5 เสือกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่ ภายใต้การนำของ อิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง หลังเริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ภายใต้ภารกิจหลักที่รออยู่คือ

       "การจัดการเลือกตั้ง ส.ส." ในต้นปีหน้า

        การเตรียมพร้อมของ 5 เสือ กกต.จึงต้องเริ่มต้นแล้วตั้งแต่ตอนนี้ เพราะมีเวลาค่อนข้างจำกัด

        สำหรับการทำงาน เรื่องของ "ทีมงานหน้าห้อง-ทีมที่ปรึกษา" ในการทำงานของบุคคลสำคัญ-องค์กรต่างๆ ถือว่ามีความสำคัญไม่น้อย

        ที่ปรากฏว่า หลังจาก 5 เสือ กกต.เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา วันเดียวกัน กกต.ทั้ง 5 คน ก็เสนอรายชื่อที่ปรึกษา-ผู้เชี่ยวชาญประจำตัวและเลขานุการ ที่จะมาเป็นทีมงานหน้าห้องให้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ออกคำสั่ง แต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ และเลขานุการประจำประธานกรรมการ กกต. และกรรมการ กกต.ทันที

        ทั้งนี้ ที่ปรึกษา-ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว-เลขานุการของประธาน กกต.และ กกต.แต่ละคนมีดังนี้

        เริ่มที่ “อิทธิพร บุญประคอง" ประธานกรรมการ กกต. มี อนุชา จันทร์สุริยา เป็นที่ปรึกษา ซึ่งก่อนหน้านี้นายอนุชาเคยเป็นที่ปรึกษา ประวิช รัตนเพียร อดีต กกต.ที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่ง

        ฟาก กกต.สายนักวิชาการ "สันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์” ก็มีชื่อ นางธีราลักษณ์ รมยานนท์ ประธานกรรมการ บริษัท ไทยฟิงเกอร์ ครอส เอ็นเตอร์ไพรส์ อดีตที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ประจำคณะกรรมาธิการการเงินการคลังและการธนาคาร สภาผู้แทนราษฎร ที่มี ไชยา พรหมมา อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน มานั่งเป็นที่ปรึกษา โดยมี ชวลิต ชูขจร อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีดีกรีเนติบัณฑิตไทยมาเป็นผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงมีชื่อ อัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อดีตอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นผู้เชี่ยวชาญด้วยอีก 1 คน

        สำหรับ ชวลิต อดีตปลัดเกษตรฯ ก่อนหน้านี้เพิ่งพ้นวิบากกรรม หลังเคยถูก ครม.ประยุทธ์สั่งเด้งฟ้าผ่าจากปลัดเกษตรฯ ไปนั่งตบยุงที่สำนักนายกฯ เพราะมีชื่อถูก ป.ป.ช.สอบสวนกรณีทุจริตจำนำลำไยปี 47 ในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร แต่สุดท้าย เมื่อปี 58 ป.ป.ช.มีมติ 5 ต่อ 4 ให้นายชวลิตพ้นข้อกล่าวหา

        ขณะที่ “ธวัชชัย เทิดเผ่าไทย" กกต.สายอดีตมหาดไทย ก็มีชื่อของอดีตคนมหาดไทยมาเป็นทีมงานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น สยุมพร ลิ่มไทย อดีตผู้ว่าฯ เพชรบุรี สตูล ระยอง ที่เป็นเพื่อนสิงห์ดำ รัฐศาสตร์ จุฬาฯ และล่าสุดเป็นอดีต สปช.มานั่งเป็นที่ปรึกษา โดยมีผู้เชี่ยวชาญประจำตัวอีก 3 คน ที่ล้วนเป็นอดีตคนมหาดไทยทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น เริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี อดีตผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา กาญจนบุรี นครพนม และปัจจุบันก็ยังมีชื่อเป็น “คณะทำงาน รมว.มหาดไทย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา-มท.1” อีกด้วย นอกจากนี้ยังตั้ง สมดี คชายั่งยืน อดีตผู้ว่าฯ ชุมพร และ ธงชัย ลืออดุลย์ อดีตผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ และอดีต ผวจ.ที่เป็นอดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปประเทศ พร้อมกับ ธวัชชัย-กกต. มาเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว

        ด้าน กกต.สายศาล ก็น่าสนใจไม่น้อย เมื่อ “ฉัตรไชย จันทร์พรายศรี" กกต. ตั้ง “พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม" อดีตจเรตำรวจ อดีต ผบช.ตำรวจภูธรภาค 5 น้องชาย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม แกนนำ สนช. มาเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ทีมงานหน้าห้อง 

        สำหรับ "พล.ต.ท.สมคิด" ถือได้ว่าเป็นคนที่มีชื่ออยู่ในลิสต์ฝ่ายตรงข้ามของพรรคเพื่อไทย-เสื้อแดงมาตลอด ตั้งแต่สมัยเป็น ผบช.ภาค 5 คุมพื้นที่เชียงใหม่-เชียงราย จนทำให้เสื้อแดงภาคเหนือตอนนั้นขยับลำบาก แต่ที่สำคัญก็คือ พล.ต.ท.สมคิด คือผู้ทำสำนวนการสอบสวนคดีทุจริตซื้อเสียงที่จังหวัดเชียงราย ที่มีการเอาผิด “ยงยุทธ ติยะไพรัช" อดีตประธานสภาฯ จนนำไปสู่การยุบพรรคพลังประชาชน และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลจนทำให้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ขึ้นไปเป็นนายกฯ

        การเห็นชื่อของ พล.ต.ท.สมคิด มาเป็นที่ปรึกษา กกต. คงทำให้ฝ่ายเพื่อไทยหนักใจไม่ใช่น้อย

        ปิดท้ายที่ “ปกรณ์ มหรรณพ" กกต.จากสายศาลฎีกา ก็ได้ตั้ง พล.ท.สมบัติ ปานกุล อดีต ตท.13 เป็นที่ปรึกษา ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ก็ตั้ง “พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี” อดีต ส.ว.สรรหา ซึ่งเคยไปเป็นพยานฝ่ายอัยการที่ศาลฎีกาฯ ในคดี จำนำข้าว-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาแล้วในฐานะเป็นอดีตประธานอนุกรรมาธิการติดตามตรวจสอบการระบายข้าวของวุฒิสภา จนต่อมายิ่งลักษณ์ถูกศาลตัดสินจำคุก 5 ปี นอกจากนี้ยังมีชื่อ ชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ อดีตผู้ว่าฯ กาญจนบุรี อดีต สปช. มานั่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้วยอีก 1 คน

        เรียกได้ว่ารายชื่อที่ปรึกษา-หน้าห้อง ของ กกต.หลายคนล้วนไม่ธรรมดา 

        ทั้งนี้ เงินเดือน ที่ปรึกษา ประธาน กกต.และ กกต.จะได้เดือนละ 6 หมื่นบาท ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญประจำตัวได้ 4 หมื่นบาท.