บันทึกหน้า4


เพิ่มเพื่อน    

        ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" มีความชัดเจนเรื่องโรดแมปเลือกตั้งอีกครั้งจาก บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ที่บอกว่า "เรายังคงยืนยันว่าการเลือกตั้ง จะเป็นไปในเดือน ก.พ.2562 ไปก่อน ตามที่เคยพูดไว้ แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ค่อยว่ากันอีกที ส่วนปัจจัยที่จะทำให้การเลือกตั้งเร็วขึ้นนั้น ยังไม่มี เบื้องต้นจะเป็นวันที่ 24 ก.พ.2562" สรุปแล้วการเลือกตั้งไม่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 24 ก.พ.62 แน่นอน ส่วนวันที่ 24 ก.พ. จะแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์หรือไม่ บิ๊กตู่ ก็ไม่รับประกัน เพราะยังเผื่อหากเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงไว้เหมือนกันอย่างที่ว่า "หากทำไม่ได้ ก็ค่อยว่ากันอีกที" แต่ ณ วันนี้เคาะวันที่ 24 ก.พ.62 ไปก่อนเท่านั้นเอง...0

ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่ที่มี นายอิทธิพร บุญประคอง เป็นประธานฯ ก็ฟิตเป็นพิเศษนัดประชุมทุกวันจันทร์-อังคาร สำหรับประเด็นที่ยังถกเถียงกันไม่จบคือ เรื่อง ไพรมารีโหวต ที่อาจต้องแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองหรือถึงขั้นแก้รัฐธรรมนูญ แถมอาจใช้ ม.44 แก้นั้น ถือว่าไม่เหมาะสมทั้งสิ้น จะเป็นการใช้ ม.44 แบบพร่ำเพรื่อ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าคณะกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ เสนอว่า "สิ่งที่ คสช.ควรทำคือ ยกเลิกคำสั่งที่ 53/2560 น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ต้องไม่ลืมเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 หากไม่ทำก็ต้องมีวิธีอื่นที่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ คือให้สมาชิกมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางในการกำหนดตัวผู้สมัคร โดยต้องมีวิธีอื่นที่ดีกว่า และสังคมยอมรับได้มากกว่า” แล้วยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ตัวเองเขียนมากับมือมันยากตรงไหน หากไม่มีวาระซ่อนเร้นเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของฝ่ายตัวเอง...0

ส่วนฝ่ายการเมืองก็เตรียมตัวกันอย่างคึกคักเช่นกัน ที่น่าจับตา พรรคเพื่อไทย ใกล้ถึงเวลาที่ นายใหญ่-ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคตัวจริง ต้องเคาะแล้วว่าจะชูใครเป็นหัวหน้าพรรค และชงชิงเก้าอี้นายกฯ คนต่อไป จะแก้เกมกรณีพรรคอาจถูกยุบอีกครั้งอย่างไร แกนนำพรรคจึงต้องบินไปรับใบสั่งที่ประเทศจีน ตอกย้ำว่าทักษิณบงการทุกอย่างในเพื่อไทย ยิ่งหากเคาะชื่อ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ เป็นผู้ถือธงให้เพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า ก็ตอกย้ำว่า ทักษิณ ไม่ไว้วางใจใครนอกจากเครือญาติตัวเอง โดยเฉพาะ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ยิ่งหมดสิทธิ์ปิดประตูไปเลย แม้แต่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ที่แนะเพื่อไทยให้ยึดหลักการมากกว่าตัวบุคคล นายใหญ่ ก็ไม่ไว้วางใจ ถ้า น.ช.ทักษิณ ยังสู้เพื่อตัวเองเหมือนเดิม มวลชนก็มีแต่จะหดหาย...0

        เห็นรายชื่อ 7 ว่าที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่เพิ่งผ่านคณะกรรมการสรรหาฯ แล้วต้องบอกว่า ดี เด่น ดัง กันทุกคน 1.นางสมศรี กาญอนันทสุข ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ 2.นายไพโรจน์ พลเพชร ประธานมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม 3.นายจตุรงค์ บุณยรัตนสุนทร ประธานกรรมการบริหารหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารสวัสดิการสังคม ม.หัวเฉียวฯ 4.บุญแทน ตันสุเทพวีรวงศ์ เลขาธิการมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา 5.นางสาวปิติกาญจน์ สิทธิเดช อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม 6.นางสาวพรประไพ กาญจนรินทร์ อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ 7.นายสุรพงษ์ กองจันทึก กรรมการด้านนโยบายด้านการส่งเสริมประชาธิปไตย สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส รอลุ้น สนช.ตรวจสอบประวัติ หากผ่านทุกคนหวังว่า กสม.ชุดใหม่จะกอบกู้เกียรติภูมิกลับคืนมาได้...0

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีมีการเสนอปรับแก้กฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก และ พ.ร.บ.รถยนต์ เข้าเป็นกฎหมายฉบับเดียว มีการเพิ่มอัตราโทษค่าปรับให้สูงขึ้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน 1.ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต กฎหมายเดิมลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท แต่กฎหมายใหม่เสนอให้ปรับเพิ่มโทษเป็น จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท 2.ขับรถในระหว่างใบอนุญาตสิ้นอายุ ถูกพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาต หรือถูกยึดใบอนุญาต เดิมลงโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท กฎหมายใหม่เสนอให้เพิ่มโทษจำคุกเข้ามาด้วย คือ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับเพิ่มขึ้นเป็นสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท 3.ขับรถโดยไม่แสดงใบอนุญาต เดิมปรับไม่เกิน 1,000 บาท กฎหมายใหม่เสนอให้ปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ปัญหาไม่ได้อยู่ที่บทลงโทษ แต่อยู่ที่การบังคับใช้กฎหมายอย่างสุจริตและเสมอภาค เพราะคนรวยยังอยู่เหนือกฎหมาย เจ้าหน้าที่ยังรีดไถผู้ขับขี่ จึงต้องปฏิรูปตำรวจทั้งระบบก่อน...0


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"