่ถูกอ้างเป็นที่เกิดเหตุ ตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ 21-26 มิ.ย.61 และช่วงเวลา 01.00-05.00 น. วันที่ 25-26 มิ.ย.61 มาให้ปากคำ เพื่อประมวลข้อเท็จจริง
พ.ต.อ.วิชอบกล่าวว่า ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานีได้มอบให้ตนในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ร่างหนังสือเพื่อแจ้งถึงนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษ โดยมีประเด็นการสอบปากคำ 1.รายละเอียดทรัพย์สินที่สูญหาย 2.กรณีการถูกล่วงละเมิดทางเพศ 3.การนำส่งพยานหลักฐานที่ผู้เสียหายอ้างว่าได้เก็บเสื้อผ้าที่มีคราบอสุจิไว้ รวมถึงการเรียกตัวนายมาร์ติน อายุ 20 ปี เพื่อนชายชาวอังกฤษ มาสอบปากคำในฐานะพยานด้วย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |