28ส.ค.61-รมช.กระทรวงเกษตรฯ ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ 19คนตัวแทนหลายกระทรวง จัดทำข้อมูลสารเคมีอย่างรอบด้านครบถ้วนภายใน 30 วัน เพื่อเสนอให้คณะกรรมการชุดใหม่ ที่นายกฯ และมีนายสุวพันธุ์ เป็นประธานพิจารณาตัดสินใจแบนหรือไม่แบนก่อน ครบ 60 วัน "หมอธีระวัฒน์" ชี้ เป็นการวัดใจรัฐบาลว่าทำเพื่อประชาชนจริงหรือไม่
นายธีระ วงษ์เจริญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาให้มีการแบนหรือไม่แบนสารเคมี 3 ชนิด คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ตามมติของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ว่า ทาง นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมช.กระทรวงเกษตรฯ)ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ มาศึกษาเรื่องสารพิษ โดยการหาข้อมูลอย่างรอบด้านครบถ้วน ภายใน 30 วัน โดยมีตนเป็นประธาน และมี ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นกรรมการ ซึ่งในวันนี้ทางรมต.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะมีการลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจดังกล่าว เพื่อให้เริ่มดำเนินการได้ โดย จะมีการลงพื้นที่ไปที่ จ.หนองบัวลำภู ม.นเรศวร เพื่อตรวจสอบหาข้อมูลทางวิชาการและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบต่อเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อเสนอ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และเสนอคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง ที่นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งขึ้นเพื่อให้พิจารณาเรื่องการแบนหรือไม่แบนสารพิษทั้ง 3 ชนิด ภายใน 60 วัน โดยมี นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯเป็นประธาน
ที่ปรึกษารมช.กล่าวอีกว่า ในเชิงนโยบายต้องมีหลายฝ่ายร่วมกันตัดสินใจ ดังนั้น ก็ได้มีการเสนอรายชื่อคณะกรรมการจาก กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 19 คน เพื่อเข้าร่วมในคณะกรรมการเฉพาะกิจที่ รมช.กระทรวงเกษตรฯ แต่งตั้งขึ้น ส่วนของการลงพื้นที่หาข้อมูลนั้นโดยจะดูที่สุขภาพเป็นหลัก ตามข้อสั่งการของนายกฯ ที่ได้บอกไว้ว่า ต้องเอาสุขภาพประชาชนเป็นหลัก โดยตนเชื่อมั่นว่าหากมีข้อมูลเชิงประจักษ์ ท่านนายกฯ ที่มีอำนาจสั่งการให้ยกเลิกการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด จะยกเลิกการใช้ตามที่มีข้อเสนอ การที่ตั้งกรอบเวลาไว้ใน 30 วัน ก็เพื่อให้ได้ข้อมูลเสนอคณะกรรมการชุดนายสุวพันธ์ให้พิจารณา ก่อน 60 วันตามกรอบเวลา เพราะคิดว่าหากไม่มีข้อเสนอก็จะกินเวลาถึง 60 วัน หากนานขนาดนั้นจะเป็นการยืดเยื้อ ซึ่งจะมีผลกระทบตามมา คือ 700 องค์กรจะต่อต้านต่อไป ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลและสุขภาพของเกษตรกร
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศชัด ว่าต้องมีการประกาศเลือกใช้สารเคมีเหล่านี้โดยเร็วที่สุดจะมาจำกัดการใช้ไม่ได้เด็ดขาดเพื่อสุขภาพของประชาชน และจะต้องมีกระบวนการทดแทนการใช้สารเคมีโดยไม่กระทบเกษตรกร ซึ่งใน 2 ส่วนนี้ต้องทำควบคู่กัน ซึ่งในการตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ โดย รัฐมนตรีช่วยฯ เพื่อเป็นหน่วยรุกหาวิธีการทดแทน และมีตนเป็นฝ่ายสนับสนุนด้านสุขภาพ ส่วนภายใน 1-2 วันนี้ จะมีการเสนอรายชื่อ คัดค้านการแต่งตั้งอนุกรรมการที่เป็นกลางของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง โดยตรงนี้จะเป็นการวัดใจรัฐบาลว่าการที่ประกาศว่า จะดำเนินการตามศาสตร์พระราชา โดยยุทธศาสตร์ชาติต้องเน้นประชาชนเป็นหลัก และการที่ นายกฯ บอกว่าจะเอาสุขภาพประชาชนเป็นหลัก จะทำจริงหรือไม่ เพราะหากไม่ยกเลิกพร้อมกับการที่มีมาตรการทดแทนการใช้สารเคมีออกมา ถือว่ารัฐบาลไม่มีความจริงใจ และหากเป็นเช่นนี้ ที่ยังมีสารเคมีอยู่คณะกรรมการปฏิรูปสาธารณสุขก็ไม่สามารถปฏิรูปได้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |