ครม.รับข้อเสนอ 34บิ๊กโปรเจ็กต์ ดันเศรษฐกิจได้


เพิ่มเพื่อน    

    นายกฯ ลั่นประชุม ครม.นอกสถานที่ไม่ใช่การมาเพื่อแจกเงิน แต่ทำให้เกิดความเชื่อมโยงในกลุ่มจังหวัด รับข้อเสนอไปพิจารณา แต่ยังไม่อนุมัติ ขอดูแผนงาน-งบ-ลำดับเร่งด่วน พร้อมขันนอตความสะอาดสู่ไทยแลนด์ริเวียร่า ชี้สถิติการพัฒนาดีทุกด้าน อย่าให้ถอยหลังเพราะการเมือง โวมีคนหนุนจำนวนมากอยากให้อยู่นานๆ ครม.เห็นชอบบิ๊กโปรเจ็กต์ระเบียงเศรษฐกิจใต้ รับข้อเสนอเอกชน 34 โครงการ กว่า 2 แสนล้านบาท
    ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร วันที่ 21 สิงหาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ว่า การประชุม ครม.นอกสถานที่ไม่ใช่การมาเพื่อแจกเงิน แต่มาทำให้เกิดความเชื่อมโยงในกลุ่มจังหวัด โดยเฉพาะเรื่องที่มีการพูดถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) ซึ่งมีความแตกต่างจากเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ได้รับทราบข่าวว่าหลายจังหวัดมีความประสงค์อยากเข้าร่วมใน SEC ทั้งที่เป็นเรื่องคนละประเด็น เนื่องจาก SEC เป็นเรื่องของการสร้างกิจกรรม เพื่อให้เกิดรายได้จากความเชื่อมโยงในจังหวัดที่สามารถเริ่มได้ก่อน เช่น เรื่องการท่องเที่ยว เรื่องโลจิสติกส์ สนามบิน ท่าเรือ เพื่อเพิ่มมูลค่าในภูมิภาคให้มากขึ้น 
    ภายหลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุม ครม.ครั้งนี้ไม่ได้อนุมัติอะไร เพียงแต่เป็นการรับฟังข้อเสนอแนะของภาคเอกชน สภาเกษตรกร ในเรื่องที่ต้องดำเนินการเกี่ยวกับศักยภาพของ 11 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออก โดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่ 80 เปอร์เซ็นต์ รัฐบาลมีแผนงานที่จะลงทุนและดำเนินการ และได้รับข้อเสนอส่วนที่เหลือเพื่อไปพิจารณา ตนบอกหลายครั้ง เวลามาไม่ใช่อนุมัติทุกเรื่อง ต้องไปดูงบประมาณ จัดลำดับความเร่งด่วน โดยเฉพาะ SEC ที่ต้องทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มขึ้น 
    นายกฯ ระบุว่า ที่มีการเสนอมา 5 ด้าน ได้แก่ เรื่องโลจิสติกส์ การท่องเที่ยว การยกระดับผลผลิตการเกษตร การพัฒนาการคุณภาพชีวิตและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถ้าถามมาว่าจะอนุมัติโครงการเมื่อไหร่ อย่างไร ยังตอบไม่ได้ ต้องไปดูแผนงานว่าอะไรที่มีอยู่แล้วบ้าง ถ้าไม่มีก็จะปรับแผนให้ ถ้ามาวันนี้อนุมัติทั้งหมดก็ประมาณกว่า 40,000 ล้านบาท จะหาเงินที่ไหนให้ได้ ต้องเข้าใจการบริหารงานของรัฐบาล ไม่ใช่ให้ทั้งหมด ต้องรับไว้ศึกษาไว้เริ่มต้น ไว้ปรับของเดิมเพื่อให้ตรงกับศักยภาพ หากย้อนหลังไปดู 10-20 ปีที่แล้ว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภาคใต้ทัดเทียมคนอื่นหรือไม่ หลายอย่างไม่ได้รับการพัฒนา 4 ปีที่ผ่านมาเราให้เรื่องโครงสร้างพื้นฐานลงไปเยอะ โดย SEC ก็เช่นกัน เริ่มต้นที่ จ.ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช และสร้างห่วงโซ่ไปจังหวัดอื่น ซึ่งการลงทุนเหล่านี้จะอยู่ในกฎกติกาที่มี BOIปกติ, BOI EEC และ BOI SEC 
    "รัฐบาลทำตามกรอบแผนงานทุกอย่าง ไม่ใช่ใครอยากเสนองบประมาณอะไรเข้ามาก็อนุมัติ จะต้องดูแลงบประมาณเหล่านี้ด้วย วันนี้รัฐบาลทำทั้งเรื่องการทำความเข้าใจในยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทแผนงานโครงการต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อนในการใช้งบประมาณ ทุกอย่างที่เสนอมาต้องมาเชื่อมเข้ากับแผนแม่บท มีแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี ซึ่งเป็นแผนแม่บท 5 ปีแรก ดังนั้นทุกอย่างอยู่ในกรอบนี้หมด จะอนุมัติให้พร้อมกันไม่ได้" นายกฯ กล่าว
     พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ประชุมได้เน้นย้ำการรักษาความสะอาด กำจัดขยะถุงพลาสติก ในเมื่อเราจะทำให้ฝั่งทะเลอ่าวไทยเป็นไทยแลนด์ริเวียร่า ก็จะต้องไปเน้นเรื่องของความสะอาด การจัดระเบียบต่างๆ ที่จะไม่สร้างผลกระทบความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ และได้ประโยชน์ ได้หารือถึงมาตรการดูแลพืชผลการเกษตรทั้ง 6 ชนิด ได้แก่ ข้าว ปาล์ม ยางพารา มันสำปะหลัง อ้อย และข้าวโพด ซึ่งจะต้องไปดูการบริหารจัดการที่มีอยู่เดิม วันนี้ก็ให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูล หรือบิ๊กดาต้า ในการปลูกพืชทั้งหมดว่าปลูกในพื้นที่ถูกหรือผิดกฎหมายที่จะต้องหามาตรการแก้ไข มิเช่นนั้นวันหน้าเราจะมีปัญหามาตรการทางการค้าของต่างประเทศ 
    ส่วนโครงการประชารัฐและไทยนิยมขณะนี้มีความก้าวหน้าตามลำดับ โดยเฉพาะโครงการไทยนิยม ได้รับการตอบรับมากขึ้น ประชาชนเริ่มมีความเข้าใจมากขึ้นว่าเป็นการเริ่มต้นเป็นกระบวนการระเบิดจากข้างใน แล้วในส่วนของท้องถิ่น ในส่วนของงบประมาณส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคก็จะเติมไปทีหลัง 
    “จากข้อมูลสมาคมหอการค้าหรือหลายประเทศ จะเห็นว่าสถิติเราดีขึ้น วันนี้เศรษฐกิจรายไตรมาสก็ดีขึ้น เรื่องทุจริตก็ดีขึ้น รายได้ประเทศก็ดีขึ้น ถือเป็นความก้าวหน้าของประเทศของเรา เราอย่าไปทำให้ถอยหลังด้วยการเมือง ข้อสำคัญวันหน้ารัฐบาลต่อไปจะทำอย่างไร ที่สอดคล้องและต่อเนื่อง ถ้าไปล้มกันใหม่ ทำกันใหม่ ก็เหมือนเดิม ประเทศไทยก็กลับที่เก่า" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 
    ต่อมาเวลา 14.30 น. ที่ธนาคารปูชายหาดพระจอมเกล้า (สจล.) วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ พล.อ.ประยุทธ์ร่วมกิจกรรมปล่อยลูกปูม้าจำนวน 10 ล้านตัว คืนสู่ทะเล ร่วมกับชาวประมงกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล กลุ่มท่องเที่ยวทางทะเลและชุมชน โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวหยอกล้อกับเด็กๆ ในชุมชนว่า “กินปูกันหรือไม่ เบื่อปูกันหรือยัง กินกันบ่อยแล้วซิ แสดงว่าเบื่อปูกันแล้วใช่มั้ย”  ภายหลังปล่อยปู พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวอีกว่า “ผมก็เปรียบเหมือนพ่อปู ขอให้เดินตามพ่อปูต่อไป เพราะการเดินตามแม่ปูมันจะเลี้ยวไปเลี้ยวมานะ”
    ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวกับประชาชนที่มาต้อนรับประมาณ 300 คนว่า การเกษตรหลายอย่างราคาตก โดยเฉพาะยางพาราและปาล์มน้ำมัน จึงต้องคำนึงถึงการตลาด เพราะหากสินค้าเกษตรราคาตก แต่ขอเงินจากรัฐบาลเพิ่ม ประเทศจะล้มละลาย เหมือนกับในหลายประเทศ เหมือนกับประชานิยมที่ใช้เงินจำนวนมาก ประชาธิปไตยที่ทุกคนต้องการนั้น ไม่ใช่การบอกว่าจะให้ ไม่ใช่การเสนอว่าให้ถนนหรือสร้างสะพานให้ชาวบ้าน ต้องดูงบประมาณของประเทศ รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับทุกภาค
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนการทุจริต จะต้องว่ากันตามกระบวนการ ไม่ใช่โจมตีทุกอย่าง จนเละไปหมด หากเจอคนไม่ดี ก็พร้อมปลดออก อย่างที่เคยปลดออกไปหลายคนแล้ว แต่ขอให้มีหลักฐาน ส่วนการเลือกตั้งในวันหน้าขออย่าให้เหมือนเดิมก็แล้วกัน ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะอยู่พรรคไหน แต่ก็มีคนสนับสนุนผมจำนวนมาก โดยสนับสนุนให้อยู่นานๆ แต่ที่สุดแล้วจะอยู่อย่างไรยังไม่ทราบ 
    จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ชูมือทำสัญลักษณ์ไอเลิฟยู โดยมีประชาชนปรบมือให้กำลังใจ และตะโกน “รักลุงตู่” ก่อนที่จะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคนคิดยาวๆ เพื่อบ้านเมือง ยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์ใดๆ แม้จะเข้ามาด้วยวิธีการพิเศษ แต่ก็มาแก้ปัญหาให้ทุกคน ที่ทำงาน 4 ปีนี้ ถือว่าทำได้มากกว่ารัฐบาลอื่นด้วยซ้ำ พร้อมขอให้ประชาชนสัญญาว่าจะไม่ทะเลาะกัน พร้อมขอให้ทุกคนอยู่อย่างปรองดอง สมานฉันท์ อย่าให้ใครชวนขึ้นรถเพื่อไปชุมนุมประท้วงเหมือนที่ผ่านมา ขออย่าให้เกิดคดีความขึ้นอีก เมื่อได้รับผลกระทบจากการชุมนุมแล้วจะได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล 7.5 ล้าน เหมือนที่แล้วมาอีกแล้ว เพราะไม่มีอีกแล้ว ยังมีคดีกันอยู่
    ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบโครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือเอสอีซี โดยเน้นการพัฒนาด้านการเกษตรและการท่องเที่ยวเป็นหลัก ซึ่งในระยะแรกจะปักธงทำก่อนใน 4 จังหวัด คือ ชุมพร ระนอง นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบราง ท่าเรือ และสนามบิน หากผลักดันโครงการดังกล่าวออกมาได้สำเร็จไปพร้อมๆ โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก หรือ ไทยแลนด์ริเวียร่า จะช่วยเปลี่ยนโฉมพื้นที่ภาคใต้ให้มีความสำคัญกับเศรษฐกิจประเทศมากขึ้น จะมีการเชื่อมระหว่างโครงการอีอีซีและเอสอีซีเข้าด้วยกัน โดยจะมีรถไฟทางคู่มาเชื่อมลงจากชุมพรถึงระนอง ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นเฟสแรกที่รัฐบาลต้องการทำให้เกิดขึ้นเร็ว โดยในพื้นที่จังหวัดระนองมีท่าเรือสำคัญที่ทำการเชื่อมโยงระหว่างอีอีซี ขนของมาลงที่นี่ได้ ส่วนชุมพรก็มีผลไม้ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราชก็มีภาคเกษตรที่เข้มแข็ง ทั้งปาล์มน้ำมันและยางพารา ต่อไปเมื่อเชื่อมโยงกันแล้ว พืชผักผลไม้จะขนออกไปสู่ทะเลฝั่งอันดามันได้ ส่วนสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทางบีโอไอได้รับไปดูแล้ว
    "ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบข้อเสนอภาคเอกชน ภายหลังจากนายกฯ ได้ประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ร่วมกับภาคเอกชนในพื้นที่ โดยมีโครงการรวม 34 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2 แสนล้านบาท ครอบคลุม 5 ด้าน คือ ด้านโลจิสติกส์ การค้า การลงทุน ด้านท่องเที่ยว ด้านเกษตร ด้านพัฒนาคุณภาพชีวิต และด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ประชุม ครม.ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานรับข้อเสนอของภาคเอกชนไปผลักดันต่อไป" นายสมคิดกล่าว. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"