28 ส.ค.61 - นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลในเว็บไซต์ทางการของสำนักงาน ป.ป.ช.ซึ่งไม่สามารถเข้าไปดูข้อมูล รายละเอียดของคดี ทั้งที่ชี้มูลความผิด คดีที่ให้ตกไป และการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน ว่า ภายหลัง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2560 (พ.ร.บ.ป.ป.ช.) มีผลบังคับใช้ เว็บไซต์สำนักงาน ป.ป.ช.ได้ปกปิดข้อมูลเรื่องที่อยู่ระหว่างการกล่าวหาข้อเท็จจริงโดยเป็นไปตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.ป.ป.ป.ช.  ซึ่งปัจจุบันสำนักกฎหมาย ของสำนักงาน ป.ป.ช. อยู่ระหว่างดำเนินการดูว่าข้อมูลคดีที่อยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริงสามารถเปิดเผยได้มากน้อยเพียงใด ในเบื้องต้นเตรียมออกเป็นประกาศของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อดูแลข้อมูลส่วนนี้

นายวรวิทย์ กล่าวว่า ส่วนกรณีการเปิดเผยข้อมูลของคดีที่ชี้มูลความผิด และข้อมูลคดีที่ให้ข้อกล่าวหาตกไปนั้นอยู่ระหว่างที่สำนักกฎหมายของ ป.ป.ช.พิจารณาเรื่องการเปิดเผยในเว็ปไซต์อยู่เช่นกัน และอาจออกเป็นประกาศ หรือระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขึ้นมาพิจารณาว่า สามารถเปิดเผยได้มากน้อยเพียงใดด้วย ส่วนการเปิดเผยข้อมูลกรณีบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น ก็เกี่ยวพันกับการออกระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่นกัน ดังนั้น เบื้องต้นอยู่ระหว่างหารือของสำนักกฎหมาย ของป.ป.ช. ก่อนจะส่งให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาต่อไป

“ทั้ง 3-4 ประเด็นข้างต้น ปัจจุบันสำนักกฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ช. กำลังพิจารณาดูว่า จะต้องออกเป็นประกาศ หรือระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช. อย่างไรบ้าง ขอให้รออีกไม่นาน คาดว่าภายในเดือน ก.ย.นี้ จะมีความชัดเจนมากขึ้น และได้บทสรุปทั้งหมด” นายวรวิทย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.ป.ป.ช. บัญญัติว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. พนักงานเจ้าหน้าที่ และบุคคลซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งหรือมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างใด จะเปิดเผยข้อมูลซึ่งมีลักษณะเป็นข้อมูลเฉพาะของบุคคลบรรดาที่ได้มาจากการปฏิบัติหน้าที่มิได้ การเปิดเผยข้อมูลการดำเนินการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในแต่ละขั้นตอนห้ามเปิดเผยข้อมูลที่เป็นรายละเอียดของผู้กล่าวหา ผู้แจ้งเบาะแส และผู้ซึ่งเป็นพยาน หรือกระทำการใดอันจะทำให้ ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับบุคคลดังกล่าว การเปิดเผยข้อมูลอื่นใดเพื่อให้สาธารณชนได้ทราบ ให้อยู่ภายใต้เงื่อนไข ดังต่อไปนี้ (1) ในขั้นตอนการไต่สวน ห้ามเปิดเผยชื่อผู้ถูกร้อง เว้นแต่มีเหตุอันจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการไต่สวนหรือไต่สวนเบื้องต้น และได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้ว (2) เมื่อได้ดำเนินการไต่ส่วนหรือไต่สวนเบื้องต้นแล้วมีพยานหลักฐานพอสมควรก่อนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะพิจารณาวินิจฉัย การเปิดเผยข้อมูลให้เป็นไปตามวิธีการและเงื่อนไขที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด

(3) เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีความเห็นหรือวินิจฉัยว่าผู้กล่าวหามีพฤติการณ์การกระทำความผิด ให้เปิดเผยความเห็นหรือคำวินิจฉัยได้ เว้นแต่จะเปิดเผยชื่อผู้กล่าวหาผู้แจ้งเบาะแสและ ผู้ซึ่งเป็นพยานมิได้ และต้องไม่กระทบต่อรูปคดีหรือความปลอดภัยในชีวิตหรือทรัพย์สินของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ห้ามมิให้มีการเปิดเผยหรือเผยแพร่ข้อมูลรายงานและสำนวนการตรวจสอบ การสอบสวน การไต่สวน หรือการไต่สวนเบื้องต้น รวมทั้งบรรดาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ สอบสวน ไต่สวน หรือไต่สวนเบื้องต้นที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจนกว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะได้พิจารณาและมีมติในเรื่องดังกล่าวแล้ว เว้นแต่จะเป็นการเปิดเผยเพื่อประโยชน์ในการไต่สวนหรือไต่สวนเบื้องต้น ทั้งนี้ ให้ถือว่าเป็นความลับของทางราชการ