แต่ไหนแต่ไร เราจะได้ยินได้ฟังสุภาษิต..ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน..ซึ่งเชื่อว่าอายุปูนนี้แล้วต้องรู้ความหมายได้อย่างดี  
    ในชีวิตจริงนั้น ระยะทางก็สามารถพิสูจน์คนได้ด้วย คุณเคยสังเกตหรือเปล่า ไม่ใช่แต่เวลาเท่านั้นที่พิสูจน์ทราบ 
    อย่างน้อยที่สุด หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวเรื่องเล่าที่บอกว่า คนที่เป็นแฟนกัน เดินขึ้นภูกระดึงมักจะเลิกกันแทบทุกคู่เมื่อลงมาแล้ว หรือแม้แต่เพื่อนรักสมัครสมาน ขึ้นไปแล้วก็อาจจะทะเลาะเบาะแว้ง สวมรองเท้าคอนเวิร์ส..ทางใครทางมันเลยทีเดียว
    นั่นเป็นเพราะว่า ระยะทางที่ปีนขึ้นไปบนภูกระดึงนั้น มันแสนจะยากเย็นและลำบากลำบน ถึงกับมีการตั้งชื่อจุดพักจุดแรกว่า "ซำแฮก" ก็เพราะว่าเหนื่อยแฮก ลิ้นห้อยกันทุกคนนั่นเอง
    นอกจากนั้น เมื่อปีนไปถึงบนนั้นแล้ว เวลาจะไปชมสถานที่ไฮไลต์ต้องเช็กอินแต่ละแห่งนั้น ก็ต้องเดินๆๆ เป็นกิโล แถมต้องแหกตาตื่นแต่เช้า 
    ความเหนื่อย ความล้า ความเมื่อย ความง่วง ล้วนเป็นเพชฌฆาตแห่งความเครียด และตัวก่อเชื้อไฟอารมณ์หงุดหงิด ฉุนเฉียว ตามด้วยอาการเห็นแก่ตัว ดังนั้นใครที่สวมแว่นตาสีชมพูไปปีนภูกระดึง ก็มักจะตาสว่าง ว่า..อ้าว..นี่คือตัวตนแท้จริงของคนที่เรากำลังอินเลิฟรึ!!
    ระยะทางพิสูจน์คนชัดๆ เลย 
    แม้แต่รายงานข่าวของเว็บไซต์ในประเทศอังกฤษยังระบุว่า คู่แต่งงานเมืองผู้ดีนั้นมีสถิติที่จะแยกทางและหย่าร้างกันเพิ่มขึ้น หลังจากเสร็จสิ้นการไปเที่ยวซัมเมอร์ 
    ตลกร้ายนะคะ แต่มันคือความจริงที่ไปเที่ยวกันทั้งครอบครัว กลับมาก็แยกทางกัน นั่นเป็นเพราะระยะทางทำให้ต้องเหนื่อย ต้องเผชิญกับบรรยากาศที่ไม่คาดหวัง แล้วบีบคั้นให้เกิดความขัดแย้งกัน เหมือนเคยมีสังคมที่เรียบง่ายจากบ้านไปทำงาน พาลูกไปโรงเรียน ไปห้างซื้อของเข้าบ้าน ช็อปปิ้ง แต่พอเดินทางไกลไปจากบ้าน ต้องเตรียมสรรพสิ่งต่างๆ มากมาย ไม่พอ ต้องคอยลุ้นว่าจะเจอกับประสบการณ์ที่แปลกแหวกแนวอะไรบ้าง แม้แต่ยืนรอเข้าห้องน้ำกันนานก็เป็นเรื่องได้
    แล้วเจ้าเว็บไซต์ที่ว่าก็มีข้อแนะนำค่ะ ว่าไปเที่ยวซัมเมอร์อย่างไรไม่ให้ชีวิตครอบครัวพังทลาย
    ถ้าทุกชีวิตมีสูตรสำเร็จ ทำตาม 1-2-3-4 เหมือนบัญญัติไตรยางค์ โลกก็คงไม่วุ่นวาย แต่คำแนะนำก็คือ ข้อเสนอแนะ รู้ไว้ใช่ว่าไม่เสียหายอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตอกย้ำว่าครอบครัวนั้นไม่ได้มีแต่ลูกเท่านั้น แต่ยังมีฉันและเธอด้วย อย่าลืมดูแลกันและกัน ปัญหาใหญ่ก็จะกลายเป็นเรื่องเล็กที่แก้ไปด้วยกันได้.
                                        "ป้าเอง"