ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" storage.thaipost.net "ทักษิโณมิกส์เวอร์ชั่นใหม่นี้ จะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ในด้านต่างๆ และนำสภาวะแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเข้ามาร่วมพัฒนาแนวคิด เพื่อให้ประเทศไทยก้าวหน้าได้ทันโลก หลังจากล้าหลังมากว่า 4 ปีแล้ว นอกจากนี้ยังจะเป็นการสร้างความหวังและความสุขให้กับประชาชนได้ทันทีตั้งแต่วันแรกหากพรรคเพื่อไทยได้เข้าบริหารประเทศ โดยไม่ต้องรอ 4 ปีแล้วค่อยมาคิดทำ... จะมีการเสนอแนวคิดทักษิโณมิกส์เวอร์ชั่นใหม่นี้เข้าสู่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่และที่ประชุมพรรค เพื่อพิจารณาทำเป็นนโยบายของพรรคต่อไป ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ความนิยมของพรรคเพื่อไทยพุ่งสูง และเป็นความหวังของประชาชนได้อย่างแน่นอน" มาแล้วกลยุทธ์ใหม่ที่เพื่อแม้วงัดมาสู้ศึกเลือกตั้ง "พิชัย นริพทะพันธุ์" ทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย รับงานนายใหญ่ จุดพลุความหวังใหม่ให้ฐานเสียงขาประจำ 
    ๐ ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร ก็เป็นการคิดใหม่ ทำใหม่(อีก) เพราะทักษิโณมิกส์ (Thaksinomics) ที่มีรากเหง้ามาจากทักษิณ (Thaksin) บวกกับอีโคโนมิกส์ (Economics) ก็คือต้นกำเนิด "ประชานิยม" ที่เปลี่ยนโฉมการเมืองไทย ทำให้ "ทักษิณ" หรือไทยรักไทยที่ลงแข่งเพียงครั้งแรกชนะเลือกตั้งถล่มทลายในปี 44 กวาดไปถึง 248 ที่นั่ง จาก 500 ด้วยแคมเปญหาเสียงโครงการที่โดนใจรากหญ้า ชนิดจับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็น 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน พักหนี้เกษตรกร หนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล บ้านเอื้ออาทร เรียกว่าเป็นที่ถูกอกถูกใจประชาชนล้นหลาม โครงการลดแลกแจกแถมเหล่านี้ก็อัดฉีดมาอย่างต่อเนื่อง และทำให้พรรคทักษิณยึดครองเสียงข้างมากในรัฐสภามาได้ตลอด แม้จะถูกยุบพรรคไปถึง 2 ครั้งก็ตาม 
    ๐ แต่อีกด้านหนึ่ง ผลพวง "ประชานิยม" ที่ทักษิณละเลงแจกสร้างฐานเสียงให้กับตัวเอง จนครองอำนาจการเมืองได้เบ็ดเสร็จ ได้ทำลายวินัยการเงินการคลังของประเทศ สร้างหนี้สาธารณะ ที่สำคัญทำให้ประชาชนอ่อนแอ เสพติดงอมแงม รอคอยแต่ความช่วยเหลือจากรัฐ แทนการพึ่งพาตัวเอง แล้วยังเอื้อให้พวกพ้องตัวเองเข้ามาสูบผลประโยชน์โกงกินครั้งมโหฬาร อย่างโครงการรับจำนำข้าว ที่กวาดคะแนนเสียงจากชาวนาไปได้มากมาย และก็ย้อนกลับฆ่าชาวนาทั้งเป็นและตายไปไม่น้อย แล้วก็ทำให้ "น้องปู" ต้องทิ้งแผ่นดินเกิดหนีหัวซุกหัวซุกตามไประเหเร่ร่อนกับพี่แม้ว ขณะที่ประชานิยมโครงการอื่นๆ ก็เกิดการทุจริตมากมาย มีหลายคดีที่อยู่ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 
    ๐ หาก คสช.ต้องการจะกวาดล้าง "ระบอบทักษิณ" ก็ต้องจัดการ "ประชานิยม" หัวใจของระบอบให้ได้ก่อน จึงเป็น 1 ใน 10 เรื่องสำคัญที่ คสช.ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 วางกรอบให้เขียนไว้รัฐธรรมนูญ ที่มาของมาตรา 62 รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ที่ล็อกห้ามทำประชานิยม ก่อนจะบัญญัติไว้ชัดเจนในพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 มาตรา 9 "คณะรัฐมนตรีต้องรักษาวินัยในกิจการที่เกี่ยวกับเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัตินี้อย่างเคร่งครัดในการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวกับนโยบายการคลัง การจัดทำงบประมาณ การจัดหารายได้ การใช้จ่าย การบริหารการเงินการคลัง และการก่อหนี้ คณะรัฐมนตรีต้องพิจารณาประโยชน์ที่รัฐหรือประชาชนจะได้รับความคุ้มค่า และภาระการเงินการคลังที่เกิดขึ้นแก่รัฐ รวมถึงความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่การเงินการคลังของรัฐอย่างรอบคอบ คณะรัฐมนตรีต้องไม่บริหารราชการแผ่นดินโดยมุ่งสร้างความนิยมทางการเมืองที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนในระยะยาว” ในเมื่อเพื่อแม้วประกาศ "ทักษิโณมิกส์" เวอร์ชั่นใหม่ออกมา นับเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับ คสช.ที่อุตส่าห์วางกฎเหล็กไว้ในกฎหมายสูงสุดของประเทศ และกฎหมายรอง ที่ตั้งใจจับประชานิยมใส่หม้อถ่วงน้ำไม่ให้ผุดให้เกิด ก็ไม่รู้ว่าประชานิยมเวอร์ชั่นใหม่จะเฮี้ยนทะลุผ้ายันต์ออกมาหลอกหลอน คสช.ได้อีกมั้ย หลังเลือกตั้งคงได้รู้กัน.