21 ส.ค. 61 - ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายพิพัฒน์ วรสิทธิดำรง นายกสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย และคณะ ยื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหาข้าราชการท้องถิ่นในจังหวัดเชียงราย แบ่งเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 15 แห่ง และเทศบาล 64 แห่ง รวม 79 ราย ในข้อหาว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 หรือความผิดฮั้วประมูล โครงการก่อสร้างลานกีฬาอเนกประสงค์ สนามสตรีทซอคเกอร์ จากงบอุดหนุนเฉพาะกิจของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ในปีงบประมาณ 2556
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยเป็นงบอุดหนุนเฉพาะกิจที่เป็นงบแปรญัติ ส.ส.ปี 2556 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขต อ.ฝาง และอ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ รวม 15 แห่ง และได้ตั้งงบประมาณโครงการก่อสร้างแห่งละไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งครั้งนั้นนายประสิทธิ์ วุฒินันชัย อดีต ส.ส. เชียงใหม่ ได้เชิญนายกเทศมนตรี นายก อบต. เขตอ.ฝาง และอ.แม่อาย ให้ไปพบที่สำนักงานของนายประสิทธิ์ และได้แจกเอกสารสรุปผลการประเมินก่อสร้าง แบบ ปร 5 รวมค่าก่อสร้างเป็นเงิน 1,999,000 บาท ต่อมาสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เข้ามาตรวจสอบและระบุว่าการก่อสร้างแต่ละแห่งใช้จ่ายงบประมาณสูงเกินจริง ซึ่ง สตง.ประเมินค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 9 แสนบาทเท่านั้น แต่ หลัง สตง.ตรวจสอบไม่ถึง 2 เดือน ปรากฎว่าทางป.ป.ช.ได้รีบเร่งตั้งคณะอนุกรรมการฯไต่สวนพวกตน
"ป.ป.ช.ได้ตั้งอนุกรรมการไต่สวนเร่งด่วน โดยให้เวลาชี้แจงเพียง 7-15 วันทั้งที่เป็นข้อหาในความผิดร้ายแรง นอกจากนี้บางรายทาง ป.ป.ช. ได้มีหนังสือแจ้งให้มารับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจงภายในวันเดียวกัน ซึ่งผมตั้งข้อสังเกตว่าจากข้อกล่าวหาของอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช. จุดเริ่มต้นและบทสรุปแห่งพฤติการณ์การกระทำความผิดดังกล่าวมีนายประสิทธิ์ เป็นคนสำคัญที่ก่อเรื่องนี้ทั้งหมด แต่กลับไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหา อีกทั้งยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของกลุ่มบริษัทเอกชน ที่ดำเนินการก่อสร้าง ดังนั้นขอให้ผู้ตรวจได้ให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาว่าทางป.ป.ช.ได้มีการตั้งธงเพื่อชี้มูลความผิดของผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 79 รายไว้ล่วงหน้าหรือไม่" นายพิพัฒน์ ระบุ
พร้อมทั้งให้ส่งฝ่ายกฎหมายของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเข้าไปช่วยเหลือให้คำปรึกษาด้านกฎหมายและสังเกตการการไต่สวนของอนุกรรมการในครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ขอให้มีหนังสือแจ้งให้ ป.ป.ช. ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนดังกล่าว และให้ตั้งคณะสอบสวนใหม่โดยเป็นตัวแทนจาก ป.ป.ช. ที่ไม่ได้มาจาก ป.ป.ช.ภาค 5 และขอให้มีหนังสือแจ้งถึงคณะกรรมมาธิการฯงบประมาณของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้ตรวจสอบคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนของป.ป.ช. ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ด้านนายกมลธรรม วาสบุญมา ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและคดี กล่าวว่า จะรับเรื่องไว้ และดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว เพื่อพิจารณาว่าจะเสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไป ทั้งนี้จะมีหนังสือแจ้งไปยังสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทยเป็นระยะ จนกระทั่งถึงขั้นตอนวินิจฉัยว่าดำเนินการอย่างไร.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |