สถานการณ์ค้าปลีกเมืองไทย สมรภูมิแสนล้านที่ผู้ประกอบการยังลงทุน / อีโคโฟกัส


เพิ่มเพื่อน    

สมรภูมิแสนล้านที่ผู้ประกอบการยังลงทุน   

ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้ประกอบการต้องคิดหนัก สำหรับเรื่องของกำลังซื้อผู้บริโภคบางกลุ่มที่ยังไม่กระเตื้องสักที เลยทำให้บางแบรนด์ต้องหาลู่ทางเพื่อทำการค้าแบบใหม่ๆ ให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ หรือใช้นวัตกรรมเข้ามาเสริมสินค้าขงตัวเองให้โดดเด่น รวมถึงหาตลาดต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสของธุรกิจและลดความเสี่ยง โดยอุตสาหกรรมค้าปลีกของประเทศไทยที่มีมูลค่านับแสนล้านบาท ก็นับเป็นอีกหนึ่งภาคที่มีความสำคัญ และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยเช่นเดียวกัน  

การขยายสาขาในธุรกิจค้าปลีกของค่ายต่างๆ ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะการเติบโตจากสาขาเดิมอาจไม่มากสักเท่าไหร่ บางรายคงที่บางแห่งเติบโตเพียงตัวเลขหลักเดียว ทำให้เม็ดเงินลงทุนการเปิดสาขาใหม่ยังมีให้เห็นกันอยู่ทุกปี อย่างเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมามีร้านค้าปลีกรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ตและซูเปอร์สโตร์เพิ่มขึ้น 37 แห่งซูเปอร์มาร์เก็ต 47 แห่ง ร้านสะดวกซื้อ 1,104 แห่ง ห้างสรรพสินค้า 4 แห่ง สินค้าตกแต่งซ่อมแซมบ้าน และการก่อสร้าง  16 แห่ง เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 65 แห่ง และสุขภาพและความงามอีก 211 แห่ง หากนับเม็ดเงินการลงทุนจากปี 2558-2560 อยู่ที่ 130,200 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละประมาณ 43,400 ล้านบาท

 

สรุปและคาดการณ์ค้าปลีกปี 2561

จริยา จิราธิวัฒน์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมครึ่งปีแรก  จากดัชนีสมาคมผู้ค้าปลีกไทยแสดงให้เห็นว่า ยอดค้าปลีกในครึ่งปีแรกค่อนข้างคงที่ในทุกหมวดสินค้า แต่จีดีพีของประเทศมีการเติบโต โดยจีดีพีทั้งประเทศในสิ้นปี 2560เติบโต ร้อยละ 3.9 และไตรมาสแรกของปี 2561 เติบโตถึงร้อยละ 4.9 เป็นผลมาจากการเติบโตของภาคการส่งออกและการใช้จ่ายของภาครัฐ เมื่อไปดูในหมวดการบริโภคเติบโตเพียง 3.2% โดยในปี 2560 เติบโตเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี  2559 อย่างไรก็ตามการเติบโตของการบริโภคมีทิศทางเดียวกับดัชนีค้าปลีก ซึ่งเติบโตจาก 3.2% ในปีที่ผ่านมาเป็น 3.3 %ในครึ่งปีแรก 2561 นี้

สำหรับครึ่งปีแรกภาคค้าปลีกทรงตัวในเกือบทุกหมวดสินค้า ขณะเดียวกันก็ยังเป็นลักษณะกระจุกตัวที่เฉพาะในกรุงเทพและหัวเมืองหลักๆ ของการท่องเที่ยว ส่วนสาขาที่อยู่ในต่างจังหวัด การเติบโตของกำลังซื้อค่อนข้างอ่อนตัว เนื่องจากสัดส่วนสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีสัดส่วนเพียง 30% สาขาส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัดถึง 70% ทำให้ดัชนีในไตรมาสที่สองโดยรวมทรงตัว สะท้อนให้เห็นว่ากำลังซื้อในต่างจังหวัด ยังไม่มากเท่าที่ควร โดยเฉพาะจังหวัดที่รายได้หลักมาจากภาคเกษตรกรรม ประกอบกับปีนี้ฤดูฝนมาก่อนกำหนดฤดูกาล ส่งผลให้ผลผลิตและราคาสินค้าภาคเกษตรครึ่งปีแรกจึงไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

สถานการณ์ครึ่งหลังของปี 2561 น่าจะยังทรงตัวในไตรมาส 3 และปรับตัวขึ้นไปในไตรมาส 4 ตามวัฎจักรของการจับจ่าย แม้ภาครัฐจะเร่งให้มีการประมูลโครงสร้างพื้นฐานให้ได้ภายในปีนี้ แต่ผลจากการลงทุนนี้จะส่งผลมายังภาคค้าปลีกต้องใช้เวลา 6-8 เดือน หวังไว้ว่านโยบายและงบประมาณที่ไปกระตุ้นเศรษฐกิจน่าจะขยายตัวไปยังจังหวัดรองๆไม่มาเติบโตกระจุกตัวในเมืองใหญ่ อย่างไรก็ตามโดยภาพรวมดัชนีค้าปลีกปี 2561 น่าจะดีกว่า 2560 เล็กน้อย หรือเติบโตน่าจะอยู่ราว 3.3-3.5% แต่ก็ยังน้อยกว่าจีดีพีทั้งประเทศ ที่คาดการณ์ว่าน่าจะเติบโตราว 4.5%

 

ยักษ์ใหญ่เซ็นทรัลยังขยายต่อเนื่อง

กลุ่มเซ็นทรัลเตรียมเปิดตัวศูนย์การค้าในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ “เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต เฟส 2”  ซึ่งเป็นศูนย์การค้าและไลฟ์สไตล์ฮับระดับลักชัวรี่  ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าไฮเอนด์และนักท่องเที่ยว มาพร้อมไฮไลท์น่าสนใจมากมาย เช่น สวนสนุกไตรภูมิ และ “อะควาเรีย” อะควาเรียมแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นอกเหนือจากศูนย์การค้ายังมีสินค้าและบริการใหม่ ๆ อาทิ แอปพลิเคชั่น The1 โฉมใหม่ ส่วนธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ภายหลังการเซ็นสัญญาร่วมมือกับ JD.com เมื่อปลายปีก่อนเกิดเป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ JD.co.th ของเจดี เซ็นทรัล (JD Central) ที่ได้ทดลองเปิดตัวไปเมื่อเดือน มิ.ย. 2561 จะมีการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งในไตรมาสที่ 3 โดยลูกค้าจะสามารถเลือกซื้อสินค้าได้กว่า 5 แสนรายการ จาก 4,000 แบรนด์

 

ไฮเปอร์มาร์เก็ตโฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิม

การแข่งขันเรื่องของราคาเป็นปกติสำหรับธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะในกลุ่มของไฮเปอร์มาร์เก็ต ที่มีผู้ลงสังเวียนอยู่ 2 รายใหญ่ในเมืองไทย แต่ในปีนี้ผู้ประกอบการหันมาพัฒนารูปบบของบริการใหม่ๆ ไม่ใช่เพียงแค่แข่งลดราคาสินค้ากันแบบดุเดือดเท่านั้น แต่ยังต้องมีการนำเสนอไฮเปอร์มาร์เก็ตในมุมใหม่ๆ ที่ไม่ใช่เป็นเพียงสถานที่ให้เข้ามาซื้อของ

หลังจากดำเนินธุรกิจมาเป็นระยเวลา 24 ปี เทสโก้ โลตัสได้เปิดสาขาลำดับที่ 2,000 เป็นที่เรียบร้อย เลือกทำเลบางกรวย – ไทรน้อย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ถือเป็นสาขาที่มีพื้นที่จาหน่ายสินค้าของเทสโก้ โลตัส ขนาดใหญ่ที่สุด ที่เปิดใหม่ในระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ตอบสนองความเป็น 4.0 อย่างแท้จริง อาทิ เทคโนโลยีสแกนสินค้า Scan As You Shop จากประเทศอังกฤษ การชาระเงินผ่าน QR code ที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ทุกเคาน์เตอร์ ตอบโจทย์สังคมไร้เงินสด รวมถึงสัญญาณ WiFi ฟรีสาหรับลูกค้าครอบคลุมทุกบริเวณ และมีเลนปั่นจักรยานยาว 1.2 กิโลเมตร

ก่อนหน้า “บิ๊กซี” ได้ทำการปรับโฉมสาขาราชดำริใหม่ ภายใต้แนวคิด “แบ็งคอก ช้อปปิ้ง แลนด์มาร์ค” ทำให้มีร้านค้าเปิดใหม่อีก 22 ร้าน รวมเป็น 95 ร้านค้า จากเดิม 73 ร้านค้า โดยสาขาแห่งนี้นับเป็นหนึ่งในสาขาหลักของการสร้างรายได้หรือติดท็อป 5 จากจำนวนสาขาทั้งหมด และยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาใช้บริการปีละมากกว่า 4 ล้านคน โดยเฉพาะตลาดจีนและเวียดนามหรือคิดเป็นสัดส่วน 50% ที่เป็นต่างชาติ

 

แนะปรับตัวตามยุคสมัย

วรวุฒิ อุ่นใจ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทยคนใหม่ กล่าวว่า ผู้ประกอบการค้าปลีกจะต้องเริ่มปรับตัวโดยใช้กลยุทธ์การตลาดแบบออมนิชาแนล คือการทำตลาดแบบผสมผสานทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ที่ขายสินค้าได้ทุกรูปแบบ เพื่อเตรียมรับมือกับการเข้ามาของร้านค้าออนไลน์อย่างจริงจัง แม้ปัจจุบันหากมองภาพรวมในตลาดค้าปลีกทั้งระบบยังมีมูลค่าสูงถึง 3 ล้านล้านบาท เติบโตปีละ 3-4% ขณะที่ตลาดออนไลน์คาดว่ามีมูลค่าประมาณ 200,000 ล้านบาท เติบโตปีละ 30% นับว่าห่างกันอยู่มาก แต่ด้วยเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปสู่ออนไลน์อย่างรวดเร็ว ทำให้คาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าสัดส่วนการขายในตลาดออนไลน์จะคิดเป็น 10% ของตลาดทั้งหมด

หากออนไลน์ยังเติบโตเร็วแบบนี้ อีกไม่นานจะกระทบกับตลาดค้าปลีกอย่างมีนัยยสำคัญ โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปเร็ว อาทิ การแข่งขันตัดราคาของการขนส่ง ทำให้ต้นทุนการส่งสินค้าถูกลงโดยไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านเองก็ได้ นอกจากนี้ยังเห็นการเข้ามาของผู้เล่นรายใหญ่ของตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมี อะลีบาบา ,เจดี ดอท คอม และอีกไม่นานยักษ์ใหญ่อย่าง อะเมซอน คงมาแน่

การเข้ามาของเทคโนโลยีได้ทำให้ภาคค้าปลีกถูกพูดถึงกันทุกปี แต่ผู้ประกอบการไทยค่อนข้างมีความแข็งแกร่ง และปรับตัวเองให้สอดรับกับสถานการณ์ได้ทุกช่วงเวลา อย่างในปี 2561 จะเห็นได้ว่าค้าปลีกเต็มไปด้วยนวัตกรรมทางคอนเซ็ปต์ เมีการเปิดตัวสาขาในรูปแบบใหม่ แนวทางการใช้งบทำตลาดเพื่อจัดโปรโมชั่น ก็ต้องมีควบคู่กันไปด้วย เนื่องจากกำลังซื้อผู้บริโภคบางกลุ่มยังอ่อนแรง หลังจากนี้คงต้องจับตาดูว่าค้าปลีกรายใด จะมีการพัฒนาร้านค้าหรือสาขาแบบใหม่ออกสู่ตลาดกันอีก เพราะความเนื้อหอมของค้าปลีกยังชวนให้หลงใหลและน่าลงทุน  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"