28 ส.ค. 61 - จากกรณีที่มีชาวบ้านเดินทางสัญจรผ่านไปมาบริเวณถนนสาย บร.3011 เส้นทางจากบ้านตะโกรี ต.สำโรง-บ้านโคกขมิ้น ต.โคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร แต่พอขับมาถึงริมถนนข้างทาง บ้านพลับ หมู่ 9 ต.โคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย ก็ต้องสะดุดสายตากับป้ายข้อความติดต้นไม้จำนวน 3 ป้ายที่มีข้อความด่าทอ ประจาน สาปแช่งคนที่นำขยะมาทิ้งข้างทางดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวลงไปตรวจสอบทราบว่า คนที่นำป้ายมาติดคือ นายสุภาพ เการัมย์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 9 บ้านพลับ ต.โคกขมิ้น หลังจากมีคนนำขยะมาทิ้งข้างทางในที่นา ทำให้เศษขยะปลิวเข้าทุ่งนาและกระจายไปทั่วบริเวณ เป็นภาพที่ไม่น่าดูและสร้างมลภาวะ ด้วยความโกรธและทนไม่ไหวกับพฤติกรรมคนมักง่าย จึงได้เขียนข้อความด้วยถ้อยคำที่รุนแรงต่อคนที่นำขยะมาทิ้ง ไม่มีจิตสำนึก นำขยะมาทิ้งในที่ของคนอื่น จากนั้นได้ไปแจ้งให้ทาง อบต.โคกขมิ้น รับทราบ

นายสุภาพ กล่าวว่า ก่อนนี้ก็มีคนนำขยะมาทิ้งข้างทาง แต่ไม่มาก จึงเผาทำลาย แต่ระยะ 3-4 วันที่ผ่านมา ได้มีคนขับรถกระบะสีขาว ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน มาจอดแล้วนำขยะมาทิ้งเกือบทุกวัน มีปริมาณขยะเพิ่มมากขึ้นทุกวัน จึงเขียนข้อความมาติดกับต้นไม้ข้างทาง เป็นการประจานคนที่นำขยะมาทิ้ง ไม่มีระเบียบวินัย ขาดจิตสำนึก นำขยะมาทิ้งในที่ของคนอื่น จึงอยากฝากไปถึงคนที่นำขยะมาทิ้ง ให้คิดถึงใจเขาใจเรา เลิกนิสัยมักง่าย หากมีใครนำขยะไปทิ้งที่บ้านของตัวเองบ้าง จะมีความรู้สึกเช่นไร น่าจะมีการคัดแยกขยะ และไปทิ้งลงถังจะดีกว่านี้

ด้าน นายมานพ จูประโคน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)โคกขมิ้น พร้อมด้วย ว่าที่ ร..วินัย เกียรติกำจร ปลัด อบต.โคกขมิ้น เจ้าหน้าที่ อบต. และประชาชนจิตอาสา ชาวบ้านพลับ หมู่ 9 ต.โคกขมิ้น ได้ร่วมกันออกมาทำความดีเก็บขยะสองข้างทางถนนสายดังกล่าว ในพื้นที่ ต.โคกขมิ้น เพื่อความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง

นายก อบต.โคกขมิ้น กล่าวว่า ปกติสองข้างทางถนนในเขตพื้นที่ ต.โคกขมิ้น มักจะมีคนนำขยะมาทิ้ง เพราะความมักง่าย ทาง อบต.มีออกข้อบัญญัติ พ.ร.บ.สาธารณสุข เกี่ยวกับความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง แม้จะมีโทษไม่หนัก แต่ก็อยากให้ทุกคนมีจิตสำนึกในเรื่องของความสะอาด ไม่ทิ้งขยะไปทั่ว อยากให้มีการคัดแยกขยะ และนำไปทิ้งให้ถูกที่ถูกทาง เป็นการช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งทาง อบต.ได้มีการรณรงค์เรื่องความสะอาด ให้มีการคัดแยกขยะตั้งแต่ครัวเรือนในทุกหมู่บ้านเป็นประจำอยู่แล้ว