“สุเทพ” แจง สตช.ไม่เคยเสนอวิธีจัดจ้างโรงพักให้ครม.อนุมัติ


เพิ่มเพื่อน    

กำนันสุเทพไลฟ์สด สวนอนุกรรมการไต่สวนของป.ป.ช. เข้าใจผิด สับสน   แจง สตช.ไม่เคยเสนอวิธีจัดจ้าง ให้ครม.อนุมัติ 

นายสุเทพ  เทือกสุบรรณ   ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย และ อดีตรองนายกรัฐมนตรี  ไลฟ์สด ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว  ชี้แจง กรณีสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า วันนี้เป็นเรื่องข้อกล่าวหา ของอนุกรรมการไต่สวนของป.ป.ช. ข้อที่ 5 ที่มีการกล่าวหาว่า  ท่านซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลงาน สตช.อยู่ในขณะที่  สตช.เสนอเรื่องดังกล่าวให้พิจารณา  ทราบอยู่แล้วว่าสตช. ต้องไปดำเนินการก่อสร้างจัดจ้างเป็นรายภาค  ตามที่สตช.เสนอและครม.มีมติอนุมัติๆไว้แล้ว  และท่านได้เห็นชอบแล้ว  ดังกล่าวข้างต้น แปลความง่ายๆว่า ผมซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบสตช.ทราบอยู่แล้วว่าครม.มีมติ ให้ดำเนินการจัดจ้างเป็นรายภาค ตามที่สตช.เสนอไป   แต่ผมกลับไปเปลี่ยนแปลง วิธีการจัดจ้างเสียใหม่  ผมขอกราบเรียนว่า  นี่เป็นความสับสน  เป็นความเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงของ คณะ อนุกรรมการไต่สวนของป.ป.ช.เพราะข้อเท็จจริงคือว่า ทางสตช. ไม่เคยเสนอต่อครม.ให้พิจารณาวิธีการจัดจ้าง เพราะสตช.ทราบดีว่า ผู้ที่จะมีอำนาจพิจารณาเรื่องวิธีการจัดจ้างคือ ผบ.ตร.ซึ่งเป็นหัวหน้าส่วนราชการ  เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกฯว่าด้วยการพัสดุ           

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า  อนุกรรมการไต่สวนของป.ป.ช. ไปสับสนเรื่องที่สตช.เสนอครม.เปลี่ยนรูปแบบการลงทุนจากเดิมที่ครม.อนุมัติให้ใช้วิธีแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์  ให้บริษัทธนารักษ์ฯ ดำเนินการ แต่เมื่อครม.มีมติวิธีนั้นไว้แล้ว ครม.ได้สั่งสตช.ว่าไปดูในรายละเอียดไปปรึกษาสำนักงบฯ ปรึกษากระทรวงการคลัง ว่าทั้งหมดจะต้องใช้งบเท่าไร บทบาทแต่ละหน่วยงานเป็นอย่างไร สตช.ก็ไปตั้งคณะกรรมการแล้วทำหนังสือลงวันที่ 14 พ.ย.2551เสนอต่อนายกรัฐมนตรี  เพื่อนำเสนอต่อครม. แตสาระสำคัญในหนังสือฉบับนี้เขาอ้างมติครม.เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2550 เขาก็ไปทำตั้งคณะกรรมการ เสร็จแล้ว เขาเห็นว่า  ถ้าใช้วิธีการลงทุนโดยการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ตามที่ บริษัทธนารักษ์ฯ เสนอนั้นในเวลา 5 ปี จะต้องใช้เงินแพงกว่า การตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีปกติถึง 4,717 ล้านบาท สตช.จึงบอกว่า แนวทางนี้ไม่เหมาะสมเป็นภาระผูกพันกับรัฐบาลสูงมากและไม่เหมาะตามข้อเสนอคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2551  จึงขออนุมัติครม. ขอให้สตช.ดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารสถานีตำรวจทดแทน   

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า โดยวิธีการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีและผูกพันงบประมาณ 3 ปี เขาเสนอขอเปลี่ยนรูปแบบวิธีการลงทุน อนุกรรมการไต่สวนของป.ป.ช.ไปคิดเอาเองว่าที่เสนอนี้คือการขอเปลี่ยนวิธีการจัดจ้าง  เพราะฉะนั้นผมได้กราบเรียนคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ว่าครม.ไม่เคยพิจารณาเรื่องวิธีการจัดจ้างและครม.ไม่เคยมีมติว่าด้วยการจัดจ้างเพราะฉะนั้นที่ อนุกรรมการไต่สวนของป.ป.ช.กล่าวหาว่าผมทราบอยู่แล้วว่าครม.อนุมัติวิธีการจัดจ้างไว้ จึงเป็นการเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงครม.ไม่ได้เป็นคนอนุมัติการจัดต่าง แต่ผมเป็นคนอนุมัติเอง อนุมัติตามหนังสือที่ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ผบ.ตร.เสนอเมื่อวันที่ 18 พ.ย.2552ว่า ขอเสนอวิธีการจัดจ้างรวมเป็นสัญญาเดียว เพราะกฎหมายงบประมาณเขียนเอาไว้โครงการเดียวเงินก้อนเดียว ผมเป็นคนอนุมัติ เมื่อวันที่20พ.ย.2552 และที่อนุกรรมการไต่สวนของป.ป.ช.บอกว่าผมทราบว่า ครม.เป็นผู้อนุมัติวิธีการจัดจ้าง ผมจึงบอกว่าของอนุกรรมการไต่สวนของป.ป.ช.เข้าใจผิด เพราะฉะเมื่อผมอนุมัติด้วยข้อเท็จจริง มันก็ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นความผิดและที่จะเป็นหลักฐานยืนยันอีกชิ้นคือหนังสือยืนยันจากเลขาธิการครม.ที่ตอบไปยัง สตช.ว่า ตามที่เสนอขออนุมติโครงการก่อสร้างฯสถานีตำรวจนั้นครม.ได้ประชุมปรึกษากันลงวันที่17 ก.พ.2552ลงมติอนุมัติหลักการโครงการก่อสร้างฯสถานีตำรวจ เขาอนุมัติหลักการวิธีการก่อสร้างไม่ได้อนุมัติวิธีการจัดจ้าง ความชัดเจนอยู่ในหนังสือของเลขาครม.ที่แจ้งมติครม.ไปให้ ผบ.ตร.ได้รับทราบตามที่ลงหนังสือในวันที่ 3 มีนาคม 2552 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"