22 ส.ค. 61 - จากกรณีปริมาณแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นรวดเร็วอย่างผิดปกติ สาเหตุหนึ่งอาจมีมีปัจจัยมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ปล่อยน้ำจากเขื่อนลงมาสมทบ จนทำให้จังหวัดลุ่มแม่น้ำโขงตั้งแต่เลย หนองคาย บึงกาฬ และนครพนม ต่างได้รับผลกระทบพร้อมๆกัน ซึ่งจังหวัดหนองคายมวลน้ำเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมเมืองแล้ว ส่วนจังหวัดนครพนมได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เพราะต้องรองรับมวลน้ำจากเขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนครอีกทางหนึ่ง โดยน้ำอูนจะไหลผ่านอำเภอนาหว้า ก่อนจะไปรวมกับแม่น้ำสงครามที่อำเภอศรีสงคราม แล้วไหลลงแม่น้ำโขงที่ ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน ซึ่งปกติแล้วลำน้ำสงครามนั้นไหลเร็วกว่า จึงเป็นเหตุให้น้ำอูนไหลเข้าไปสมทบไม่ได้ มวลน้ำจึงเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎร เส้นทางสัญจรหลายสายถูกปิดการจราจรชั่วคราว    

ล่าสุดชลประทานจังหวัดนครพนม รายงานสถานการณ์น้ำจากสถานีแม่น้ำสงคราม ต.หาดแพง อ.ศรีสงคราม เวลา 07.00 น. ว่าระดับน้ำอยู่ที่ 13.67 เมตร จ.นครพนม เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) 12 เซนติเมตร (ซม.) ต่ำกว่าระดับตลิ่งเพียง 83 ซม. ปริมาณน้ำฝน 29.30 มิลลิเมตร (มม.) ขณะที่ประตูระบายน้ำลำน้ำอูน อ.ศรีสงคราม มีการเร่งระบายน้ำเพื่อผลักดันลงแม่น้ำสงคราม แต่เป็นด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมวลน้ำอูนไหลช้ากว่า ปริมาณน้ำตรงประตูน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 12 ซม. ชลประทานฯต้องเฝ้าจับตามองปริมาณน้ำตลอด 24 ชม. เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่น่าห่วงกว่าที่อื่น

ส่วนปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงที่สถานีตรวจวัดชุมชนหนองแสง เขตเทศบาลเมืองนครพนม เวลา 07.00  น. ระดับน้ำอยู่ที่ 11.92  เมตร เพิ่มขึ้นจาก 21 ส.ค.ตอนเช้าถึง 24 ซม.  ปริมาณน้ำฝน  0.5  มม. โดยสถานีอุตุนิยมวิทยานครพนม แจ้งปริมาณน้ำฝน 3 อันดับแรกว่า 1.อ.ท่าอุเทนมีฝนตกหนักสุดวัดได้ 78 มม. 2.นาหว้า 60 มม. และ 3.นาทม 55 มม. ซึ่งทางจังหวัดได้ประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเพื่อหาทางรับมือจากมวลน้ำที่ขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ว.