(ผู้สูงอายุที่ชอบเดินออกกำลังในสวนสาธารณะ จะทำให้มีสังคมจากการได้พูดคุยกับเพื่อนกลุ่มใหม่ๆ)

    ตามที่องค์การอนามัยโลกได้ระบุไว้ว่า การออกกำลังกายสัปดาห์ละ 150 นาที จะส่งผลดีต่อสุขภาพผู้สูงอายุ หนึ่งในนั้นคือ “การเดิน” ซึ่งถือว่าเป็นการเอกเซอร์ไซส์ที่ประหยัด ปลอดภัย และสามารถบริหารจัดการให้อยู่ในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายๆ เพราะยิ่งขยับก็เท่ากับการออกกำลัง ที่สำคัญการเคลื่อนไหวร่างกายด้วยวิธีดังกล่าว ยังช่วยสร้างสังคมให้กับคนวัยเกษียณที่ต้องการหาเพื่อนใหม่ได้เป็นอย่างดี

(กวิน ชุติมา)

    กวิน ชุติมา กรรมการและเหรัญญิก มูลนิธิสถาบันการเดินและการจักรยานไทย ให้ข้อมูลว่า “การเดินออกกำลังในผู้สูงอายุ มีแพทย์และนักวิชาการด้านสุขภาพได้ออกมาระบุว่า เป็นการเอกเซอร์ไซส์ที่ค่อนข้างสะดวก ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์มากมาย ขอให้มีรองเท้าผ้าใบ 1 คู่ ก็สามารถออกกำลังกายได้แล้ว และยังเป็นกีฬาที่ไม่ได้เน้นการแข่งขัน จึงเหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย รวมถึงผู้สูงอายุด้วย อีกทั้งการออกกำลังดังกล่าวไม่จำเป็นต้องทำต่อเนื่อง แต่สามารถ     “เฉลี่ยการเดินออกไป” ในตลอดระยะเวลา 5 วัน วันละ 30 นาที โดยการเดินช่วงเช้า 15 นาที และช่วงเย็นอีก 15 นาที ก็ดีต่อสุขภาพแล้ว โดยไม่จำเป็นเสียเงินค่าสมาชิกในยิมเพื่อไปเดินบนสายพาน เพราะอันที่จริงแล้วมนุษย์เราถูกออกแบบมาให้ขยับเขยื้อนร่างกาย และการที่ผู้สูงอายุหมั่นเดินออกกำลังเป็นประจำวันละ 10 นาที จะช่วยทำให้ไขมันที่อยู่บริเวณกล้ามเนื้อหายไป ส่วนผู้ที่มีไขมันเกินหรือมีภาวะอ้วนอยู่แล้ว อาจจะต้องเลือก “การเดินเร็ว” เพื่อเผาผลาญไขมัน และเพิ่มการเต้นของหัวใจ อีกทั้งต้องเพิ่มระยะเวลาในการเอกเซอร์ไซส์ให้มากกว่า 30 นาทีขึ้นไป ในการเอาไขมันออกจากร่างกาย   

(คนวัยเกษียณที่มีน้ำหนักตัวมาก และต้องการควบคุมน้ำหนักควรเปลี่ยนเป็นการ “เดินเร็ว” และใช้เวลามากกว่า 30 นาทีขึ้นไปเพื่อดึงไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย แต่ทั้งนี้ไม่ควรทำอย่างหักโหม)

     “สำหรับผู้สูงอายุนั้น การเดินดีกว่าการวิ่ง เพราะการวิ่งจะทำให้เกิดแรงกระแทกที่บริเวณหัวเข่าและข้อต่อต่างๆ ซึ่งแรงกระทบดังกล่าวคิดเป็น 3 เท่าของน้ำหนักตัวผู้วิ่ง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อผู้สูงวัยที่ป่วยเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม แต่ในส่วนของการเดินถือเป็นการออกกำลังที่นิ่มนวล มีผลเสียน้อย แต่ในรายที่ป่วยเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม ควรปรึกษาแพทย์หากจำเป็นต้องเดินออกกำลัง ส่วนการเอกเซอร์ไซส์อย่างปลอดภัย แนะนำให้เลือกเดินในสถานที่ออกกำลังใกล้บ้านที่สุด เช่น ทางเดินในหมู่บ้านจัดสรร หรือ บริเวณหน้าบ้านตัวเองหากพอมีพื้นที่ โดยให้นับรอบเอง เพราะบางครั้งการที่ต้องไปออกกำลังกายยังสวนสาธารณะไกลบ้านอาจทำให้เสียค่าใช้จ่าย และสร้างมลภาวะให้กับสิ่งแวดล้อม เพราะต้องขับรถยนต์ออกจากบ้าน ที่สำคัญต้องเลือก ที่สงบ ถ้าจะให้ดี ระหว่างทางที่เดินควรมีต้นไม้สีเขียวอยู่ เพราะจะทำให้รู้สึกสงบและสบายมากขึ้นขณะออกกำลัง”
    สำหรับประโยชน์ที่สำคัญของการ “เดินออกกำลังกาย” โดยเฉพาะคนวัยเกษียณที่เคยทำงานประจำ แต่ต้องแยกจากผู้อื่น เช่น เพื่อนร่วมงาน เพียงแค่หันมาออกกำลังด้วยการเดินออกจากบ้านมาสวนสาธารณะใกล้บ้าน จะทำให้พบเจอกับกลุ่มเพื่อนใหม่ๆ จากการพูดคุยและทักทาย ซึ่งจะทำให้เกิดโอกาสอื่นๆ ตามมามากมาย เช่น ชวนกันเข้ากลุ่มกิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ตรงนี้จะเป็นการเสริมสุขภาพทางกายและใจที่ได้จากการเดิน
    รู้อย่างนี้แล้ว คนวัยเกษียณที่ชอบนั่งจับเจ่าอยู่กับบ้าน หรือแยกตัวจากสังคม...ทราบแล้วเปลี่ยนจ้า.