ไม่รู้ว่า"บังเอิญ" หรือ "ตั้งใจ" หนังสือสั่งการของ "ผบ.ตร."พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เกี่ยวกับการกำชับการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาการจราจรและบริหารจัดการจราจรในภาพรวม ที่ส่งไปถึงลูกน้องตำรวจฝ่ายปฎิบัติทั่วประเทศ
เหมือน ผบ.จักรทิพย์ จะรู้ตอนนี้ที่ชาวบ้าน "หัวร้อน" หลังมีข่าวการเสนอแก้กฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 โดยมีการเพิ่มอัตราโทษค่าปรับให้สูงขึ้นเกี่ยวกับการขับขี่รถที่ไม่พกพาใบอนุญาตขับขี่ และใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ
ปมเหตุสำคัญมาจาก "ตำรวจจราจร" ที่ชอบทำธุรกิจดาวไถ ชอบทำธุรกิจเตารีดบนท้องถนน จนชาวบ้านผวา! เกรงโทษใหม่ที่ปรับแพงขึ้นจะกลายเป็นช่องทางให้
"หัวปิงปอง"หากิน!!!
เพราะหนังสือดังกล่าว ผบ.จักรทิพย์ อ้างถึงช่วงที่ผ่านมาพบมีการนำภาพนิ่ง/ภาพเคลื่อนไหว ไปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ในทางที่อาจเกิดความเสียหายต่อการปฎิบัติหน้าที่ในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้การปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจทุกสายงานเป็นไปด้วยความถูกต้อง โปร่งใส จึงกำชับการปฎิบัติ
ผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะสายงาน ปป. และจร.ทุกนาย ต้องแต่งเครื่องแบบให้เรียบร้อยขณะปฏิบัติหน้าที่ ในกรณีต้องสื่อสารกับประชาชน ไม่ว่าทั้งการบริการช่วยเหลือ การตรวจค้น และ/หรือจับกุมบังคับใช้กฎหมาย จะต้องใช้กริยาวาจาที่สุภาพเหมาะสมแสดงตนโดยเปิดเผย ห้ามปกปิดใบหน้า สวมหมวกผ้า/ไหมคลุมทั้งศีรษะ(หมวกโม่ง)
สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและจราจร สามารถสวมผ้า/หน้ากากกันฝุ่นขณะปฏิบัติหน้าที่ เพื่อความปลอดภัยจากมลภาวะทางอากาศได้ แต่เมื่อต้องสื่อสารกับประชาชน ให้แสดงตนโดยเปิดเผย
ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ โดยเฉพาะสายงาน ปป. และจร. จะต้องกวดขันกำชับและแนะนำการปฎิบัติที่ถูกต้องให้ผู้ใต้บังคับบัญชารับทราบอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
กรณีตรวจพบการกระทำหรือพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดโดยเฉพาะกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ทำให้เกิดความเสียหาย ให้เร่งรัดตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบความบกพร่องให้พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ แต่หากเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนไม่ตรงกับข้อเท็จจริงให้รายงานโฆษก บช. และ/หรือ บก. แล้วแต่กรณีทราบ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงตามอำนาจหน้าที่ และรายงาน สท. หรือ โฆษกตร.ทราบโดยด่วน
ครับ...หากตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม(ปป.) และฝ่ายจราจร(จร.) ทำได้อย่างหนังสือสั่งการของ ผบ.ตร. แม้จะไม่ทำให้ชาวบ้านชื่นชอบ ชื่นชมตำรวจทันทีทันใด แต่เมื่อตำรวจทำทุกอย่างโปร่งใส จริงใจ และเป็นธรรม ชาวบ้านก็จะลดความหวาดละแวงลงไปเรื่อยๆ
แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นๆและเป็นบ่อยๆ คือ ช่วงแรกที่มีคำสั่งห้ามอะไรขึ้นมาก็ขึงขังทำตาม พักหนึ่งก็เป็นไฟไหม้ฟางหายไปตามวันเวลา
พฤติกรรมเก่าๆก็หวลคืน ทั้งแอบตั้งด่าน แอบซุ่มจับ รีดไถ
ดังนั้นอย่าไปโทษชาวบ้านว่าดรามาหรือร้อนตัว กลัวตำรวจจะอาศัยช่องทางกฎหมาย ช่องทางการเพิ่มโทษหากิน หรือหาผลประโยชน์ ก็เพราะ"ตำรวจ"ไม่ทำตัวให้ประชาชนวางใจ เวลาออกอะไรมาแม้จะมีเจตนาดี มีเจตนาบริสุทธิ์ อยากป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
ชาวบ้านก็ยังระแวง ยังหวาดกลัว ก็เพราะ"ตำรวจ"ไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม"เตารีด"ของตัวเอง แล้วจะมาร้องให้เชื่อใจได้อย่างไร.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |