'ป๋าติ๊ก-กบ'อ่วม คุก18ปี16เดือน ค้ากามวิคตอเรีย


เพิ่มเพื่อน    

    ศาลสั่งจำคุก "ป๋าติ๊ก-ป๋ากบ" ผจก.อาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท ค้าประเวณีเด็กต่างด้าว 18 ปี 16 เดือน "หุ้นส่วนผู้จัดการ" คนขอใบอนุญาตสถานบริการโดนคุก 7 ปี 14 เดือน ยกฟ้องข้อหาค้ามนุษย์ เหตุพยานหลักฐานไม่พอฟังให้ลงโทษ 
    เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ห้องพิจารณา 709 ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาคดีค้ามนุษย์อาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท 2 สำนวน ประกอบด้วย สำนวนแรก คดีหมายเลขดำ คม.25/2561 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีค้ามนุษย์ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเฉลียว จันทร์พิมพ์ หรือเอส (ไม่ทราบอายุ), นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือป๋ากบ อายุ 55 ปี, นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย หรือป๋าติ๊ก อายุ 67 ปี ผู้จัดการสถานบริการ, น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ในฐานะเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการมีอำนาจใน หจก.อมรินทร์ออนเซน ที่ขอใบอนุญาตดำเนินกิจการ, หจก.อมรินทร์ออนเซน, นายเดชา สิงห์สาครเดชา หรือหนู (ไม่ทราบอายุ) เป็นจำเลยที่ 1-6  
    คำฟ้องบรรยายพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างเดือน ก.ค.57 ถึงวันที่ 13 ม.ค.60 จำเลยทั้ง 5 กับพวกซึ่งมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ลักษณะเป็นเครือข่ายดำเนินงานร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป กระทำผิดร้ายแรง โดยเป็นธุระจัดหาซื้อขาย จำหน่าย พาไปส่ง หน่วงเหนี่ยวกักขังหรือหลอกลวงเด็กหญิงชาวเมียนมา อายุไม่เกิน 15 ปี จากประเทศเมียนมา มาส่งยังประเทศไทย และไปประเทศมาเลเซีย เพื่อแสวงหาประโยชน์จากหญิงเมียนมาด้วยการบังคับให้ค้าประเวณี อันเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ และนางศศิธร จำเลยที่ 4 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.อมรินทร์ออนเซน ของจำเลยที่ 5 ซึ่งเป็นผู้ขอใบอนุญาตประกอบกิจการ แต่เมื่อเดือน ก.ค.57 - 4 ก.ค.59 จำเลยที่ 2-5 ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการค้าประเวณี ผู้ดูแล และผู้จัดการกิจการค้าประเวณี ภายใต้ชื่อสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท 
    คดีนี้มีผู้เสียหายหญิงเมียนมา ขณะเกิดเหตุอายุ 12 ปีเศษ ได้เข้ามาในประเทศโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ที่ได้มาอาศัยอยู่ที่ห้องพักแมนชั่นย่าน ถ.ประชาอุทิศ เขตห้วยขวาง กทม. ซึ่งพวกจำเลยได้ร่วมกันนำพาผู้เสียหายมาจากประเทศเมียนมา และให้ผู้เสียหายค้าประเวณีทั้งที่สถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท และสถานที่ต่างๆ ในชั้นพิจารณาจำเลยทุกคนให้การปฏิเสธ
    ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว โจทก์มีผู้เสียหายเบิกความยืนยันร่วมกับเจ้าหน้าที่สอดคล้องกันว่าถูกหลอกมา โดยมีนายสมชายพามาที่กรุงเทพฯ และได้พามาแนะนำตัวกับผู้หญิงที่สถานบริการที่เรียกว่าแม่สุ ที่ได้สอนวิธีการใช้ถุงยางและการให้บริการทางเพศแก่ลูกค้า และได้ถูกนายสมชายพาไปเปิดบริสุทธิ์โดยผู้เสียหายต้องทนค้าประเวณีเป็นเวลา 2 ปี และระหว่างนั้นถูกส่งตัวไปค้าประเวณียังประเทศมาเลเซีย โดยให้นั่งรถประจำทางไปลงที่ อ.หาดใหญ่ ซึ่งบังคับให้ผู้เสียหายต้องแต่งตัวลักษณะคล้ายกับหญิงมุสลิมเพื่อผ่านด่านไปประเทศมาเลเซีย โดยมีนายเดชา จำเลยที่ 6 ขับรถกระบะพาผู้เสียหายไปค้าประเวณียังสถานบริการประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีการนัดแนะเวลาไว้แล้ว 
    ทางนำสืบในส่วนของนายบุญเฉลียว จำเลยที่ 1 ฟังได้เพียงว่าเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างส่งผู้เสียหายระหว่างแมนชั่นที่พักกับที่ทำงานสถานอาบอบนวด ซึ่งได้รับค่าจ้างเพียงเล็กน้อยไม่ถึง 100  บาทต่อครั้ง และขณะนั้นจำเลยไม่ทราบว่าผู้เสียหายนั้นมีอายุเท่าใด โดยพยานหลักฐานโจทก์ยังไม่เพียงพอให้รับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 จะเกี่ยวข้องกับการเป็นธุระจัดหาค้าประเวณีกับจำเลยอื่นแต่อย่างใด
    ส่วนนายศรัทธาธรรม หรือป๋าติ๊ก ในฐานะผู้มีอำนาจบริษัท เดวิส ซิลเวอร์สตาร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดการสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท จำเลยที่ 3 พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมา แม้จะไม่ใช่ผู้ที่รับผู้เสียหายไว้โดยตรง แต่จำเลยก็เป็นผู้มีอำนาจดูแลควบคุมและจัดการ ย่อมทราบความเป็นไปถึงการดำเนินกิจการต่างๆ ของสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท ที่อยู่ในความดูแลของตน  สำหรับ น.ส.ศศิธร จำเลยที่ 4 ในฐานะผู้มีอำนาจเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.อมรินทร์ออนเซน ที่ขอใบอนุญาตดำเนินกิจการนั้น แม้จะอ้างว่ามีบริษัทอื่นที่มาดำเนินการแทน แต่ก็เป็นเพียงการกล่าวอ้างลอยๆ จึงฟังได้ว่านายบุญทรัพย์ หรือป๋ากบ จำเลยที่ 2, นายศรัทธาธรรม หรือป๋าติ๊ก จำเลยที่ 3, น.ส.ศศิธร จำเลยที่ 4 มีความผิดฐานร่วมเป็นเจ้าของหรือควบคุมค้าประเวณีเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี 
    สำหรับนายเดชา หรือสิงห์ จำเลยที่ 6 ทางนำสืบพยานโจทก์รับฟังได้ว่า จำเลยเป็นผู้ขับรถกระบะพาเด็กสาวผู้เสียหายที่ถูกส่งตัวจาก กทม.ไป อ.สะเดา จ.สงขลา ไปค้าประเวณียังประเทศมาเลเซีย ซึ่งหากไม่มีการนัดหมายเวลาที่แน่นอนย่อมไม่สามารถดำเนินการได้ภายในสถานที่และเวลาที่กำหนดไว้  โดยที่จำเลยอ้างว่าเพียงขับรถรับจ้างก็กล่าวอ้างลอยๆ ไม่อาจรับฟังได้ การกระทำของจำเลยที่ 6 นอกจากจะผิดฐานร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป เพื่อค้าประเวณีกับเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี แล้วก็ยังกระทำผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติด้วย
    พิพากษาว่า จำเลยที่ 2-4 และ 6 กระทำผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป โดยให้จำคุกนายบุญทรัพย์ หรือป๋ากบ จำเลยที่ 2, นายศรัทธาธรรม หรือป๋าติ๊ก จำเลยที่ 3 คนละ  2 ปี ฐานเป็นธุระจัดหาฯ ฐานเป็นผู้ดูแลและผู้จัดการสถานการค้าประเวณีให้จำคุกคนละ 3 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 2-3 คนละ 5 ปี ส่วน น.ส.ศศิธร จำเลยที่ 4 ไม่ได้เข้ามาดำเนินกิจการในสถานบริการอาบอบนวดโดยตรง จึงให้ลงโทษสถานเบา จำคุกเป็นเวลา 1 ปี สำหรับนายเดชา จำเลยที่ 6 ให้จำคุก 5 ปี ฐานเป็นธุระจัดหาฯ และจำคุกอีก 4 ปี ฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ รวมจำคุกจำเลยที่ 6  เป็นเวลา 9 ปี
    แต่ทางนำสืบของจำเลยที่ 2-4 และ 6 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3  คงจำคุกนายบุญทรัพย์ หรือป๋ากบ จำเลยที่ 2, นายศรัทธาธรรม หรือป๋าติ๊ก จำเลยที่ 3 คนละ 3 ปี 4 เดือน ส่วน น.ส.ศศิธร จำเลยที่ 4 จำคุก 8 เดือน และนายเดชา จำเลยที่ 6 จำคุกทั้งสิ้น 6 ปี และให้ยกฟ้องจำเลยข้อหาค้ามนุษย์ เพราะพยานหลักฐานโจทก์ยังไม่พอฟังให้ลงโทษ ส่วนนายเฉลียว จำเลยที่ 1  และ หจก.อมรินทร์ออนเซน จำเลยที่ 5 ก็พิพากษาให้ยกฟ้อง
    ขณะที่คดีค้ามนุษย์สำนวนที่ 2 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีค้ามนุษย์ 1 และเด็กสาวผู้เสียหายรวม 3  คน ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายศรัทธาธรรม หรือป๋าติ๊ก, นายบุญทรัพย์ หรือป๋ากบ, นายชัยณรงค์ อันสุข หรือป๋าสง่า อายุ 54 ปี, นายเอกณพัชร์ จารุวัฒน์ปฐมกุล หรือพี่ป๊อป อายุ 29 ปี, หจก.อมรินทร์ออนเซน, น.ส.ศศิธร หุ้นส่วนผู้จัดการ และบริษัท เดวิส ซิลเวอร์สตาร์ จำกัด ที่นายศรัทธาธรรม หรือป๋าติ๊ก เป็นผู้มีอำนาจ เป็นจำเลยที่ 1 -7 ในความผิดฐานร่วมกันสมคบ ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อค้ามนุษย์ในการค้าประเวณี 
    ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว โจทก์มีเด็กสาวผู้เสียหายที่เป็นโจทก์ร่วมเบิกความสอดคล้องกัน  จึงพิพากษาว่า นายศรัทธาธรรม หรือป๋าติ๊ก ผู้จัดการสถานบริการ จำเลยที่ 1, นายบุญทรัพย์ หรือป๋ากบ  จำเลยที่ 2, นายชัยณรงค์ หรือป๋าสง่า จำเลยที่ 3, นายเอกณพัชร์ หรือพี่ป๊อป จำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นพนักงานเชียร์แขก มีความผิดฐานเป็นธุระจัดหาฯ ให้จำคุกคนละ 15 ปี 12 เดือน ส่วน น.ส.ศศิธร หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.อมรินทร์ออนเซน จำเลยที่ 6 ให้จำคุก 7 ปี 6 เดือน และให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมดในข้อหาค้ามนุษย์ด้วย สำหรับ หจก.อมรินทร์ออนเซน จำเลยที่ 5 และ บจก.เดวิส ซิลเวอร์สตาร์ จำเลยที่ 7 ที่เป็นนิติบุคคลให้เช่าสถานที่ ก็พิพากษายกฟ้อง
    ทั้งนี้ เมื่อรวมโทษจำคุกนายศรัทธาธรรม หรือป๋าติ๊ก ผู้จัดการสถานบริการ และนายบุญทรัพย์ หรือป๋ากบ ทั้ง 2 สำนวนแล้ว จำคุกเป็นเวลาทั้งสิ้นคนละ 18 ปี 16 เดือน ขณะที่ น.ส.ศศิธร หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.อมรินทร์ออนเซน ที่ขอใบอนุญาตสถานบริการนั้น เมื่อรวมโทษทั้ง 2 สำนวนแล้วจำคุกทั้งสิ้น 7 ปี  14 เดือน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"