พงศาวดาร 3 ก๊กฉบับไทยๆ


เพิ่มเพื่อน    

      อันเป็นธรรมดาของบ้านเมือง...เมื่อมีสุข มีสงบ มาเนิ่นนาน ต่อมาก็ย่อมต้องเกิดศึกขึ้นจนได้ ครั้นเมื่อหมดศึก ก็สุขและสงบไปจนกว่าจะเกิดศึกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หมุนเวียนเปลี่ยนผันไปตามกาล ตามความเป็นไปของโลกย์ ตามลิขิตของฟ้าและดิน อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้...

                                                           -----------------------------------------------

      นี่...ขึ้นต้นด้วยสำบัด สำนวน ระดับลอกเลียนแบบมาจาก พงศาวดาร 3 ก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) เชียวนะทั่น!!! ด้วยเหตุเพราะออกจะเป็นอะไรที่สอดคล้อง ต้องกัน กับฉากสถานการณ์ประเทศไทย นับจากนี้ไปจนอนาคตเบื้องหน้า ที่ได้ก่อกำเนิดเกิด ก๊กเอาบิ๊กตู่ ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว ส่งผลให้ ก๊กไม่เอาบิ๊กตู่ ต้องอุบัติตามมาอย่างมิอาจนิ่งเฉยอยู่ได้ และเมื่อมีทั้งก๊กเอา-ก๊กไม่เอา ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ย่อมต้องมี ก๊กเอาก็ไม่ใช่-ไม่เอาก็ไม่เชิง โผล่ขึ้นมาประชันขันแข่ง ในแบบกั๊กไป-กั๊กมา มันถึงจะครบสูตร โจโฉ-ซุนกวน-เล่าปี่ ตรงตามพงศาวดาร 3 ก๊กฉบับคลาสสิกแม้อาจต้องย้อนยุคกลับไปนับเป็นพันๆ ปีก็ตามที...

                                                            ------------------------------------------------

      สำหรับ ก๊กเอาบิ๊กตู่ ช่วงนี้...ก็ประมาณ โจโฉ นั่นแหละทั่น คือถือเป็นมวยหลัก ลำหัก ลำโค่น ออกจะมีภาษีกว่า 2 ก๊กที่เหลือ ยึดพื้นที่ ยึดแว่นแคว้น ดินแดนเอาไว้แทบจะครบหมด ขณะที่ ก๊กซุนกวน หรือ ก๊กไม่เอาบิ๊กตู่ ต้องถอยร่นเป็นสัมภเวสีไปอยู่แถวๆ เมืองกังตั๋ง หรืออยู่เกาะโน่นเลย ส่วน ก๊กเล่าปี่ หรือ ก๊กก็ไม่ใช่-ไม่เอาก็ไม่เชิง เหลือแต่ฐานที่มั่นเอาไว้แถวๆ ปักษ์ใต้ หรือแถวๆ กรุงเสฉวน กรุงยูนนาน คล้ายๆ กับฐานที่มั่นของพรรค ประชาธิกัด อะไรประมาณนั้น...

                                                            -------------------------------------------------

      แม้ว่าโดยลักษณะลีลา ของ โจโฉ กับ บิ๊กตู่ อาจไม่ได้เหมือนกันไปซะทั้งหมด โดยเฉพาะในแง่ความจงรักภักดีต่อองค์ฮ่องเต้ แต่ในแง่ของอารมณ์บูด อารมณ์ฉุนเฉียว ก็ไม่อาจถึงกับผิดแผก แตกต่าง ไปจากกันซักเท่าไหร่นัก คือพร้อมจะวี้ดๆ แว้ดๆ ฉุนเต่า ฉุนตะพาบ กับใครต่อใครได้ทุกเมื่อ วันสองวันก่อน...ก็เอาอีกแล้ว!!! ไม่ว่าจะเป็น บังทอง หรือบังอะไรก็แล้วแต่ แทบเข้าหน้าไม่ติด เมื่อดันไป ต่อปาก-ต่อคำ แม้เพียงแค่นี้ดๆ โหน่ยๆ เท่านั้นเอง ส่งผลให้บรรดาพวก โซเชียลมีเดีย นำไปขยายผลได้แบบเน้นๆ เนื้อๆ เล่นเอาอะไรต่อมิอะไรที่เคยเดินสายตุนคะแนนเอาไว้ในแต่ละครั้งที่ สัญจร ไปโน่น ไปนี่ น่าจะหดๆ หายๆ ไปมั่งไม่ว่ามากหรือน้อยก็แล้วแต่...

                                                             -------------------------------------------------

      เพราะอย่างที่ ขุนพลข่าว หรือ ขุนศึกข่าว อย่างพลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ท่านให้สัมภาษณ์ไว้ใน ไทยโพสต์-แทบลอยด์ ฉบับวันอาทิตย์นั่นแหละว่า อะไรก็ตาม...ที่ถูกแพร่ออกไปทางโซเชียลมีเดีย อันถือเป็นช่องทางการสื่อสารสมัยใหม่ที่ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง มันอาจกลายเป็นตัว พลิกได้-พลิกเสีย ฉากสถานการณ์เลือกตั้งครั้งใหม่ได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้...ถ้าหาก คลิปวิดีโอ ประเภทผู้นำประเทศหันมาวี้ดๆ แว้ดๆ ใส่นักข่าว แอบตบหัวนักข่าว ยังถูกกดไลค์ กดแชร์ อย่างสม่ำเสมอ ว่อนไปทั่วทั้งอินเทอร์เน็ต โอกาสที่จะทำให้บุญ บารมี ของ โจโฉ ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร แผ่ซ่านไปทุกหย่อมหญ้า ย่อมอาจต้องติดๆ ขัดๆ อยู่บ้างเพราะ วาสนา ของโจโฉเองนั่นแหละ...

                                                               ----------------------------------------------------

      ยิ่งเจอกับเรื่อง ใบขับขี่ ที่ถูกไลค์ ถูกแชร์ กันชนิดหัวแม่โป้งบวมแล้ว บวมเล่า อีกสี่ซ้าห้าเดือน หกเดือน นับจากนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะส่งผลให้คะแนนนิยมของ ก๊กบิ๊กตู่ หดหายไปอีกซักเท่าไหร่ นั่นยังไม่รวมถึงเรื่อง เศรษฐกิจ ที่ระหว่าง ตัวเลข กับ ชีวิตจริง มันออกจะสวนทางกันแบบไม่รู้ว่าไผเป็นไผ อะไรเป็นอะไร ภายใต้สภาพเช่นนี้นี่เอง...เลยทำให้ ก๊กไม่เอาบิ๊กตู่ เลยชักออกอาการกระดี๊กระด๊ายิ่งขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่า...เล่นเอา ซุนกวน เริ่มขยันออกเดินสายแบบถี่ๆ ไปฮ่องกง ไปจีน ก่อกิจกรรม ทุรกรรม อกุศลกรรม ชนิดแทบไม่มีวันเว้นว่าง เพื่อหวังจะแลนด์สไลด์ จะแอฝะลานช์ กันแบบโครมๆ ครามๆ ให้จงได้...

                                                                 ------------------------------------------------------

      ก็เลยเหลือแต่ ก๊กเอาก็ไม่ใช่-ไม่เอาก็ไม่เชิง อย่าง ก๊กประชาธิกัด นั่นแหละ...ที่จะเข้ามามีบทบาทเป็น ตัวแปร หรือเป็นตัวชี้ขาดว่าสุดท้าย....พงศาวดาร 3 ก๊กฉบับไทยๆ มันจะออกมาในหน้าไหน รูปไหน กันแน่ แม้ว่าโดยลีลาในแบบ กั๊กไป-กั๊กมา นั้น ออกจะเป็นอะไรที่ไม่ค่อยถูกจริตกับบรรดาชาวยุทธ์มากมายซักเท่าไหร่ แต่ก็คงต้องยอมรับว่า...ด้วยการวางตัวของ เล่าปี่ นั้น ค่อนข้างที่จะน่ารัก น่าประทับใจ น่าเลื่อมใส อยู่ตามสมควร ไม่งั้น...บรรดา งิ้ว ทั้งหลาย คงไม่จัดให้เป็น พระเอก มาโดยตลอด แม้สุดท้าย...จะเสร็จ ก๊กโจโฉ หรือ ก๊กสุมาอี้ ไปแล้วก็ตาม แต่ในช่วง ระยะแห่งการเปลี่ยนผ่าน ทางประวัติศาสตร์ หรือทางพงศาวดารก็แล้วแต่ ย่อมมิอาจปฏิเสธบทบาทของ เล่าปี่ ไปได้เป็นอันขาด...

                                                                    --------------------------------------------------------

      สรุปรวมความแล้ว...ไม่ว่าใครแพ้-ใครชนะ ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมต้องเป็นไปตามแบบฉบับเมื่อมีสุข มีสงบ ย่อมต้องมีศึกตามมา ไปจนกว่าจะหมดศึก ถึงพอจะกลับไปสู่ความสุข ความสงบได้บ้าง หรือมันเป็นธรรมดาของโลกย์ เป็นความธรรมดาของบ้านเมือง ปัญหาอยู่ที่ว่า...บรรดาเราๆ-ทั่นๆ หรือปวงราษฎร พสกนิกรทั้งหลาย จะสามารถสร้าง ภูมิคุ้มกัน ให้กับตัวเอง สร้าง เครือข่ายป้องกันทางสังคม ไว้รับมือกับความเปลี่ยนแปลง ความพ่ายแพ้และชัยชนะของแต่ละฝ่าย ได้มาก-น้อยขนาดไหนเท่านั้นเอง...

                                                                      --------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Sanskrit saying... Rise and fall are properties of big as wax and wave are the moon; stars, however, suffer no change.- ความเจริญและความเสื่อมเป็นเรื่องของคนใหญ่ คนโต อุปมาดั่งดวงจันทร์ซึ่งมีขึ้น มีแรม ส่วนดวงดาวทั้งหลาย...หาได้มีการผันแปรไม่...

                                                                      --------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"