เลือกมองให้ถูก...มุม


เพิ่มเพื่อน    

    ว่ากันว่าการคิดบวก หรือ Positive Thinking ทำให้คนเรามีความสุข ซึ่งเปรียบไปแล้วก็คงใกล้เคียงกับประโยคยอดนิยมในวันนี้ ...เอาที่สบายใจ!! 
    อะไรที่ให้หดหู่ใจ ท้อแท้ สิ้นหวัง เราก็อย่าไปมอง อย่าไปใส่ใจ ชีวิตมันย่อมดีกว่าไปจับจดกับความทุกข์นะคะ เหมือนอย่างเพื่อนป้า...ที่บอกว่า ผ้าถุงที่ซื้อมากว้างน้อยไปหน่อย จะต้องหาผ้ามาเสริมหากจะตัดเย็บเป็นถุงขึ้นมาใส่ ...ในขณะที่อีกคนหนึ่งถามว่า ..ผ้ามันกว้างน้อยไปหรือว่าเราอ้วนกันแน่!!!
    นี่คือตัวอย่างการเลือกมองมุมที่จะให้เราสบายใจนั่นเอง
    การที่บุพการีของเราอยู่ในวัยหรือสังขารที่ต้องซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ นับวันต้องมีการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ตื่น กินข้าว จนถึงเวลานอนหลับพักผ่อน ก็เฉกเช่นเดียวกัน หากเราเลือกมองมุมที่ไม่ถูก คนที่รับผิดชอบอยู่กับ "คนแก่" ก็จะมีคำถามมากมายว่า ทำไมต้องเป็นชั้น?? ทำไมไม่เป็นพี่เป็นน้องคนอื่น 
    เมื่อจมอยู่กับมุมว่า พ่อแม่ที่แก่แล้วคือ "ภาระ" ความทุกข์ก็จะสะสม และกลายเป็นการขาดสติเมื่อท่านมีความถดถอยในการช่วยเหลือตัวเอง หรือแทบจะกลับกลายเป็นเด็ก
    ตรงกันข้ามเลย ถ้าเราเลือกมุมที่บอกกับตัวเองว่า ช่างเป็นบุญของเราเหลือเกินที่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณของบุพการีเมื่อแก่เฒ่า หรือคิดว่าเป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่และแสนจะมีเกียรติ ที่พี่น้องทุกคนไว้วางใจเราให้ดูแลพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ความสุขและความปลื้มปีติ ภาคภูมิใจย่อมจะมาแทนที่
    เชื่อว่าทุกคนที่มีพ่อแม่ในวัยชราตระหนักรับรู้ว่า คนที่ทำหน้าที่ดูแลบุพการีนั้นเหนื่อยและมีความอดทนเป็นอย่างยิ่ง เพราะลองใครได้อยู่กับ ฒ.ผู้เฒ่า สักครึ่งวัน ก็จะได้ลิ้มรสว่า เราต้องตอบคำถามของท่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า หรือไม่ก็จะต้องคอยบอกให้ท่านทำในสิ่งเดิมๆ 
    หากเรามีมุมมองว่า การปฏิบัติต่อพ่อแม่ที่แก่เฒ่าเป็นการเจริญสติอย่างหนึ่ง ก็จะเป็นสิ่งท้าทาย หรือเป็นบทเรียนในการปฏิบัติธรรมแบบที่เรียกว่า ยกวัดมาอยู่ในบ้านได้อย่างดี
    ใครที่ไม่เคยมีประสบการณ์ก็อาจจะไม่เข้าใจ ในขณะที่คนมีประสบการณ์แล้วก็อาจจะร้องโอดครวญในใจว่า พูดง่าย ทำยาก ด้วยเราคิดและเคยชินกับท่านในอดีต แล้วก็ลืมไปว่าวันนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เราไม่ควรตั้งคำถามกับท่านด้วยอารมณ์ขุ่นมัวว่า ทำไมพ่อแม่ทำไม่ได้ ทำไมพ่อแม่พูดไม่รู้เรื่อง 
    เมื่อถึงเวลาของสังขารที่ถดถอย คนแก่ลืมได้แม้กระทั่งวิธีที่จะใช้ช้อนตักข้าวเข้าปากค่ะ แต่ถ้าเรามีมุมมองว่า นี่เป็นการฝึกสติอย่างหนึ่ง เราก็จะต้องค่อยๆ บอกและสอนท่านว่า ให้ใช้ช้อนอย่างไรตักข้าวเข้าปาก โดยอย่าได้ใจร้อนเป็นอันขาด หรือแก้ปัญหาด้วยการตักข้าวป้อนท่านให้รู้แล้วรู้รอดไปนะคะ เพราะแบบนั้นยิ่งเท่ากับเพิ่มน้ำหนักความถดถอยในสังขารของท่าน จนท้ายสุดจะกลายเป็นคนทุพพลภาพ หรือเป็นผักที่ช่วยตัวเองไม่ได้ 
    ขอยืนยันว่า อยู่กับคนแก่ไม่ง่าย แต่ถ้าเราเลือกมองมุมให้ถูกว่า เรากำลังทำหน้าที่ที่แสนมีเกียรติ อะไรที่ยากมันก็จะสบายใจขึ้นนะคะ เพราะต่อไปเราก็ต้องแก่เหมือนกันนะคะ.
                                        "ป้าเอง"                     


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"