กากีกะสีเขียว


เพิ่มเพื่อน    

                เมื่อเหรียญยังมี 2 ด้าน นับประสาอะไร การแก้ไขพ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 และพ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ที่มีประเด็นเพิ่มโทษค่าปรับไม่พกใบขับขี่ในอัตราสูง จะมีทั้งผู้เห็นด้วยและเห็นต่าง แม้พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 (ผบก.ส.3) ในฐานะคณะทำงานแก้ไขปัญหาจราจรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะออกมายืนยันพ.ร.บ.ที่จะออกมาใหม่ เพื่อคุ้มครองชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในภาพรวมบนถนนสาธารณะ แต่ก็ยังไม่ทำให้"ชาวบ้าน"คลายข้องใจที่ว่าพ.ร.บ.นี้จะมาเป็นช่องทางให้ "หัวปิงปองนอกแถว"หาผลประโยชน์ ดังนั้นหนทางที่ดีที่สุดของเหล่า"สีกากี"ที่จะทำให้ชาวบ้านมั่นใจว่าสิ่งที่ทำทั้งหมดเพื่อลดอุบัติเหตุ ไม่ใช่เพิ่มช่องทางหากิน วิธีง่ายสุดหันมาบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ให้เข้มงวดจริงจัง ทั้งเมาไม่ขับ จับคุยโทรศัพท์ในรถ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ขี่มอเตอร์ไซด์ไม่สวมหมวกกันน็อค ขับรถฝ่าไฟแดง จอดรถในที่ห้ามจอด ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นชนวนการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าการไม่พกใบขับขี่ ดีไม่ดีไม่ต้องมีกฎหมายใหม่ที่เพิ่มโทษมากขึ้น ขี้คล้านอุบัติเหตุจะลดลง...ลองดู ๐ 

                ไม่รู้จะจดจะจำกันหรือยัง การแต่งตั้งผิดกฎ ผิดเกณฑ์ จนต้องมีการเยียวยาย้อนหลังเหมือนในการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา แม้ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม(รมว.กลาโหม) ที่มานั่งหัวโต๊ะ ก.ต.ช. จะไม่ขอเปิดเผยวาระการประชุมก.ต.ช. บอก"เป็นเรื่องลับ บอกไม่ได้" แต่สายข่าวก็รายงานในหลายเรื่องทีวงประชุม ก.ต.ช.พูดคุยมีเรื่องการขออนุมัติเปิดตำแหน่ง "รองผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชการตำรวจแห่งชาติ" เพื่อรองรับการแต่งตั้ง "พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ" เพื่อเยียวยาแก้ไขตามคำสั่งศาลปกครองกลาง เพราะในช่วงที่มีการแต่งตั้งครั้งโน้น ไม่ได้แต่งตั้งพล.ต.ต.ธนพล ขึ้นตามสิทธิ์ เจ้าตัวเลยต้องไปร้องศาลปกครองกลาง จนชนะคดี ทีนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ต้องมาแก้ไขปัญหาด้วยการเปิดตำแหน่งใหม่ให้แทน ซึ่งตามกฎหมายทำได้ แต่เรื่องหัวจิตหัวใจที่เสียไปของเลือดเนื้อเชื้อไขคนสีกากีอย่าง "พล.ต.ต.ธนพล" จะเยียวยาอย่างไร ๐

                ยิ่งมาดูการแต่งตั้งตำรวจปีนี้ ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เริ่มมีเสียงแว่วๆ "รองผบ.ตร." ว่าง 1 เก้าอี้ จากที่พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผบ.ตร. เกษียณอายุราชการ 30 ก.ย.61  บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.  อาจจะสไลด์เพื่อนเลิฟ บิ๊กใหม่-พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ เพื่อนนรต.36 มาเข้าตำแหน่งหลัก รองผบ.ตร. เปิดทางให้ บิ๊กช้าง-พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อนนรต.36 อีกคนขึ้นมาเป็น จเรตำรวจแห่งชาติ แทนที เพราะแม้อาวุโสระดับ ผู้ช่วย ผบ.ตร. จะไม่ได้อยู่เบอร์ต้นๆ แต่เมื่อใช้ช่องประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องหลักเกณฑ์การแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจตามหลักอาวุโส  กำหนดขยับตำแหน่งสูงขึ้นยึดอาวุโส 33% เป็นหลัก หากตำแหน่งว่างมีไม่ถึงตามเกณฑ์อาวุโสให้นำทั้งหมดมานับเป็นอาวุโสเท่ากันหมด หลายคนเลยทำใจในเมื่อหลักเกณฑ์เขียนกันไว้เอื้อทุกอย่าง เสียงค้าน เสียงต้าน หรือจะมีความหมาย(เฮ้อ) ๐

                โชว์ผลงานรายวัน บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.ต.สุรเชษฐ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว(รองผบช.ทท.) นำทีมแถลงข่าวจับกุมแก๊งแสร้งรักออนไลน์ หรือโรแมนซ์สแกม ร่วมกันหลอกลวงประชาชนคนไทยด้วยวิธีการแสดงตนเป็นบุคคลอื่นผ่านโชเชียลมีเดียเพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ จากนั้นจึงร่วมกันหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารต่างๆ รวบ"แซมซัน เอ็นนามดี้ ออจิ" ชาวไนจีเรีย "โอรูบอร์ คิงลี่ โนซ่า"ชาวไนจีเรีย และ"จีน อิริค ทูคาม"ชาวแคมารูน ผู้ต้องหาเข้าซังเต แบบนี้เห็นทีถึงคราวแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับ "นายพล" วาระประจำปี 2561 หาก "บิ๊กแป๊ะ" จะเสนอบัญชีแต่งตั้งให้ "บิ๊กโจ๊ก" ไปนั่งเก้าอี้ "ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง" หรือ "ผบช.สตม." ตามที่มีกระแสข่าวว่าเจ้าตัวต้องเปลี่ยนเวย์จากเก้าอี้ "ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล" หรือ "ผบช.น." ที่ไปชนตั๋วเบอร์ใหญ่ ต้องย้ายเวย์มาซอยสวนพลูแทน แบบนี้วงประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) จะมีกรรมการคนใดกล้าท้วงติง เพราะชั่วโมงนี้ของเขาจริงๆ ๐

         ไม่เร็ว ไม่ช้า เป็นไปตามห้วงเวลาปกติสำหรับ “โผทหาร”ปลายปี ระดับหัวนิ่งสนิทปิดจ็อบไปตามที่เหล่าทัพเสนอ ครั้งนี้  “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม “ล้วง”ไม่มากตามเงื่อนไช สภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อรายชื่อถึงมือ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาจจะมีแรงกระเพื่อมจากแรงดันขั้นสุดท้าย แต่ถึงอย่างไร “โผ” ระดับหัวยังเป็นชื่อเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และได้นำขึ้นทูลเกล้าฯไปตามขั้นตอน ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์สื่อไปแล้ว “บิ๊กไฟว์” ยังเป็นชื่อ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ  เป็น ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญจศรี เป็น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็นผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์  เป็นผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ 

                ข่าวแรงเมื่อ โผทหาร ถึงมือ “บิ๊กตู่”อยู่เหมือนกัน ว่า อาจมีการเปลี่ยนโผ แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อรับมือการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง จากเดิมที่ “บิ๊กแบล็ค” พล.ท.ธรากร ธรรมวินทร จะนั่งในตำแหน่งต่อไป มาเป็นการเปลี่ยนให้  “บิ๊กสน” พล.ท.สนธยา ศรีเจริญ แม่ทัพน้อยที่ 2  ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 2แทน เพราะ “บิ๊กสน”เป็นทหารคนดังที่ คนในพื้นที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะนักการเมืองรู้จักเป็นอย่างดี กลายเป็นที่เม้าท์กันทั้งภาคว่าเป็น “บิ๊กทหาร”ที่เข้าไปดูดนักการเมืองมาสนับสนุน  คสช. และ “บิ๊กตู่”เป็นนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้ง แต่ในที่สุด ดูเหมือนว่า ชื่อยังนิ่งอยู่ที่ “บิ๊กแบล็ค” เหมือนเดิม  จนสัปดาห์ก่อน มีผู้สื่อข่าวไปถามเรื่อง “บิ๊กทหาร” จอมดูดมีอยู่จริงไหม  “บิ๊กแบล็ค” ปัดเรื่องดูด แต่ยอมรับว่ามีทหารไปพบปะกับนักการเมืองจริง แต่เป็นการพูดคุยเพราะรู้จักส่วนตัว ฟังคำตอบแล้วต้องบอกว่า พื้นที่นี้ถือว่าเป็น “ฮาร์ทแลนด์” ทั้งการเมือง และ การทหาร จริงๆ

                ในงานเลี้ยงอำลาสื่อมวลชนของ “บิ๊กนุ้ย” พล.ร.อ.นริส  ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ   “ครูน้อย” พล.ร.ต.อาภรกรณ์ อยู่คงแก้ว  ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาสงครามพิเศษทางเรือ  ( นสร.)  ขึ้นเวทีเล่าภารกิจที่ถ้ำหลวงอีกรอบ พร้อมบอกกับสื่อว่า ปีการศึกษาของหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือ ซีลรุ่น 46 จะไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปทำข่าว และสกู้ป เนื่องจากมีการเปิดเผย และนำเสนอกันไปมากแล้ว หลังจากมีสื่อหลายสำนักทำหนังสือขออนุญาตมา  แม้จะมีการหยิบยกเหตุผลหลากหลายประการมาอธิบาย แต่เจ้าตัวยืนกรานว่า ปีนี้ “ขอ”  แต่ในการเพิ่มเติมองค์ความรู้เรื่องการดำน้ำถ้ำก็จะยังคงดำเนินการต่อไปให้กับกำลังพลที่ประจำการแล้ว ส่วนการเพิ่มเติมการฝึกในภารกิจการทำงานร่วมกับเรือดำน้ำที่กองทัพเรือจะมีเข้าประจำการในปี 2566 นั้น ในสัปดาห์หน้าจะเดินทางไปดูงาน หน่วยปฏิบัติการสงครามพิเศษกองทัพเรือสหรัฐ หรือ  The united states Naval specil warfare  ที่ซานดิเอโก้  เพื่อดูแนวทางการทำงานภารกิจทางยุทธวิธีต่อไปด้วย ๐

                รายนี้จะเกษียณอยู่แล้วเชียวยังมีเรื่องให้ชวนปวดหัว สำหรับ “บิ๊กอาร์ท” พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ถูกโจมตีในฐานะดัน “โครงการพาคนกลับบ้าน”ช่วยเหลือผู้เห็นต่างในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนให้ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อกล่าวหาอย่างละเอียดหยิบ 2 หน้ากระดาษ  ด้านเจ้าตัวเดินหน้าเข้าวัดทำบุญก่อนส่งไม่ต่อให้ “บิ๊กเดฟ” พล.ต.พรศักดิ์ พูดสวัสดิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ที่มีชื่อขึ้นเป็น แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ .


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"