กทพ.ยันไม่ปรับขึ้นค่าทางด่วนอีก5ปี


เพิ่มเพื่อน    

 

“สุรงค์”ยันยังไม่ปรับขึ้นค่าทางด่วนไปอีก 5 ปี เป็นของขวัญประชาชน ที่สนับสนุนผู้เดินทางในเมืองหลวง ปัดเคลียร์เอกชน ย้ำยังไงก็ไม่ปรับราคา

นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เปิดเผยว่า บอร์ดกทพ.ได้พิจารณาเรื่องการปรับขึ้นค่าทางด่วนทั้ง 3 สาย ได้แก่ทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา-วงแหวนรอบนอก), ทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) และทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์ซึ่งเป็นไปตามสัญญาที่ต้องพิจารณาปรับค่าผ่านทางตามรอบโดยยึดพื้นฐานอัตราเพิ่มของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) นั้นหลังจากกทพ.พิจารณาแล้วได้ข้อสรุปจะยังคงไม่ปรับเพิ่มค่าทางด่วนไปอีกอย่างน้อย 5 ปี 

ทั้งนี้เพื่อมอบให้เป็นของขวัญประชาชนและสนับสนุนผู้เดินทางในเมืองหลวง โดยเฉพาะรถยนต์ 4 ล้อซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถส่วนบุคคลหรือรถบ้าน ส่วนด้านยานพาหนะขนาดใหญ่ที่มากกว่า 4 ล้อนั้นอาจจะมีการพิจารณาปรับเพิ่มขึ้นในห้วงระยะเวลาดังกล่าวโดยต้องมีการพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับกรณีข้อพิพาทกับเอกชนกับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (BEM)และบริษัท ทางด่วนเหนือ จำกัด (NECL) หลังจากที่ทั้งสองเจ้าคำนวณการปรับอัตราค่าผ่านทางตามแนวทางของบริษัทที่เคยปฏิบัติ และพบว่าตัวเลขเข้าเกณฑ์ที่จะได้รับการปรับอัตราค่าผ่านทางนั้นจนอาจถึงขั้นต้องให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดนั้น

“ยืนยันว่ากทพ.ดำเนินตามเงื่อนไขของสัญญาที่ระบุไว้อย่างเคร่งครัด ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่ใช่ประเด็นสำคัญเพราะยังไงก็ต้องทำตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาอยู่แล้วว่าจะไม่มีการปรับขึ้นราคาถ้าหากตัวเลขไม่เข้าเงื่อนไข CPI ที่กำหนดไว้”นายสุรงค์ กล่าว

รายงานข่าวจจากกทพ.ระบุว่าเดิมนั้นกทพ.มีแนวทางการปรับขึ้นค่าผ่านทางสำหรับรถยนต์มากกว่า 4 ล้อดังนี้ ทางพิเศษอุดรรัถยา สายบางปะอิน-ปากเกร็ด ปรับขึ้นช่วงละ 5 บาท จากปัจจุบันช่วงแจ้งวัฒนะ-เชียงราก รถ 6-10 ล้อ 100 บาท มากกว่า 10 ล้อ 150 บาท และช่วงเชียงราก-บางไทร รถ 6-10 ล้อ 20 บาท มากกว่า 10 ล้อ 30 บาท ส่วนทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) ปรับขึ้นช่วงละ 5 บาท จากอัตราผ่านทางในปัจจุบัน เช่น ด่านประชาชื่น 1 และ 2 รถ 6-10 ล้อ 20 บาท มากกว่า 10 ล้อ 35 บาท ด่านประชาชื่น (ขาเข้า) รถ 6-10 ล้อ 90 บาท มากกว่า 10 ล้อ 140 บาท และ ด่านประชาชื่น (ขาออก) รถ 6-10 ล้อ 15 บาท มากกว่า 10 ล้อ 30 บาท เป็นต้น ส่วนด้านปริมาณการเติบโตของทางด่วนสายหลักอย่างเส้นทางบางปะอิน-ปากเกร็ด ปัจจุบันยังคงเติบโตต่อเนื่องด้วยปริมาณการจราจรมากกว่า 8.5 หมื่นคันต่อวัน และมีรายได้ราว 1.4 พันล้านบาทต่อปี


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"