ผู้เขียนเคยเขียนเตือนมาโดยตลอดว่า อย่าดีใจ เมื่อมีการปิดล้อม ตรวจค้น ได้ผล สามารถจับเป็น หรือ จับตาย คนในขบวนการแบ่งแยกดินแดน ไม่ว่าจะเป็น อาร์เคเค หรือเป็น เปอร์มูดอ เพราะต้องมีการ เอาคืน หรือการ แก้แค้น จาก โจรใต้ หรือ แนวร่วม ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็นมาโดยตลอด

    หลังปฏิบัติการ ด้วยความสำเร็จของเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ที่ชายเขา ต.สะเอ๊ะ อ.กรงปีนัง จ.ยะลา สำเร็จอย่างงดงาม ด้วยการปิดล้อม โจรใต้ ขณะที่ พักพิง อยู่กับ สมาชิกขบวนการ เพื่อเตรียมการก่อการร้าย จนสามารถ จับเป็น ได้ 5 คน และ จับตาย ได้ 2 คน

    เพราะหลังจากนั้นเพียง 2 วัน ก็มีการ เอาคืน โดย แนวร่วม ใน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้ซุ่มยิงรอง สว.สส.สภ.สายบุรี ขณะที่ขับรถพร้อมลูกเมียกลับจากทำธุระ จนทำให้รอง สว.สส.บาดเจ็บสาหัส และเชื่อว่ายังต้องมีผู้ที่ตกเป็น เหยื่อ ในการ เอาคืน จากขบวนการอีกหลายเหตุการณ์

    และผู้ที่ต้องกลายเป็น เหยื่อ ตลอดกาล หาก ไฟใต้ ยังไม่ ยุติ ก็คือ ชาวบ้าน ที่เป็นเป้าหมาย อ่อนแอ ทั่วไป ที่ต้องกลายเป็นเครื่อง เซ่น ของขบวนการ เมื่อ เอาคืน กับเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ ก็ต้องฝาก รอยแค้น ไว้กับชาวบ้าน

    ซึ่ง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ก็ไม่เคยมีความสามารถในการป้องกันเป้าหมาย อ่อนแอ ที่เป็น ชาวบ้าน ให้ปลอดภัยได้แม้แต่ครั้งเดียว และคำกล่าวอ้างที่กล่าวมากว่า 14 ปี คือ 3 จังหวัดภาคใต้พื้นที่กว้างใหญ่ กำลังเจ้าหน้าที่ไม่มีความสามารถดูแลอย่างทั่วถึง

    ก็ใช่ แค่เสาไฟฟ้าที่น้อยกว่าประชาชน ยังดูแลไม่ได้ ปล่อยให้ โจรใต้ วางระเบิดตามอำเภอใจ แล้วจะมีขีดความสามารถดูแลประชาชนอย่างไร

   นี่คือความ บกพร่อง ของรัฐ ที่บีอาร์เอ็นพยายามที่จะชี้ให้เห็นว่า กำลังกว่า 80,000 นาย ในพื้นที่ ไม่สามารถให้ความคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และกำลัง 80,000 นาย ก็ไม่ใช่ปัญหาและอุปสรรคของบีอาร์เอ็น ในการที่จะก่อเหตุร้าย และขยายงานทางการเมือง

     งาน การข่าว ที่ดี งาน มวลชน ที่ เข้าใจ และ เข้าถึง ชาวบ้านต่างหากที่จะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถป้องกันเหตุร้าย ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้สูญเสียน้อยลง

   และที่สำคัญ ความจริงที่ต้องเปิดเผยให้ประชาชนได้รับรู้ ถึงขบวนการของบีอาร์เอ็น ถึงแผนการร้ายของบีอาร์เอ็น พร้อมทั้งการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน เพื่อป้องกันตนเองต่างหาก คือวิธีการในการลดความสูญเสียที่เกิดขึ้น

      เลิกปกปิดความจริง เลิก ตะแบง เลิกช่วยเหลือโจร อย่างเช่น กรณี โจรใต้ หรือ แนวร่วม บีอาร์เอ็น ปฏิบัติการ สังหารโหด แม่-ลูก 2 ศพ ที่ ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ทำไม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ต้องออกมา ตะแบง ว่าเป็นความขัดแย้งในเรื่องส่วนตัว ในเมื่อ โจร ที่จับได้ ก็รับสารภาพอยู่ ทนโท่ ว่าเป็นการสั่งการจาก แกนนำ ขบวนการ ให้สังหารผู้หญิงชาวไทยพุทธเป็นใครก็ได้ เพราะต้องการเพียงสร้างความรุนแรง สร้างความโกรธแค้นให้เกิดขึ้นในหัวใจของ ไทยพุทธ เพราะให้บรรลุถึง ยุทธศาสตร์ ของการ แยกคน เท่านั้น

    ทำไมรัฐถึงยังพยายามที่จะช่วยเหลือขบวนการลับอย่าง บีอาร์เอ็น ในการ ปกปิด ความจริง ทั้งที่วันนี้ ทั้งยูเอ็น ทั้งโอไอซี ต่างรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดจากอะไร และขบวนการบีอาร์เอ็นก็มีจริง ปฏิบัติการจริง ทั้งทาง การเมือง และ การทหาร โดยในทาง การเมือง มี มารา ปาตานี เป็นผู้ ขับเคลื่อน

    ถ้าบีอาร์เอ็นไม่มีจริง ถ้าแผนการแบ่งแยกดินแดนไม่มีจริง แล้ว ไอซีอาร์ซี หรือ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ จะเข้ามา จุ้นจ้าน ตั้งฐานปฏิบัติการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทำอะไร ถ้าไม่ใช่เข้ามาเพื่อเตรียมการในการ เจรจาสันติภาพ

    บทบาทหน้าที่ของ ไอซีอาร์ซี คืออะไร ตรงนี้คนในพื้นที่ส่วนใหญ่ก็ยังไม่ได้รับรู้ ซึ่งวันนี้หน่วยงานความมั่นคงต้องบอกความจริงให้คนในพื้นที่รู้ด้วยว่า การเข้ามาของ ไอซีอาร์ซี เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตรงไหน และคนทั้งหมดจะได้ประโยชน์อะไรกับองค์กร กาชาดระหว่างประเทศ

    หรือหน้าที่ในการ เยียวยา ผู้ที่บาดเจ็บ ล้มตาย หน่วยงาน เยียวยา ที่มีอยู่ของเราไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องอาศัยการช่วยเหลือจาก ไอซีอาร์ซี หรือ กรรมการกาชาดสากล

     เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยเห็น ไอซีอาร์ซี ไปยุ่งเกี่ยวกับคนที่เป็น ไทยพุทธ ที่ถูกกระทำโดยบีอาร์เอ็น แต่จะเห็น บทบาท ของ ไอซีอาร์ซี ในการไปพบปะกับ โจรใต้ ทั้งที่อยู่ในเรือนจำ และไปพบปะกับครอบครัวของ โจรใต้ ที่ถูกจับกุม หรือถูก วิสามัญฆาตกรรม จากเจ้าหน้าที่รัฐ

     ประเด็นนี้ วันนี้คนในพื้นที่ โดยเฉพาะคน ไทยพุทธ ต้องช่วยกันรับรู้ และช่วยกันถามหน่วยงานความมั่นคงว่า สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้วันนี้ อยู่ในขั้นตอนไหน

    เพราะตั้งแต่ตัวของนายกรัฐมนตรี จนถึงแม่ทัพภาค ต่างปฏิเสธแบบ คอแข็ง ว่า เหตุร้ายรุนแรงรายวันเป็นเรื่องความไม่สงบภายในประเทศ แถมยังมีการ ตะแบง ว่า ไม่ใช่การแบ่งแยกดินแดน และไม่มีขบวนการบีอาร์เอ็น

      เมื่อสถานการณ์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเพียงเรื่อง ภายใน แล้วไฉนวันนี้จึงต้องมี ฝรั่งมังค่า อย่างหน่วยงานคณะกรรมการกาชาดสากล หรือ ไอซีอาร์ซี เข้ามา ปฏิบัติงานอย่าง เข้มข้น ในพื้นที่ 3 จังหวัด และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาด้วยเล่า

     วันนี้ปัญหาของ ไฟใต้ จึงอยู่ที่ความ ย้อนแย้ง อยู่ที่การ ปกปิด ความจริงที่เกิดขึ้น ความ สับสน จึงเกิดกับผู้ที่มีหน้าที่ ปฏิบัติ และประชาชนในพื้นที่ ซึ่งไม่รู้ถึงสถานการณ์ที่แท้จริง เข้าไม่ถึงความจริง และถือความจริงคนละชุด ถือน้ำคนละถังในการดับ ไฟใต้ จนกลายเป็นสภาพ หมดน้ำ และ หมดน้ำยา ในขณะที่ ไฟใต้ ยังลุกโชน สุดท้ายถามผู้บริหารประเทศว่า สภาพการณ์อย่างนี้ของจังหวัดชายแดนภาคใต้จะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ เพราะหากยังเป็นเช่นนี้ ก็อย่าได้หวังว่าปัญหาของพื้นที่ ปลายด้ามขวาน จะมีทางออก.

                                                                            เมือง ไม้ขม รายงาน