ชาวบ้านปรับทัศนคติทหาร!  กลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายแจงยิบเหตุต้านโรงน้ำตาลพ่วงโรงไฟฟ้าชีวมวล หวั่นผลกระทบ มลพิษทำลายสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ด้านผู้ว่าฯยโสธร พร้อมเปิดเวทีหาทางออก 29 ส.ค.นี้ 

24ส.ค.61-มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากกลุ่มชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.เชียงเพ็ง  จ.ยโสธร พยายามที่จะไปยื่นหนังสือให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการทำงานตรวจสอบในประเด็นการมีส่วนร่วม ทรัพยากร และสุขภาพ จากโครงการโรงงานน้ำตาลทรายและโรงไฟฟ้าชีวมวล เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา  เนื่องจากพื้นที่อยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่จะได้รับผลกระทบ  แต่สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองไม่ยินยอมให้ไปยื่นหนังสือดังกล่าว จนนำมาซึ่งการเชิญแกนนำที่คัดค้าน 5 คนไปปรับทัศนคติ 

ล่าสุดทางจังหวัด ได้ส่งตัวแทนพันเอกฉกาจพงษ์ หงส์ทอง รอง.ผอ.กอ.รมน. ยโสธร ลงพื้นที่พบกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ตำบลเชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร โดยได้รับฟังข้อเสนอและกล่าวว่าไม่มีการเรียกไปปรับทัศนติแต่อย่างไร โดยทางจังหวัดจะเป็นเจ้าภาพในการจัดเวทีพูดคุยในวันที่ 29 สิงหาคม 61 นี้ ที่ศาลากลางจังหวัดยโสธร 

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในการพูดคุยว่า ตัวแทนชาวบ้านกว่า 100 คน ได้สอบถามตัวแทนจังหวัดดังกล่าวว่า เหตุใดถึงไม่สามารถเข้ายื่นหนังสือได้ทั้งที่ได้ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนกฎหมาย  พร้อมทั้งได้อธิบายเหตุผลของการคัดค้าน ต่อสู้ในพื้นที่ถึงประเด็นปัญหาดังกล่าวให้เจ้าหน้าทีทหารได้รับฟัง 

ด้านนางมะลิจิตร เอกตาแสง กรรมการกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย อายุ 57 ปี กล่าวว่า ทางกลุ่มก็ยังยืนยันในหลักการเดิมคือให้ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาข้อเท็จจริงเรื่องการมีส่วนร่วม ทรัพยากร และเรื่องสุขภาพ เพราะว่าเราอยู่รัศมี 5 กิโลเมตรเป็นพื้นที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล

เธอระบุด้วยว่า  ชาวบ้านได้พูดคุยอธิบายเหตุผลกับเจ้าหน้าที่ทหาร ถึงปมปัญหาที่ชาวบ้านต้องต่อสู้คัดค้านในพื้นที่ อันจะเกิดผลกระทบต่อการดำรงชีวิต และทรัพยากรในพื้นที่ โดยเฉพาะเมื่อมีโรงงานน้ำตาล โรงไฟฟ้า จะเกิดการทำลาย แย่งชิง น้ำในลำน้ำเซบาย รวมทั้งมลพิษ ซึ่งเป็นลำน้ำที่สำคัญในการหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวบ้านที่นี้ 
 
"ชาวบ้านแค่ต้องการให้ทางจังหวัดช่วยแก้ไขปัญหา เพราะไม่รู้เหมือนกันว่า ถ้าผู้ว่าฯไม่ช่วยหรือตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน แล้วใครจะเป็นแก้ไข หรือถ้าจังหวัดทำไม่ได้ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ชาวบ้านอยากได้คำตอบ รวมทั้งเรื่องของอีไอเอโรงไฟฟ้าชีวมวลที่อนุมัติให้ผ่านไปโดยที่ชาวบ้านไม่รู้ข้อมูลอะไรเลยแล้วอีไอเอเหล่านั้นผ่านไปได้อย่างไรทั้งที่พวกเราเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคือคนที่อยู่ในพื้นทีและเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากสารพิษโดยตรงถ้ามีโรงงานเกิดขึ้นพวกเราจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร" นางมะลิจิตร ระบุ 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ สืบเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ส่งหนังสือระบุว่าโครงการผลิตไฟฟ้าชีวมวลของบริษัท มิตรผล ไบโอเพาเวอร์ (อำนาจเจริญ) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท น้ำตาลมิตรกาฬสินธุ์ จำกัด ได้รับความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) จากคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2561 

ทั้งนี้ สผ.ชี้แจงว่าได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนในการประชุมครั้งที่ 1/2561 ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2561 ซึ่งควรพิจารณาแล้วมีมติดังนี้  1)    รับทราบประเด็นการคัดค้านและร้องเรียนกรณีโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ของบริษัท มิตรผล ไบโอเพาเวอร์ (อำนาจเจริญ) จำกัด ของกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ตำบลเชียงเพ็ง อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร  2)    ยืนยันมติให้ความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัท มิตรผลไบโอเพาเวอร์ (อำนาจเจริญ) จำกัด โดยให้บริษัทปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด

ด้านนายสิริศักดิ์ สะดวก ที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย  กล่าวว่า ประเด็นเรื่องการที่จะมีการเชิญไปปรับทัศนคตินั้นคงไม่มี เพราะทางเจ้าหน้าที่ได้รับปากแล้ว และในวันที่ 29 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ทางจังหวัดก็รับปากว่าจะจัดเวทีเพื่อให้ทางกลุ่มและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยกัน แต่ทางกลุ่มก็ยังยืนยันที่จะมีข้อเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาข้อเท็จจริงการมีส่วนร่วม ทรัพยากรและสุขภาพ เพื่อจะได้พิสูจน์ถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาของทางจังหวัด โดยองค์ประกอบของคณะทำงานศึกษาฯต้องเป็นที่ยอมรับของกลุ่มด้วย.